'วิษณุ' ยันไม่ใช้ ม.44 ชักดาบจ่ายค่าโง่โฮปเวลล์ 1.2 หมื่นล้าน ด้าน "อาคม” สั่งบอร์ดรถไฟสรุปคำพิพากษาด่วน

วันที่ 22 เม.ย. 62 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีศาลปกครองสูงสุดพิพากษาให้รัฐ จ่ายค่าเสียหายแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) กรณีถูกยกเลิกสัญญา เป็นเงินมูลค่า 11,888 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยว่า ยังไม่ทราบละเอียดเรื่องดังกล่าว จึงยังตอบไม่ถูกว่ารัฐต้องชดใช้ค่าเสียหายเลยหรือไม่ ทั้งนี้คำสั่งศาลปกครอง ถือว่าสิ้นสุดแล้ว แต่ละเอียดคำพิพากษาว่าอย่างไรนั้น ตนยังไม่ได้ดู เรื่องนี้กระทรวงคมนาคมเป็นเจ้าของเรื่อง กระทรวงฯ จึงต้องไปทำการบ้านแล้วรายงานเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ซึ่งตนคงจะได้พิจารณาก่อน แต่ยังไม่ทราบว่าจะใช้เวลานานเท่าใดในการศึกษา เนื่องจากคำพิพากษาฉบับเต็มยังไม่ออกมา คาดว่าจะใช้เวลาอีกอีกพักหนึ่ง และเมื่อมีคำพิพากษาแล้ว ก็ต้องไปคัดลอกสำเนาเพื่อมาศึกษา ว่าจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป และเป็นไปได้ที่กระทรวงคมนาคมจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษา

เมื่อถามว่ารัฐต้องไปไล่เบี้ยกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เห็นชอบให้ยกเลิกสัญญาหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ขอเวลา ตอนนี้ยังนึกไม่ออก ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตน ติดตามคดีความสำคัญ ซึ่งรัฐถูกฟ้องร้องเรียกความเสียหายและรัฐเป็นผู้ฟ้อง ซึ่งมีกว่า 30 คดี โดยคิดตามแล้วรายงานให้ ครม.ทราบว่ามีคดีอะไรบ้าง อยู่ในขั้นตอนใดแล้ว โดยคดีโฮปเวลล์ เป็นหนึ่งในนั้นด้วย โดยที่ผ่านมา ตนได้ยกคดีต่างๆขึ้นมาแจ้งเตือน ครม.เป็นระยะๆ เพื่อให้กระทรวงเจ้าของเรื่องช่วยติดตาม
          
เมื่อถามว่ากรณีนี้จะสามารถใช้มาตรา 44 ช่วยให้รัฐไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ถือว่าเป็นทางเลือก รัฐจะไม่ใช้มาตรา 44 ในกรณีดังกล่าว ส่วนจะทำได้หรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะที่ไม่ทำนั้น ก็ทำไม่ได้ เนื่องจากไปลบล้างคำพิพากษาศาล แต่อาจใช้ทำอย่างอื่น เช่น การเจรจาต่อรองกัน ซึ่งอาจไม่ถึงขั้นต้องใช้มาตรา 44 ก็ได้
          
“แต่ผมยังไม่เห็นคำพิพากษาชนะหรือแพ้นั้นคือผล แต่จะถึงขั้นต้องจ่ายเงินกันหรือ จึงต้องไปถามทางโฮปเวลล์ก่อนว่าต้องการอะไร คดีนี้มันยาวนานมาแล้ว ผมไม่อยากพูดว่ามีวิธีการใด เพราะจะเสียรูปคดี” นายวิษณุ กล่าว
          
นายวิษณุ กล่าวว่า กรณีนี้ต้องใช้เวลาอีกยาวนาน  จึงจะทราบว่ารัฐจะต้องชดใช้เงินจำนวนเท่าใด หรือมีทางออกอย่างไร เพราะกว่าจะมีคำพิพากษาฉบับเต็มออกมาก็ใช้เวลาเป็นเดือน หลังจากนั้นก็ต้องใช้เวลาพูดคุยหารือ รวมถึงการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดนั้น มีระยะเวลากำหนดไว้อยู่ เว้นแต่มีการเจรจาเกิดขึ้น เหมือนอย่างหลายคดีที่มีการเจรจากันอยู่ จึงตอบไม่ได้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าใด ส่วนการชดใช้อาจน้อยกว่าที่ศาลได้พิพากษาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเจรจา แต่หากคู่กรณีไม่เจรจาเลย คงไม่สามารถไปบังคับคู่กรณีได้
 

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่าได้รับรายงานจากการรถไฟแห่งประเทศไทยในเบื้องต้นแล้ว และได้สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรายงานคำพิพากษาดังกล่าวรายงานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อรับทราบและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานตามผลแห่งคำพิพากษา ก่อนรายงานนำเสนอกระทรวงคมนาคม เพื่อรายงานคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อรับทราบและพิจารณาแนวทางการดำเนินงานให้เป็นไปผลแห่งการบังคับของคำพิพากษาดังกล่าว รวมถึงการดำเนินการตามกฎหมาย กฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้องของผู้รับผิดชอบที่ผ่านมาต่อไป