การเงิน หุ้น
ค่าครองชีพพุ่ง คนไทยปรับพฤติกรรมใช้เงิน
วันอังคาร ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565, 16.08 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ Omicron ที่น่าจะกระทบจังหวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้สะดุดลงอย่างน้อยในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 มีผลต่อการฟื้นตัวของภาคธุรกิจและกำลังซื้อของครัวเรือน สวนทางกับค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะราคาเนื้อสุกรที่ปรับตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี ราคาไข่ไก่ ราคาน้ำมันพืช ราคาพลังงาน ตลอดจนราคาค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า)
อย่างไรก็ดี ภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของผู้บริโภคบ้างแล้ว เช่น มาตรการตรึงราคาสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นราคาแก๊สหุงต้ม ราคาเนื้อไก่ โครงการหมูธงฟ้า เป็นต้น แต่ถึงกระนั้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีความกังวลและได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายหมวดค่าอาหาร (เนื้อสัตว์ ผักสด ไข่ไก่ น้ำมันพืช อาหารปรุงสำเร็จ และอาหารนอกบ้าน) ค่าสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้า) และค่าเดินทาง (ค่าน้ำมันและค่าขนส่งสาธารณะ) ซึ่งจากการสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า คนกรุงเทพฯ ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อเทียบกับกลุ่มรายได้อื่น ซึ่งราว 36% มองว่า มีค่าใช้จ่ายปรับเพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับช่วงปลายปีก่อนที่จะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าต่างๆ ขณะที่คนกรุงเทพฯ ที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง จะได้รับผลกระทบที่น้อยกว่าโดยเปรียบเทียบและสามารถรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้มากกว่า
ทั้งนี้ ค่าครองชีพที่ทยอยปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ในระยะสั้น คนกรุงเทพฯ วางแผนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคโดยจะเลือกใช้จ่ายเฉพาะที่จำเป็น ลดหรือชะลอการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยและสินค้าคงทน รวมไปถึงลดกิจกรรมสังสรรค์ โดยธุรกิจที่คาดว่าน่าจะได้รับผลกระทบหนักน่าจะเป็นกลุ่มสินค้าแฟชั่น (เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า) รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ยิ่งจะกดดันการฟื้นตัวของธุรกิจดังกล่าวในระยะถัดไป นอกจากนี้ คนกรุงเทพฯ ยังเปลี่ยนไปซื้อสินค้าที่ใช้ทดแทนกันได้ในราคาที่ถูกลง เช่น สินค้ามือสอง สินค้าแบรนด์รอง (House brand) สินค้าในช่วงจัดโปรโมชั่น รวมถึงการเปลี่ยนไปบริโภคเนื้อสัตว์หรืออาหารที่มีราคาถูกลง เป็นต้น ซึ่งถือเป็นโอกาสของสินค้าแบรนด์รองที่จะเข้ามาทำการตลาด เพื่อสร้างการรับรู้ของผู้บริโภคต่อไป
และเมื่อพิจารณาถึงความคาดหวังของคนกรุงเทพฯ ต่อหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการเข้ามาช่วยเหลือและแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น พบว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องการให้ภาครัฐออกมาตรการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 3 อันดับแรก คือ ควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตในหลายประเภทมากขึ้น เช่น ราคาอาหารสดประเภทอื่นๆ เช่น อาหารทะเล ของใช้ในชีวิตประจำวัน และราคาพลังงาน เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ตลอดจนต้องการให้ขยายมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพด้านสาธารณูปโภค (ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา) ที่สิ้นสุดลงตั้งแต่ ก.ย 2564 ขณะที่ในส่วนของภาคเอกชน ผู้บริโภคต้องการให้ผู้ประกอบการชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้า หรือลดปริมาณสินค้า (Resize) แทนการปรับขึ้นราคาหากจำเป็น และเพิ่มการจัดโปรโมชั่นกิจกรรมลดราคาสินค้าให้ถี่ขึ้น โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น เช่น อาหารปรุงสำเร็จ ของใช้ส่วนตัว เป็นต้น
ในระยะข้างหน้า คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังคงมองว่าสถานการณ์ค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นน่าจะยังไม่คลี่คลายในระยะสั้น และกว่า 50% คาดว่าปัญหาดังกล่าวจะลากยาวมากกว่า 1 ปี ซึ่งส่วนใหญ่มีความสามารถในการรับมืออยู่ในเกณฑ์ปานกลางถึงน้อย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า นอกเหนือจากการออกมาตรการเฉพาะหน้าที่จะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของผู้บริโภคในระยะสั้นแล้ว เช่น การตรึงและควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น การจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า เป็นต้น ภาครัฐและเอกชนควรเร่งมือและร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปทานขาดแคลน (Supply shortage) ให้ตรงจุด ตลอดจนควรเพิ่มโอกาสการแข่งขันของผู้ประกอบการรายย่อยในตลาดควบคู่ไปด้วย เช่น การเพิ่มปริมาณสุกรในตลาดผ่านการสนับสนุนเงินทุนและสร้างความมั่นใจให้เกษตรกรรายย่อยกลับมาเลี้ยงสุกรมากขึ้น การใช้มาตรการควบคุมและเฝ้าระวังโรดระบาดในสัตว์ต่างๆ อย่างเข้มงวด การเร่งแก้ไขปัญหาราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ ภาคธุรกิจจะต้องมีความยืดหยุ่นในการปรับตัว และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและสร้างโอกาสการเติบโตในระยะถัดไป เช่น ลดปริมาณหรือขนาดของสินค้า (Resize) แทนการปรับขึ้นราคา การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า รวมถึงการนำฐานข้อมูลลูกค้า (Big data) มาช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อความต้องการได้แม่นยำมากขึ้น เป็นต้น
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเงิน หุ้น
ข่าวในหมวดการเงิน หุ้น
- ธ.ก.ส. จัดประชุมขับเคลื่อนภารกิจสู่ความสำเร็จ Bank Agenda ประจำปี 2567 19:45 น.
- เอสซีบี เอกซ์ ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1 ของปี 2567 จำนวน 11,281 ล้านบาท 14:14 น.
- กรุงศรีเผยผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกปี 2567 จำนวน 7.54 พันล้านบาท 00:38 น.
- เคทีซีเผยงบรวมไตรมาส 1/2567 กำไร 1,803 ล้านบาท เดินหน้าโฟกัสคุณภาพสินทรัพย์ในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม 00:37 น.
- “กรุงไทย” กำไร 11,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เดินหน้าช่วยลูกค้าแก้หนี้ยั่งยืน 20:36 น.