วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 13:15 น.

ต่างประเทศ

"คิม จอง อึน" อวยพร"ทรัมป์-เมลาเนีย" หายป่วยจากโควิดโดยเร็ว

วันเสาร์ ที่ 03 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 10.24 น.

วันที่ 3 ต.ค.2563 นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้ส่งข้อความเป็นกำลังใจให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐในวันนี้ โดยอวยพรให้ปธน.ทรัมป์และนางเมลาเนีย สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง หายป่วยจากโรคโควิด-19 ในเร็ววัน

สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือรายงานว่า นายคิมระบุในข้อความว่า เขาได้ยินข่าวอย่างกะทันหันว่า ปธน.ทรัมป์และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐติดเชื้อโควิด-19 และได้ส่งกำลังใจให้กับบุคคลทั้งสอง
          
รายงานระบุด้วยว่า นายคิมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ปธน.ทรัมป์และภรรยาจะฟื้นตัวได้โดยเร็วที่สุด โดยเชื่อว่า พวกเขาจะสามารถเอาชนะโรคโควิดได้อย่างแน่นอน
          
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์ทวีตเมื่อวานนี้ว่า "เมลาเนีย และผม มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก เราจะเริ่มกระบวนการกักตัว และทำการรักษาในทันที เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน"
          
นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวกล่าวว่า ปธน.ทรัมป์เริ่มมีอาการป่วยเล็กน้อย หลังติดเชื้อโควิด-19 อย่างไรก็ดี นายมีโดวส์ยืนยันว่า ปธน.ทรัมป์จะยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป
          
ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า สภาคองเกรสมีการเตรียมแผนรองรับในกรณีที่ปธน.ทรัมป์ไร้ความสามารถในการปฏิบัติภารกิจ โดยแผนดังกล่าวจะช่วยสร้างความมั่นใจว่า รัฐบาลจะยังคงบริหารประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
          
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์และนายคิม จอง อึน ได้เคยพบปะกันสองครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าที่สำคัญในการเจรจาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องที่สหรัฐต้องการให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์ และการที่เกาหลีเหนือขอให้สหรัฐยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ย้ายไปเข้ารับการที่ศูนย์การแพทย์ทหาร

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกเดินทางไปเข้ารับการรักษาโควิด-19 ที่ศูนย์การแพทย์ทหารแห่งชาติวอลเตอร์รีดหลังจากที่ได้รับทราบผลการตรวจยืนยันเป็นบวก ซึ่งก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีและนางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 จะแยกกักตัวอยู่ภายในทำเนียบขาว แต่ที่ต้องส่งตัวเขาไปยังศูนย์การแพทย์ทหารเนื่องจากประธานาธิบดีเริ่มมีอาการไข้ และอ่อนเพลีย
          
โดยในการปรากฏตัวเมื่อบ่ายวันศุกร์ ประธานาธิบดีซึ่งสวมหน้ากากเดินผ่านสนามหญ้าของทำเนียบขาวเพื่อไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์มารีนวันออกเดินทางไปที่ศูนย์การแพทย์ ต่อมาเขาโพสต์วิดีโอบนทวิตเตอร์ กล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ
          
ด้านลูก ๆ ของประธานาธิบดีทั้งนางอีวังกา ทรัมป์ และนายเอริค ทรัมป์ ต่างรีทวีตโพสต์ของเขาและยกย่องว่าเขาเป็นนักสู้
          
ทำเนียบขาวกล่าวในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีมีอาการป่วยไม่รุนแรงและตั้งแต่ทราบผลการตรวจ เขาก็ยังมีการทำงานตลอด อย่างไรก็ตามแพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของเขาแนะนำให้ส่งต่อไปยังศูนย์การแพทย์ทหารซึ่งเขาไปรับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างต่อเนื่อง และจะทำงานจากสำนักงานประธานาธิบดีที่วอลเตอร์รีดต่อไป
          
นางอลิสซา ฟาราห์ ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารของทำเนียบขาว กล่าวว่าประธานาธิบดีไม่ได้โอนอำนาจให้กับนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี แม้ว่าในการประชุมทางไกลกับอาสาสมัครผู้สูงอายุเมื่อวันศุกร์ เขาจะมอบให้รองประธานาธิบดีทำหน้าที่ประธานการประชุม
          
แพทย์ประจำตัวของประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีได้รับโพลีโคลอล แอนติบอดี ค็อกเทลขนาด 8 กรัม (polyclonal antibody cocktail)เพื่อลดระดับไวรัสและเร่งการฟื้นตัว นอกจากนี้เขายังได้รับสังกะสี วิตามินดี ฟาโมติดีน เมลาโทนินและแอสไพริน (zinc, vitamin D, famotidine, melatonin and aspirin) ส่วนสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง มีอาการไอและปวดศีรษะเพียงเล็กน้อย
          
