วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 03:43 น.

การเงิน หุ้น

EKH ประเมินวัคซีนเข้าไทย หนุนธุรกิจรพฟื้น -ศูนย์IVFสัญญาณดี

วันพฤหัสบดี ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2564, 12.01 น.
EKH ประเมินวัคซีนเข้าไทย
หนุนธุรกิจรพฟื้น -ศูนย์IVFสัญญาณดี 
 
 
บมจ.เอกชัยการแพทย์ (EKH) ประเมินแนวโน้มธุรกิจโรงพยาบาลฟื้นตัวชัดเจน หลังวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เตรียมเข้ามาใช้ในประเทศไทยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ฟาก"นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร" ระบุ ศูนย์IVF สัญญาณดี ลูกค้าจีนต่อคิวรอเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่ผู้ป่วยในและผู้ป่วย ยังคงทยอยเข้ารับบริการต่อเนื่อง มั่นใจผลงานปี64 เติบโตอย่างแข็งแกร่งสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ
 
นายแพทย์อำนาจ เอื้ออารีมิตร กรรมการและผู้อำนวยการโรงพยาบาล บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจโรงพยาบาลน่าจะมีทิศทางฟื้นตัวอย่างชัดเจน เนื่องจากมีความคืบหน้าของการนำวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ออกมาใช้กันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยคาดว่าจะมีการนำมาใช้ได้ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งจะทำให้การเข้าใช้บริการในโรงพยาบาลมากขึ้น
 
ขณะที่การบริการทางการแพทย์ ในด้านต่างๆ ยังเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ ซึ่งมีผู้ป่วยกลับมาใช้บริการราว 80% โดยเฉพาะมีผู้มาใช้บริการเข้ารับการตรวจไวรัสโควิด-19 จำนวนมาก รวมทั้งในส่วนของศูนย์ให้คำปรึกษาสำหรับผู้มีบุตรยาก (IVF) มีสัญญาณที่ดี เนื่องจากกลุ่มลูกค้าจีนให้ความสนใจ และพร้อมที่จะเดินทางมาใช้บริการอย่างต่อเนื่องหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
 
"ที่ผ่านมา ศูนย์ IVF อาจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากฐานคนไข้หลักเป็นกลุ่มชาวจีน แต่มั่นใจว่าหลังจากมีความคืบหน้าของวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จะทำให้ธุรกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของปีจึงขอให้ผู้ถือหุ้น และนักลงทุนเชื่อมั่นว่าธุรกิจของ EKH จะยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ" นายแพทย์อำนาจกล่าว
 
ทั้งนี้  โรงพยาบาลเอกชัย ยังคงมีนโยบายปรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ทั้งในเรื่องของการบริการด้านการแพทย์ Online Telemedicine, Drive Thru, Delivery รวมถึงการเดินทางมาใช้บริการ โดยทางโรงพยาบาลจึงได้วางมาตรการตั้งแต่กระบวนการคัดกรอง การจัดสถานที่พักฟื้น อาคารต้องแยกชั้นจากผู้ป่วยทั่วไปชัดเจน ระบบทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่รัฐบาลกำหนดไว้  ขณะที่บุคลากรทางการแพทย์ ต้องได้รับการอบรมเพิ่มเติม ในการดูแลคนไข้อย่างไรให้ปลอดภัย และป้องกันตนเอง  อีกทั้งทีมแพทย์และพยาบาลมีการอบรมความรู้ให้ทันสมัยสม่ำเสมอ แม้ไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ตาม