วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 09:56 น.

ต่างประเทศ

พรรค "ซูจี" พ่ายที่รัฐยะไข่ พรรคท้องถิ่นกวาด 15 ที่นั่ง

วันอังคาร ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 13.54 น.

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปในเมียนมา ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า ในการนับคะแนนเลือกตั้งที่รัฐยะไข่ พรรคแห่งชาติอาระกัน หรือพรรคแห่งชาติยะไข่ (เอเอ็นพี) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองท้องถิ่นในรัฐยะไข่ สามารถเอาชนะพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ของนางออง ซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลได้อย่างถล่มทลาย

รายงานข่าวแจ้งว่า สมาชิกพรรคเอเอ็นพี สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ในพื้นที่รัฐยะไข่ ได้จำนวนอย่างน้อย 15 ที่นั่ง ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งแรก เนื่องจากพรรคเอเอ็นพีไม่มีฐานเสียงที่รัฐแห่งนี้มาก่อน แตกต่างจากพรรคเอ็นแอลดี ทั้งนี้ เป็นผลมาจากกระแสความไม่พอใจอย่างรุนแรงของชาวรัฐยะไข่ที่มีต่อนางซูจี ในการจัดการแก้ไขปัญหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจาในรัฐดังกล่าว ตลอดช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่อิรวดีนิวส์ระบุจากกองบัญชาการสูงสุดกองทัพพม่าว่า พรรคเอ็นแอลดีชนะที่นั่งในเขตกรุงเนปิดอว์ ฐานเสียงของกองทัพพม่า ซึ่งมี 10 ที่นั่ง แบ่งเป็นสภาผู้แทนราษฎร 8 ที่นั่ง และวุฒิสภา 2 ที่นั่ง ได้เกือบทั้งหมด ยกเว้นที่นั่งสภาล่างในเขตอำเภอเซยาตีริที่นายอู ตาน เทย์ นายพลเกษียณอายุ ผู้แทนจากยูเอสดีพี ของพลเอกเต็ง เส่ง อดีตประธานา ธิบดี ชิงชัยกับดร.โม ซเว ผู้แทนจากพรรคเอ็นแอลดี โดยนายอู ตาน เทย์ ได้คะแนนไปแล้ว 36,000 เสียงต่อ 30,000 เสียง

อย่างไรก็ตามพรรคเอ็นแอลดีของนางออง ซาน ซูจี ยังคงครองที่นั่งที่เมืองเชียงตุง รัฐฉานได้เช่นเดิม

พร้อมกันนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งเมียนมาประกาศวันนี้ว่า นางอองซาน ซูจี ประธานพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.ที่เขตกอมู ซึ่งอยู่ในภูมิภาคย่างกุ้ง ขณะที่ผลการนับคะแนนเบื้องต้นระบุว่า ได้ผู้ชนะเลือกตั้งในรัฐสภา 47 ที่นั่ง ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นผู้สมัครของเอ็นแอลดี 44 ที่นั่ง

พรรคหัวเสือกู้ชาติไทใหญ่ครองที่นั่งรัฐฉาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผลการนับคะแนนในรัฐฉานปรากฏว่า พรรคหัวเสือ (SNLD)กู้ชาติไตย ชนะการเลือกตั้ง 16 จังหวัดในรัฐฉานแล้ว และรัฐเมืองขางอีก 1 จังหวัด รวมเป็น 17 จังหวัดแล้ว ทำให้เป็นพรรคที่มีเสียงมาเป็นอันดับ 1   แม้ว่าจะมีเสียงแตกที่เมืองปั่น เพราะว่าพรรคไทใหญ่กับไทใหญ่ แบ่งคะแนนกันเอง ทำให้ต้องพ่ายแพ้ให้กับพรรคอืน