ด้านนายโจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครตและนางจิล ไบเดน ภรรยาของเขามีผลการตรวจเป็นลบ ซึ่งนายไบเดนทวีตว่า เขาหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นการเตือนความจำของทุกคนให้สวมหน้ากาก รักษาระยะห่างในสังคมและล้างมือให้สะอาด นอกจากนี้ในการที่นายไบเดนลงพื้นที่หาเสียงที่มิชิแกนในวันศุกร์ เขายังกล่าวขอให้ประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลข 1 หายดีโดยเร็ว ส่วนนายบารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดี ซึ่งร่วมกล่าวในที่ประชุมผ่านระบบการสื่อสารทางไกล กล่าวว่า เราทุกคนเป็นคนอเมริกัน และเราต้องการให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี
          
ขณะเดียวกันแพทย์ยังมีการสืบสวนว่าประธานาธิบดีและสุภาพสตรีหมายเลข 1 ติดเชื้อได้อย่างไร โดยทั้งคู่เริ่มแยกตัวตั้งแต่ทราบว่านางโฮป ฮิกส์ ผู้ช่วยของประธานาธิบดีมีผลการทดสอบผลบวก หลังจากนั้นไม่นานทั้งคู่ก็ได้รับแจ้งว่ามีผลการทดสอบเป็นบวกเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการวิจารณ์เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีมีการทำงานที่ต้องพบกับผู้คนจำนวนมากหลายงานติดต่อกัน ซึ่งผู้สนับสนุนของเขาส่วนใหญ่จะไม่สวมหน้ากาก

"แม้ว"เผยแล้วติดเชื้อ "โควิด"จากไหน ฝากคนไทย "การ์ดอย่าตก" 

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับ "บีบีซีไทย" โดยมีเนื้อหาระบุว่า เป็นความจริงที่เขาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเนื่องจากโรคโควิด-19 แต่ปฏิเสธว่าไม่มีคนใกล้ชิดรายล้อมติดโรคนี้ ตามที่สื่อมวลชนไทยบางรายนำเสนอ
          
นายทักษิณ กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือน ส.ค. เขาเริ่มมีอาการไข้ ไม่ได้กลิ่น และไม่รู้รสชาติอาหาร จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ แล้วพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในการตรวจครั้งแรก หลังจากนั้น จึงเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 2 แห่ง คือ ในนครดูไบ และอาบูดาบี ซึ่งเป็นการรักษาตามอาการ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และออกจากโรงพยาบาลได้ในราววันที่ 12-13 ก.ย. หลังตรวจหาเชื้อถึง 7 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่พบเชื้อแล้ว
          
"ผมออกจากโรงพยาบาลมาได้ยี่สิบกว่าวันแล้ว หายดีแล้ว" อดีตนายกรัฐมนตรีที่เผชิญคดีอาญาที่เขาบอกว่าเป็นเรื่องกลั่นแกล้งทางการเมือง กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
          
นายทักษิณ บอกว่า เหตุที่เขาต้องย้ายโรงพยาบาลเพราะ เพื่อนที่เป็น "ชีค" เชื้อพระวงศ์ ต้องการให้รักษาในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จึงส่งให้ส่งตัวเขาจากโรงพยาบาลในดูไบไปอาบูดาบีทางเฮลิคอปเตอร์ โดยส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลคลีฟแลนด์คลินิก (Cleveland Clinic Abu Dhabi)
          
"บางทีการเป็นวีไอพีก็ไม่ดี มากไป... เป็นวีไอพี บางทีก็โอเวอร์ทรีต (ดูแลดีเกินไป)"
          
ส่วนสาเหตุของการติดเชื้อนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า อาจมาจากศูนย์อาหารของศูนย์การค้าในดูไบ ซึ่งอาจติดมาจากการสัมผัส และไม่ได้ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ
          
"ผมอาจการ์ดตก ใส่หน้ากากตลอด... ผมไปเข้าคิวซื้ออาหาร แล้วยกมากิน ... บางที เราไม่ขยันล้างมือ มือไปสัมผัสโดนเชื้อ แล้วเอามือมาถูตา ก็อาจติดได้"
          
เขาบอกว่า "อยู่เมืองนอกนาน ๆ มากินเหลาทุกวันได้ยังไง เอาตังค์ที่ไหนมากิน ต้องกินฟู้ดคอร์ทบ้าง"
          
จากการได้รับเชื้อครั้งนี้ของเขา นายทักษิณ ฝากถึงประชาชนไทยในการป้องกันตัวว่า "การ์ดอย่าตก โรคนี้ ติดง่าย ใส่หน้ากากไว้ดีแล้ว แต่ต้องขยันล้างมือด้วย"