วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 15:17 น.

การเงิน หุ้น

ภาคีแรงงาน NT บุกร้อง กลต.เบรคทรู-ดีแทคตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นส.ค.นี้

วันจันทร์ ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2565, 19.49 น.

เครือข่ายแรงงาน NT ยื่นหนังสือ กลต. เบรคทรู-ดีแทค ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น ส.ค.นี้ ชี้ กสทช.ยังไม่มีมติอนุมัติให้ควบรวม เสี่ยงทำผู้ถือหุ้นรายย่อย เรียกร้อง กลต.ปกป้องสิทธิผู้ลงทุนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2565 นายพิราม เกษมวงศ์ ตัวแทนเครือข่ายแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT ประกอบด้วย กลุ่มพลังรักษ์องค์กร TOT กลุ่มผู้นำแรงงาน บริษัท NT กรรมการประจำฝ่ายการเมืองสภากรรมกรแห่งชาติ กลุ่มพลังใหม่ ทีโอที กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ขอให้พิจารณาและสั่งเลื่อนการรับซื้อหุ้นคืนของบริษัททรูและบริษัทดีแทคออกไปอย่างไม่มีกำหนดจนกว่า กสทช.จะมีมติตัดสินควบรวมออกมาก่อน เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชย์ของบริษัท NT ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในดีแทค จำนวน 134,645,250 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 5.69 นอกจากจะมีรายได้จากเงินปันผลจากดีแทคในฐานะผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอในแต่ละปีเป็นเงินไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และยังมีธุรกิจการให้บริการโทรคมนาคมร่วมกับทรูและดีแทคที่ก่อให้เกิดรายได้และนำส่งรัฐเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัท NT ก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นที่ลงมติคัดค้านการควบรวม ทรูและดีแทคในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามเป็นที่ทราบกันดีว่า ขณะนี้ กสทช.อยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าจะอนุมัติควบรวมได้หรือไม่ เนื่องจากมีผู้ให้ความเห็นคัดค้านเป็นจำนวนมาก หรือหากอนุญาตให้ควบรวมแล้วอาจจะมีมาตรการกำกับใดๆออกมาควบคุมหรือไม่ ซึ่งคาดว่าอาจจะใกล้ถึงกำหนดเวลาที่บริษัทซิทรินฯ ซึ่งจัดตั้งโดยทรูและดีแทคจะเริ่มดำเนินการรับซื้อหุ้นทรูและดีแทคจากผู้ถือหุ้นแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นไม่มีเวลาในการพิจารณาอาจจะส่งผลให้ตัดสินใจผิดพลาด เพราะโดนกรอบระยะเวลาซื้อหุ้นคืนครั้งนี้มาเป็นตัวบังคับ ทางกลุ่มเครือข่ายแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT จึงมายื่นหนังสือที่ กลต.เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด พร้อมขอให้เลื่อนการรับซื้อหุ้นคืนออกไปจนกว่าผลการพิจารณาการควบรวมทรูและดีแทค ของ กสทช.จะเป็นที่ยุติเสียก่อน NT ในฐานะผู้ประกอบการโทรคมนาคม เรามีความกังวลกับกรณีนี้ตามที่เคยประกาศต่อสาธารณชนมาแล้วว่าจะเป็นการสร้างการผูกขาด ลดทางเลือกให้แก่ประชาชน ในขณะเดียวกัน NT ที่แม้จะมีลูกค้าไม่เท่ากับเอกชน แต่มีจุดแข็งที่เป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากและเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้แก่องค์กรเพื่อให้สามารถทำตามนโยบายรัฐ คือ สร้างความมั่นคงในโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่เอกชนไม่สามารถทำแทนได้ เราจึงขอเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องพิจารณากรณีนี้อย่างรอบคอบ

“เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครองกลางที่ระบุว่า กสทช. มีอำนาจเป็นที่สิ้นสุดในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติในดีลนี้ อันเป็นการทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยตกอยู่ในความเสี่ยงอาจจะตัดสินใจผิดพลาด โดยเฉพาะ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ บริษัท NT ผู้ถือหุ้นในดีแทคเสี่ยงเสียหายนับร้อยล้าน”ตัวแทนเครือข่ายแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT กล่าวย้ำ