วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 21:47 น.

การตลาด

อมาโด้ปักธงบุกตลาดCLMV นำร่องกัมพูชาเปิดตลาด 2 ปี โต 60%

วันอังคาร ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 20.33 น.

อมาโด้ปักธงบุกตลาดCLMV นำร่องกัมพูชาเปิดตลาด 2 ปี โต 60%

 

 

 บริษัทอมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำเตรียมแผนบุกประเทศกลุ่ม CLMV ชี้อนาคตสดใสมีแนวโน้มโตต่อเนื่องอีกทั้งประชากรกลุ่มประเทศดังกล่าวนิยมบริโภคสินค้าไทยโดยเฉพาะสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 นำร่องเปิดตลาดกัมพูชาพบผลตอบรับดีเกินคาดยอดขายโตปีละ60% เปิดตลาด 2ปีทำยอดขาย 15ล้านบาท คาดปีนี้แตะ 25 ล้านบาทเผยทำตลาดกัมพูชาคุณภาพสินค้าและความน่าเชื่อถือต้องมาก่อน เดินกลยุทธ์การตลาดดึง 2 ดารา ศิลปินดังกัมพูชา เป็นพรีเซ็นเตอร์และพาร์ทเนอร์ธุรกิจกระจายตามหน้าร้านสะดวกซื้อร้านขายยา และร้านค้า     ขนาดเล็ก สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคนิยมสัมผัสและทดลองสินค้าก่อนซื้อเดินหน้าศึกษาตลาดเวียดนามและลาว ก่อนบุกทำตลาดในปี 2564  นายธนาลิมปยารยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ อมาโด้ (amado) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชั้นนำ เปิดเผยว่า บริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในประเทศกลุ่ม CLMV ได้แก่ ประเทศกัมพูชา (Cambodia) ประเทศลาว (LaoPDR) ประเทศพม่า (Myanmar) และประเทศเวียดนาม(Vietnam) เนื่องจากเป็นตลาดศักยภาพสูงและมีขนาดใหญ่โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยเมื่อปี 2562 ชี้ให้เห็นว่าประเทศกลุ่มดังกล่าวมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงทั้งยังมีจำนวนประชากรกว่า 170 ล้านคนประชากรกว่า 60% เป็นวัยทำงานที่มีกำลังซื้อเป็น “ตลาดชายขอบ” ตลาดที่ใหม่และมีขนาดเล็ก จึงสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วประกอบกับกลุ่มประเทศ CLMV มีเสถียรภาพทางการเมืองอย่างมากเนื่องจากไม่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยนักทำให้นโยบายต่าง ๆ โดยเฉพาะนโยบายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจมีความชัดเจนและขับเคลื่อนได้ต่อเนื่อง 

 

 

นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยบวกจากการเป็นกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในอัตราที่ต่ำและมีความสามารถในการบริหารจัดการ การแพร่ระบาดของไวรัสได้อย่างรวดเร็วและรัดกุมจึงถูกจับตาว่าจะเป็นกลุ่มประเทศที่ฟื้นตัวได้เร็วหลังวิกฤตโควิด-19 ประกอบกับประชากรในกลุ่ม CLMV รู้จักและมีความนิยมสินค้าจากประเทศไทยเป็นอย่างมากเพราะเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ยาและสมุนไพรรักษาโรค สินค้าเพื่อสุขภาพและความงามสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน เรื่อยไปจนถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะ อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เดินหน้านำร่องบุกตลาดประเทศกัมพูชาเพื่อทดลองเปิดตลาดในกลุ่มประเทศCLMV โดยเริ่มต้นทำตลาดในประเทศกัมพูชามาได้ 2 ปีสามารถสร้างรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 60% โดยในปี2561 มียอดขายราว 6 ล้านบาทถัดมาในปี 2562 ทำยอดขายได้ 15 ล้านบาทและในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้ 25 ล้านบาทโดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ในประเทศกัมพูชาคือสินค้ากลุ่มเสริมสุขภาพและความงามทั้งยังมีทิศทางเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากยังอยู่ในระยะเริ่มต้นรวมถึงหากเศรษฐกิจค่อย ๆ ปรับฟื้นตัวดีขึ้นหลังวิกฤตโควิด-19กำลังซื้อของคนกัมพูชาย่อมมีมากขึ้นตามส่งผลให้โอกาสในการเติบโตของตลาดวิตามินและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพในกัมพูชายังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 

 

 

“การตลาดในกัมพูชาการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวสินค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก ลูกค้าจะให้ความสำคัญกับคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าและต้องสามารถเห็นและทดลองสินค้าตัวจริงได้ และเป็นปัจจัยหลักที่อมาโด้ให้ความสำคัญกับการบุกเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่ม CLMV  เพราะแม้ว่าเราจะเป็นที่รู้จักดีในประเทศไทยแต่ที่ต่างประเทศแล้วเราก็เป็นแค่หนึ่งสินค้าใหม่” นายธนากล่าว 

 

นายธนากล่าวเสริมว่า บริษัทใช้กลยุทธ์เปิดตลาดกัมพูชาด้วยการดึง2 ดารา ศิลปินชื่อดังของกัมพูชา ได้แก่      โซโน่ เก สะวันนะรึด ( ZONO Ke Sovannareth) - นักร้องค่าย Hangmeas ค่ายเพลงอันดับ 1 ของประเทศและเป็นนักแสดงชาย สถานีโทรทัศน์ (ฟรีทีวี) กัมพูชา และปิค โสเพรีย Pich  Sophea - นักร้องหญิงค่ายเพลงHangmeas เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าและร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ธุรกิจในกัมพูชาโดยเน้นสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับบำรุงผิวเป็น best seller ได้แก่ Colligi Collagen และ amadoCerigi ทั้งนี้ในด้านพฤติกรรมผู้บริโภคในกัมพูชานิยมเห็นสินค้าและสัมผัสทดลองสินค้า ซึ่งปรับกลยุทธ์วิธีการขายให้สอดคล้องและเหมาะสมกับคนในพื้นที่มากขึ้นทางการจำหน่ายในตลาดกัมพูชา จะผ่านตัวแทนที่มีอยู่ประมาณ 15 รายและช่องทางตามร้านสะดวกซื้อ รวมถึงร้านขายยากว่า 19 จุดและยังมีแผนกระจายไปยังร้านค้าเล็ก ๆ อีกกว่า 10 ร้านค้า ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคนอกจากนี้ยังเริ่มเปิดช่องทางจำหน่ายออนไลน์จะเน้นไปที่ Facebook Fanpage: www.facebook.com/amadocambodiaoffice เพื่อเตรียมพร้อมการเติบโตด้านอีคอมเมิร์ซที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แม้ปัจจุบันคนกัมพูชาจะยังมีการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ไม่มากนักแต่เชื่อว่าอนาคตการซื้อสินค้าออนไลน์จะค่อย ๆ เติบโตหากการคมนาคมขนส่งในประเทศกัมพูชาพัฒนาให้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามจากความสำเร็จในการนำร่องทำตลาดประเทศกัมพูชาแล้ว บริษัทได้ศึกษาการขยายตลาดในกลุ่มประเทศ CLMV เพิ่มเติมโดยตั้งเป้าในปี 2564 จะขยายตลาดออกไปยังประเทศเวียดนามและลาวโดยขณะนี้ได้เริ่มลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อปรับกลยุทธ์วิธีการขายและการทำการตลาดในประเทศนั้นๆ ให้สอดคล้องและเหมาะสมกับคนในพื้นที่มากขึ้นต่อไป  

หน้าแรก » การตลาด

ข่าวในหมวดการตลาด