ไอที
พฤติกรรมการเสพสื่อเน้นสะดวกดูได้ทุกเวลา เทรน “ทีวีออนไลน์” แรงLINE TV ตอบโจทย์
วันศุกร์ ที่ 06 ธันวาคม พ.ศ. 2562, 13.29 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
พฤติกรรมการเสพสื่อเน้นสะดวกดู ได้ทุกเวลา
เทรน “ทีวีออนไลน์” แรงLINE TV ตอบโจทย์
เทคโนโลยีที่เข้าถึงตัวเราอย่ างรวดเร็ว ทำให้พฤติกรรมการเสพสื่อของผู้ บริโภคในปัจจุบันเปลี่ ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากอดีตที่ดูคอนเทนต์ผ่านหน้ าจอทีวีแบบดั้งเดิม ก็มีการดูคอนเทนต์ผ่านช่ องทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผู้บริโภคมีความปั จเจกมากขึ้น นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคเลือกที่จะรับคอนเทนต์ ที่ตรงกับความต้องการของตน มากกว่าที่จะรับคอนเทนต์สำหรั บแมสทั่วๆ ไป รวมทั้งเลือกรับชมในเวลาที่ สะดวกตามความต้องการของตัวเองอี กด้วย
“วันนี้โลกเปลี่ยนไป ต้องยอมรับว่าดิจิทัลมีความสำคั ญขึ้นเร็วมาก ทำให้เส้นแบ่งระหว่างทีวีดั้ งเดิมกับดิจิทัลตอนนี้เบลอมาก ในช่วงหลังมีแพลตฟอร์มต่างๆ เข้าถึงผู้ชมได้เยอะมาก ทั้งดูสด ดูย้อนหลัง และดูออนไลน์ ส่งผลให้คนรับชมผ่านจอทีวีลดลง แต่แพลตฟอร์มวิดีโอ หรือทีวีออนไลน์เข้ามามี บทบาทมากขึ้น เพราะชีวิตคนปัจจุบันอยู่กับหน้ าจอ ไม่ว่าจะเป็น มือถือ หรือคอมพิวเตอร์” รัญชิตา ศรีวรวิไล ผู้อำนวยการ นีลเส็นมีเดีย ประเทศไทย ให้ความเห็น
ข้อมูลการสำรวจเรทติ้งการรั บชมสื่อทุกแพลตฟอร์มในสหรั ฐอเมริกาของนีลเส็น สะท้อนชัดเจนว่าช่วง 10 ปี ดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คนใช้เวลาในการเสพสื่อมากขึ้น จากที่ในปี 2012 คนใช้เวลากับสื่อ 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และสังเกตได้ว่ากลุ่มคนที่มี อายุต่ำกว่า 35 ปี จะเสพสื่อผ่านหลายช่องทาง โดยช่องทางที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือ สมาร์ทโฟน ขณะที่การสำรวจพฤติกรรมการเสพสื่ อในเอเชียแปซิฟิค พบว่า คนชอบดูย้อนหลัง เพราะสะดวก สามารถดูได้ต่อเนื่อง โดยสิ่งที่คนดูต้องการคือ อยากให้มีคอนเทนต์ที่ หลากหลายมากขึ้น รวมไปถึงการดูบนหน้าจอใหญ่ที่ ทำให้ได้รับอรรถรสมากยิ่งขึ้น
ส่วนในประเทศไทย จากการสำรวจการเข้าถึงสื่ อของคนไทยทั่วประเทศ โดยแบ่งช่วงอายุออกเป็น 2 กลุ่ม คือ อายุ 35 ปีขึ้น และอายุ 12-35 ปี พบว่ากลุ่มคนอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปยังรับชมผ่านจอทีวีอยู่ มาก แต่ยอดการใช้อินเทอร์เน็ตก็เพิ่ มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การรับชมผ่านจอทีวีมี แนวโน้มลดลงแต่ยังไม่มากนัก ขณะที่กลุ่มคนอายุ 12-35 ปี แม้จะเสพสื่อผ่านจอทีวีและอิ นเทอร์เน็ตใกล้เคียงกัน แต่มีการใช้อินเทอร์เน็ตทุกวั