การตลาด
พลิกโฉมงานด้านสิ่งแวดล้อม
วันพฤหัสบดี ที่ 04 มีนาคม พ.ศ. 2564, 11.18 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
ไทยยูเนี่ยนจับมือองค์กรอนุรักษ์ธรรมชาติระดับโลก
พลิกโฉมงานด้านสิ่งแวดล้อม
ไทยยูเนี่ยน บริษัทผู้ผลิตแบรนด์ระดับโลกอย่าง ชิคเก้น ออฟ เดอะ ซี และ จอห์น เวสต์ ประกาศความโปร่งใสร้อยเปอร์เซ็นต์ของซัพพลายเชนในจัดหาปลาทูน่าทั่วโลกภายในปี 2568
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะหนึ่งในบริษัทอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้ร่วมมือกับองค์กรอนุรักษณ์ธรรมชาติระดับโลก The Nature Conservancy ประกาศเจตนารมณ์ในการทำงานด้านความโปร่งใสของซัพพลายเชนในการจัดหาปลาทูน่าทั่วโลก เพื่อดูแลระบบนิเวศน์ทางทะเล เชื่อว่าการร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถผลักดันอุตสาหกรรมให้ยั่งยืนขึ้นได้ โดยเน้นประเด็นการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม
ไทยยูเนี่ยน ในฐานผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก ที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ จะร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านการประมงขององค์กร The Nature Conservancy เพื่อติดตั้งระบบตรวจสอบซัพพลายเชนการจัดหาปลาทูน่าภายในปี 2568 ซึ่งรวมถึงการเริ่มใช้ระบบดิจิตัลในการตรวจสอบเรือประมงของคู่ค้าในซัพพลายเชน การติดตั้งกล้องวิดีโอ จีพีเอส และระบบเซนเซอร์ เพื่อติดตามผู้คนและกิจกรรมต่างๆ บนเรือได้โดยอัตโนมัติ
เจนนิเฟอร์ มอร์ริส ประธานกรรมการ องค์กร The Nature Conservancy กล่าวว่า “ทางเรารู้สึกตื่นเต้นเพราะความร่วมมือครั้งนี้มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมการทำงานด้านความยั่งยืนทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลกระป๋อง ผู้บริโภคและผู้ค้าปลีกเลือกซื้อสินค้าที่มีความยั่งยืน นับเป็นการส่งสัญญาณให้กับผู้ผลิต และทาง The Nature Conservancy หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประกาศเจตนารมณ์ในครั้งจะช่วยเร่งการใช้ระบบดิจิตัลในการตรวจสอบความโปร่งใสในการประมงทั่วโลก”
การทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม ส่งผลลบต่างๆ ตั้งแต่การจับปลาที่มากเกินไป ในขณะที่จำนวนปลาทูน่าลดน้อยลง รวมถึงสัตว์ทะเลต่างๆ ที่เสี่ยงในการถูกจับติดตาข่ายขึ้นมาด้วย เช่น ปลาฉลามและเต่าทะเล หากไม่มีการตรวจสอบจะนำไปสู่การสูญเสียรายได้รับหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่ระดับชุมชนชาวประมงไปจนถึงระดับรัฐบาล
ธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญกับการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอมาโดยตลอด เราเริ่มต้นจากกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเราที่เรียกว่า SeaChange® ต่อยอดไปสู่การร่วมมือกับองค์กรต่างๆ เช่น The Nature Conservancy เราตระหนักดีว่าความเปลี่ยนแปลงไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ แต่เราต้องผสานความร่วมมือในการกำหนดทิศทางในอนาคต ความเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากเพียงคำพูดสวยหรูเท่านั้น ผู้นำองค์กรต่างๆ จะต้องลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ ผมเชื่อว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างไทยยูเนี่ยนและ The Nature Conservancy จะสามารถสร้างอนาคตที่ยั่งยืนได้ ด้วยการตรวจสอบผ่านระบบดิจิตัลที่เพิ่มมากขึ้นและความโปร่งใสที่จะเกิดขึ้นทั้งอุตสาหกรรม”
