วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 15:07 น.

ต่างประเทศ

"ไป่ ทาคน"ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลทั่วโลก

วันศุกร์ ที่ 05 มีนาคม พ.ศ. 2564, 12.04 น.

"ไป่ ทาคน"ร่อนจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลทั่วโลก  ชาวเมียนมาไว้อาลัย "แองเจิ้ล" สาววัย 19 ปี เหยื่อตร.ปราบม็อบถูกยิงหัวดับ ขณะที่ตำรวจอย่างน้อย19นายขอลี้ภัยในอินเดีย เหตุไม่อยากใช้กำลังปราบม็อบ

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2564  "ไป่ ทาคน" นักแสดงและนายแบบชาวเมียนมา ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านการรัฐประหารออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องหลังหายตัวไปร่วม 3 วัน ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง โดยเมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ไป่ ทาคน ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยฝากจดหมายเปิดผนึกถึงผู้นำทุกรัฐบาลทั่วโลกความว่า 

"ในฐานะพลเมืองเมียนมา ผมอยากจะขอร้องด้วยความเคารพจากใจจริง ทุกวันนี้พลเมืองเมียนมาโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวถูกสังหารอย่างไร้ความปรานีโดยกองกำลังทหาร ซึ่งรัฐบาททหารประกาศว่าพวกเขาเป็นผู้ก่อการร้าย
          
ขณะที่คนหนุ่มสาวในประเทศที่สงบสุขอื่นๆ สามารถมีเสรีภาพอันชอบธรรมได้ แต่คนหนุ่มสาวที่นี่ไม่มีแม้แต่สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และที่แย่ไปกว่านั้นคือพวกเขาอาจถูกสังหารจากการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ที่นี่ไม่มีเสรีภาพในการแสดงออก เยาวชนจำนวนมากไม่ได้รับการศึกษามานานกว่า 1 เดือนแล้ว มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจและไม่สามารถยอมรับได้
          
ผมขอส่งคำร้องขอจากใจจริงนี้ถึงสหประชาชาติ โปรดประณามสิ่งนี้และดำเนินการตอบโต้ต่อเหตุการณ์อันน่าเศร้า โปรดช่วยร้องขอให้พวกเขาปล่อยคนของผม"
          
นอกจากนี้ยังมีการโพสต์ข้อความตำหนิสื่อเมียนมาที่นำเสนอข้อมูลบิดเบือนพร้อมยืนยันว่าทหารเมียนมายิงกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกระสุนจริง ขณะที่ผู้ชุมนุมมาด้วยมือเปล่าและไม่มีอาวุธใดๆ  

ชาวเมียนมาไว้อาลัย "แองเจิ้ล" สาววัย 19 ปี เหยื่อตร.ปราบม็อบถูกยิงหัวดับ
 
ขณะที่ชาวเมืองมัณฑะเลย์นับพันคนร่วมขบวนแห่โลงศพของนางสาวแจ่ สิ่น หรือ "แองเจิ้ล" นักศึกษาหญิงวัย 19 ปี ที่ถูกตำรวจกองกำลังความมั่นคงใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ ทำให้เธอเสียชีวิตระหว่างการออกมาประท้วงต้านรัฐประหาร เมื่อวันพุธที่ 3 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยขบวนรถแห่โลงศพเคลื่อนไปตามท้องถนนในเมืองมัณฑะเลย์ มีขบวนรถมอเตอร์ไซค์ขับตาม และสองข้างทางมีประชาชนออกมายืนชู 3 นิ้ว สัญลักษณ์การต่อสู้ขับไล่รัฐบาลทหาร และชูภาพถ่ายของแองเจิ้ลขณะที่ครอบครัวของเธอ ตลอดจนเพื่อนๆ และบรรดาผู้ประท้วงจำนวนมาก ร่วมกันไว้อาลัยในพิธีฝังศพ ซึ่งพิธีนี้จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งความเศร้าโศก
          
สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง BBC นำเสนอเรื่องราวของแองเจิ้ล หญิงสาวที่สวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความที่ระบุว่า "Everything will be OK " หรือ "ทุกอย่างจะโอเค" ซึ่งเธอยืนอยู่ในกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ก่อนที่กองกำลังความมั่นคงจะบุกเข้าสลายการชุมนุมด้วยกระสุนจริงและแก๊สน้ำตา ส่งผลให้แองเจิ้ลโดนยิงเข้าที่ศีรษะเสียชีวิต เรื่องราวของแองเจิ้ลทำให้ผู้คนในโซเชียลมีเดียทั้งในเฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ต่างแชร์ภาพของแองเจิ้ล สวมเสื้อยืดสีดำ "ทุกอย่างจะโอเค" ซึ่งภาพนี้ยังได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของพลังการประท้วงต้านรัฐประหาร
          
โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มี.ค. การประท้วงยังดำเนินต่อไป ที่เมืองมัณฑะเลย์ ประชาชนหลายพันคนออกมานั่งประท้วงบนถนน เช่นเดียวกับในหลายเมืองทั้งย่างกุ้ง และเมืองทวาย ประชาชนออกมาประท้วงกันต่อโดยไม่เกรงกลัวแม้ว่าวันพุธที่ผ่านมา ตำรวจทหารเมียนมาจะปราบปรามอย่างหนัก มีผู้ประท้วงเสียชีวิตถึง 38 ศพ
          
ด้าน นางมิเชล บาชเล็ต ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นออกแถลงการณ์เรียกร้องกองกำลังเมียนมา ยุติการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วง กว่าสิบประเทศออกแถลงการณ์ประณามกองทัพเมียนมาต่อเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้น
          
นับตั้งแต่เกิดรัฐประหารเมื่อ 1 ก.พ. มีผู้ประท้วงเสียชีวิตแล้ว 54 ศพ มีผู้ถูกจับกุมตัว 1,700 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้สื่อข่าว 29 คน รวมไปถึงผู้สื่อข่าวของเอพี

ตำรวจเมียนมาอย่างน้อย19นายขอลี้ภัยในอินเดีย เหตุไม่อยากใช้กำลังปราบม็อบ

เว็บไซต์นิตยสาร India Today ของอินเดีย เสนอข่าว 19 Myanmar police cross into India, seeking refuge ระบุว่า ตำรวจเมียนมาอย่างน้อย 19 นาย เดินทางข้ามชายแดนไปยังรัฐมิโซรัมของอินเดียซึ่งอยู่ติดกับเมียนมา และทำเริ่องขอลี้ภัยที่นั่น โดยทั้งหมดเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยและไม่มีอาวุธ
          
ขณะที่เว็บไซต์ นสพ.Malayala Manorama ของอินเดีย เสนอข่าว19 Myanmar cops seek refuge in India, more expected ระบุแรงจูงใจของตำรวจเมียนมากลุ่มดังกล่าวที่หนีไปอินเดีย เพราะไม่อยากใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมประท้วงต้านรัฐประหาร

สหรัฐฯคว่ำบาตรเมียนมาเพิ่ม ขึ้นบัญชีดำ"กระทรวง-หน่วยงาน"อีก3แห่ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำการค้ากระทรวงกลาโหม กระทรวงกิจการภายใน รวมถึงหน่วยงานการค้า 2 แห่งของเมียนมา อีกทั้งประกาศยกระดับความเข้มงวดของมาตรการควบคุมการส่งออกกับเมียนมาด้วย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรคณะผู้นำทหารในเมียนมาหลายราย พร้อมขึ้นบัญชีดำ 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกองทัพหรือกองกำลังความมั่นคงของเมียนมา

หน้าแรก » ต่างประเทศ