นใน 5 กิจกรรมหลัก คือ การเล่นโซเชียล, ใช้แชท, อ่านหนังสือพิมพ์, ดูทีวีย้อนหลัง และดูข่าวต่างประเทศ จึงมีแนวโน้มการเสพสื่อผ่านจอที วีลดลงมากกว่า เมื่อลงลึกถึงพฤติกรรมของคนดูที วีออนไลน์ พบว่า 98% จะดูรายการย้อนหลัง และ 2% ดูไลฟ์สตรีมมิ่ง ซึ่งจะต้องเป็นรายการที่จำเป็ นต้องดูสดจริงๆ เช่น การแข่งขันกีฬา รายการแข่งขันต่างๆ ในรอบชิงชนะเลิศ สิ่งที่น่าสนใจคือ มีการใช้เวลาในการดูย้อนหลังถึง 58 นาที และมีการเข้าใช้งานดูย้อนหลังถึ ง 20 วันต่อเดือน โดยมีการใช้งานผ่านโทรศัพท์มื อถือ 94%, คอมพิวเตอร์ 3% และ แท็ปเล็ต 3%
เมื่อพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้ บริโภคเปลี่ยนไป การวัดเรทติ้งจึงต้องเปลี่ ยนตามไม่ได้วัดเฉพาะแค่สื่อทีวี อย่างเดียว แต่จะต้องวัดจากหลายแพลตฟอร์มด้ วยกัน ซึ่งนีลเส็นเริ่มวัดเรตติ้งดิจิ ทัลคอนเทนต์ของ LINE TV ตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปี 2018 พบว่ามีอัตราการเติบโตรวดเร็ วมาก นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้ชมที่ไม่นับซ้ำ เพิ่มขึ้นถึง 1.7 เท่า, จำนวนยอดวิวเพิ่มขึ้น 30% และสามารถเข้าถึงคนไทยได้เพิ่ มมากขึ้นถึง 5% จากจำนวนประชากรไทยทั้งประเทศ และจากการสำรวจพฤติ กรรมของคนไทยที่ดูทีวีกับดู LINE TV ในอายุ 18-34 ปี พบว่ามีสัดส่วนคนดูทีวีอยู่ที่ 57% ส่วนคนดู LINE TV อยู่ที่ 47%
แต่ตัวเลขที่น่าสนใจคือยังมีกลุ่ มผู้ชมที่เลือกดู LINE TV อย่างเดียวสูงถึง 17% แสดงให้เห็นว่า หากแบรนด์ทำการสื่อสาร หรือซื้อโฆษณาในทั้งทีวีปกติ และ LINE TV จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ บริโภคได้ครอบคลุมมากขึ้นอีกด้ วย
ในอดีตแบรนด์สินค้า นักการตลาด และเอเจนซี่ มักทุ่มซื้อโฆษณาไปในสื่อทีวี มากที่สุด แต่เมื่อโลกเปลี่ยน แม้แต่ช่องทีวียังผันตัวเองมาสู่ ดิจิทัลแพลตฟอร์มมากขึ้น จนไม่มีเส้นแบ่งระหว่างสองโลก เหลือเพียง “โลกของคนดู” ดังนั้น การวางคอนเทนต์ให้เข้าถึงคนดู ให้มากที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้ ในยุคดิจิทัลใครๆ ก็ซื้อโฆษณาได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตสินค้า โอท็อป หรือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายเล็ก สามารถเป็น Advertiser ซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น LINE TV เพื่อให้การทำตลาดและการขายเข้ าถึงคนทั่วประเทศ หรือแม้แต่ทั่วโลกก็ได้ เพียงสิ่งสำคัญนักการตลาดต้ องสร้างคอนเทนต์ที่มี ความหมายตอบโจทย์ มีประโยชน์ต่อผู้บริโภค เนื่องจากทุกวันนี้มีคอนเทนต์ มากมายหลั่งไหลเข้ามาในชีวิ ตประจำวันของผู้บริโภค ทำให้มีทางเลื อกในการเสพคอนเทนต์ ดังนั้น ผู้บริโภคจะเปิดรับคอนเทนต์ที่ สนใจและชอบเป็นหลัก
“สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ เส้นระหว่างสองโลกนี้เบลอมาก เส้นแบ่งแทบจะไม่มีแล้วกลายเป็ นโลกของคนดู ช่องทีวีผันไปสู่ช่องทางดิจิทัล อย่าง LINE TV ก็มีคอนเทนต์เหมือนกับทีวี คนไม่ได้เสพสื่อน้อยลง แต่แพลตฟอร์มวิดีโอมีบทบาทมากขึ้ นและช่วยเพิ่ มการเอาเวลาจากเราไปมากขึ้น บ่งบอกว่าการมีช่องทางที่เข้าถึ งคอนเทนต์ได้มากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วมาเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ ชมได้หลายรูปแบบมากขึ้น ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้น แพลตฟอร์มออนไลน์จึงเข้ามาเพิ่ มโอกาส เพราะชีวิตคนอยู่กับหน้าจอค่ อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็น มือถือหรือคอมพิวเตอร์ ตรงนี้เป็นโอกาสที่เราจะเข้าถึ งกลุ่มคนมากกว่าสมัยก่อนที่อยู่ เฉพาะหน้าจอทีวี”
ด้าน กณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิ จคอนเทนท์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่เปิดให้บริ การแพลตฟอร์มทีวีออนไลน์ LINE TV ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ชมดี มากและได้สร้างพฤติกรรมการรั บชมคอนเทนต์ไทยแบบใหม่ให้สอดคล้ องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่เปลี่ ยนแปลงไป ทำให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ชม จำนวนคอนเทนต์ และจำนวนพาร์ทเนอร์ รวมถึงจำนวนยอดวิวโดยเฉลี่ยต่ อคอนเทนต์ ที่ล้วนขยายเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี จนล่าสุดมีคอนเทนต์รวมบน LINE TV มากกว่า 1,000 คอนเทนต์ โดยยอดวิวที่เติบโตขึ้ นมาจากคอนเทนต์หลักอย่างละคร และซีรีย์ต่างๆ ทั้งแบบย้อนหลังจากช่องทีวี หรือแบบออริจินัลที่เรียกว่า LINE TV Originals”
ซึ่งในวันนี้ทาง LINE TV ได้โฟกัสที่กลุ่มคนดูที่มีไลฟ์ สไตล์ชีวิตคนเมือง แต่ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มคนที่ อาศัยอยู่ในกรุงเทพหรือเมืองหลั กเท่านั้น แต่เป็นการโฟกัสที่ไลฟ์สไตล์ และพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ ซึ่งคนกลุ่มนี้ต้องการจั ดการตารางชีวิตของตัวเองได้ อยากดูคอนเทนต์เมื่อไรก็ดูได้ทั นที เลือกดูตามความต้ องการและความสะดวกของตนเอง เรียกว่าทุกคนสามารถสร้างไพร์ มไทม์ในการรับชมคอนเทนต์ ของตนเองได้ เป็นการ Personalize ตามความต้องการของผู้ชมแต่ ละคนให้มีอิสระในการรั บชมตามไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิ ตของตัวเอง และที่สำคัญคือ ดูฟรี”
อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมผู้ชมของ LINE TV ช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุดก็ คือ 15.00 – 18.00 น. ทั้งวันธรรมดาและสุดสัปดาห์ ซึ่งถือเป็นภาพที่สะท้อนให้เห็ นถึงการเข้ามาเปลี่ยนโฉมหน้ าการรับชมรายการทีวีของ LINE TV เพราะในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นช่วงที่คนดูทีวีปกติ ค่อนข้างน้อย ไม่ได้มีคอนเทนต์ปังๆ บนช่องทีวีมากนัก เพราะผู้ชมส่วนใหญ่ยังคงเดิ นทางอยู่นอกบ้าน LINE TV จึงสามารถเข้ามาช่วยทลาย Pain Point ในการรับชมของผู้ชมระหว่างเดิ นทาง หรือช่วงที่เริ่มมีเวลาว่างหลั งเลิกเรียนหรือเลิกงานได้เป็ นอย่างดี ซึ่งคือสิ่งที่ LINE TV ต้องการจะบอกผู้ชมว่าทุ กคนสามารถสร้างไพร์มไทม์ของตั วเองได้ และบอกกับผู้ผลิตคอนเทนต์และอุ ตสาหกรรมโฆษณาว่า คนดูไม่ได้เลิกดูรายการทีวี เพียงแต่เราต้องเข้าใจกับพฤติ กรรมที่ใหม่ที่เป็น New normal ของผู้ชม ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของ LINE TV”
และปัจจัยที่จะช่วยให้ LINE TV ขยายฐานผู้ชมได้เร็วขึ้นนั้น คือการพัฒนารอบด้าน ทั้งแง่ของ 1. ความหลากหลายของคอนเทนต์ ควบคู่ไปกับ 2. การพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ ความต้องการของกลุ่มผู้ชมมากขึ้ น ทั้งรองรับการสตรีมมิ่งขึ้นทีวี ผ่าน Chromecast และเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ LINE TV ทั้ง Apple TV และ ใน Android TV และ 3. การพัฒนาระบบการค้นหาคอนเทนต์ ให้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีการเพิ่ม Tab ใหม่อีก 2 Tab คือ 100 ล้านวิว Tab และ Movie Tab
“LINE TV ยังคงมุ่งสู่การเป็น แพลตฟอร์มทีวีออนไลน์สำหรั บคนไทย โดยเป็นฮับของคอนเทนต์ที่ หลากหลาย ครบทุกความต้องการของทุกกลุ่ มคนดู พร้อมขยายฐานกลุ่มคนเมืองสู่กลุ่ มแมส และจะไม่หยุดพัฒนาคอนเทนต์และฟี เจอร์ต่างๆ มั่นใจว่าจะขึ้นแท่นเป็นผู้นำที วีออนไลน์สำหรับคนไทยอย่างแท้ จริง” กณพกล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ไอที
ข่าวในหมวดไอที
- ทรู พาลูกค้าล้ำไปอีกขั้นกับ "GO Travel" เปลี่ยนโฉมประสบการณ์โรมมิ่งรูปแบบใหม่ 19:02 น.
- NT รวมพลังแสดงเจตนารมณ์ถ่ายทอดมาตรฐานทางจริยธรรม ประกาศนโยบายต่อต้านทุจริตและคอร์รัปชัน สู่องค์กรคุณธรรมและโปร่งใส 12:09 น.
- ฟูจิฟิล์มเดินหน้าสร้างความตระหนักรู้และสนับสนุนโครงการตรวจคัดกรองเชิงรุก เพื่อยุติวัณโรคใน “วันวัณโรคสากลประจำปี 2567” 20:42 น.
- เอปสัน ประเทศไทยเปิดโซลูชั่น เซ็นเตอร์ รวมครบทุกนวัตกรรมผสานความยั่งยืนตอบโจทย์การปรับตัวของลูกค้า B2B 17:11 น.
- AIS ACADEMY ผนึก กระทรวง พม. ชวน นิสิต-นักศึกษา สร้างนวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุและคนพิการ ในโครงการ “JUMP THAILAND HACKATHON 2024” ชิงรางวัลรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท 08:11 น.