ปัจจุบันคณะกรรมาธิการประมงแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกตอนกลาง (Western Central. Pacific Fisheries Commission) ยังคงระงับสังเกตุการณ์เรือประมงที่จับด้วยเครื่องมืออวนเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้การตรวจสอบบนเรือประมงมีไม่เพียงพอ การประกาศเจตนารมณ์และความร่วมมือในครั้งนี้ถึงมีนัยยะสำคัญ ในระหว่างสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลกนั้น การประมงยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง (มีงานวิจัยที่เผยว่าสถานการณ์โควิด-19 นั้นทำให้การประมงลดลงเพียง 4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น) แต่ความต้องการในการซื้อผลิตภัณฑ์ปลาทูน่ากระป๋องนั้นเพิ่มขึ้นทั่วโลก ข้อมูลโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติยังชี้ให้เห็นว่า ราคาขายส่งปลาทูน่านั้นเพิ่มขึ้น 41 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และบริษัทอาหารต่างๆ ทั่วโลกยังรายงานยอดขายที่เพิ่มขึ้นเท่าตัวในปี 2563
มาร์ค ซิมริง ผู้อำนวยการโครงการการประมงขนาดใหญ่ องค์กร The Nature Conservancy กล่าวว่า “การตรวจสอบด้วยระบบดิจิตัลจะทำให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์อาหารทะเลนั่นได้รับการจัดหาด้วยวิธีที่ยั่งยืนถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีการใช้แรงงานอย่างไม่เป็นธรรม การตรวจสอบที่ได้มาตรฐานจะนำมาซึ่งข้อมูลต่างๆ ที่มีความสำคัญ ซึ่งปัจจุบัน การที่เราไม่มีข้อมูลเหล่านี้ ทำให้บังคับใช้กฎหมายในภาคประมงเป็นไปได้ยาก การร่วมมือกับบริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมจะช่วยอุดช่องโหว่ดังกล่าวนี้ได้ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่างไทยยูเนี่ยนและ The Nature Conservancy มีโอกาสที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในระดับโลกได้”
ความร่วมมือในครั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนและ The Nature Conservancy จะทำงานกับรัฐบาล หน่วยงานผู้กำกับดูแล และซัพพลายเชน เพื่อที่จะผลักดันให้เกิดการตรวจสอบทางทะเลของซัพพลายเชนการจัดหาปลาสแปรต แมคเคอเรล เฮอร์ริ่ง และไวทิ่ง ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ได้ภายในปี 2568 นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนจะใช้ระบบตรวจสอบเรือประมงที่ใช้เครื่องมืออวนในซัพพลายเชนที่อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการทำลายสิ่งแวดล้อมภายในปี 2568 ซึ่งเครื่องมือที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นอุปกรณ์ลอยน้ำล่อปลาทะเล ซึ่งอาจจะทำให้สัตว์ต่างๆ ติดอวนมาด้วย เช่นเต่าทะเล ซึ่งมีผลกระทบต่อประการัง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การตลาด
Top 5 ข่าวการตลาด
- “เอรา-วอน” เปิดตัวกางเกง “GOLF FABRIC” ยืดหยุ่นใส่สบาย ตอบโจทย์สไตล์คนแอคทีฟ 27 มี.ค. 2567
- POWER MALL SUMMER DOUBLE COOL สุดยิ่งใหญ่ ช้อปดับร้อน มอบดับเบิ้ลเกินคุ้ม 27 มี.ค. 2567
- สยามเอ็มซีปลื้มยอดขาย “บางกอกคุกกี้” โต 50 % รับท่องเที่ยวพุ่ง 27 มี.ค. 2567
- แอลจี เปิดตัว LG PuriCare 360° Alpha Petครั้งแรกของเครื่องฟอกอากาศสำหรับครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง 27 มี.ค. 2567
- ครั้งแรกกับ POP MART ประเทศไทย กับการมาของ Ayan ศิลปินระดับโลก 27 มี.ค. 2567
ข่าวในหมวดการตลาด
- ผลิตภัณฑ์ซีพีเอฟ 584 รายการ ได้ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์จาก อบก. หนุนลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก 21:17 น.
- 4 ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค รวมพลังลดโลกร้อน ชวนปิดไฟ 1 ชั่วโมง "60+ Earth Hour 2024" คืนวันที่ 23 มี.ค. พร้อมกันทั่วโลก 15:35 น.
- ครบรอบ 7 ปี 7 สาขา “มัลตี้ บิวตี้” ผู้นำเทรนด์เครื่องสำอางสายเกา ฉลองหั่นโปรฯ กว่า 90% 15:34 น.
- “มาม่า” สนับสนุนซีรีย์ไทย “รักนี้ไม่มีถั่วฝักยาว” นิยายออนไลน์คว้ารางวัลจากงาน WebNovel Spirity Award 2022 20:55 น.
- Heineken Experience x Cat Radio ประกาศผลผู้ชนะ 6 วงหน้าใหม่ ร่วมไลน์อัพเวทีงาน 19:06 น.