วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 19:26 น.

การเมือง

ศาลรธน.รับคำร้องเพื่อวินิจฉัย ความเป็นรมต.ของ'บิ๊กตู่'แล้ว

วันศุกร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2562, 17.41 น.

เมื่อวันที่ 19 กรกฏาคม 2562  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และคณะ ร่วมกันเข้าชื่อเสนอคำร้องต่อนาชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อมาวันที่ 5 กรกฏาคม 2562  นายชวนได้ตรวจสอบคำร้องและเอกสารประกอบของผู้เสนอคำร้องและคณะแล้ว และได้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย

และวันนี้(19ก.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมและได้พิจารณาว่า คำร้องของผู้ร้องต้องด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฎว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จำนวน 110 คน ซึ่งเป็นจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร เข้าชื่อร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้ร้อง ขอให้ส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (6) ประกอบมาตรา 98 (15) เพราะเหตุเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ กรณีจึงเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม และมาตรา 82 ประกอบพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 (9) แล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจึงสั่งรับคำร้องนี้ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ พร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง
          
สำหรับการพิจารณากรณีให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่นั้น เห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้อง "ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่าผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง" ซึ่งตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ก็ไม่ปรากฎเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะทำให้เกิดความเสียหายแต่ประการใด ประกอบกับผู้ร้องไม่ได้มีคำขอในส่วนนี้ จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง 

พร้อมกันนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมพิจารณากรณีที่นายณฐพร โตประยูร (ผู้ร้อง) ได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ว่า การกระทำของพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 1, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 2, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 3 และคณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ผู้ถูกร้องที่ 4 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่นั้น 
          
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก (5 ต่อ 4) เห็นว่า ผู้ร้องได้ใช้สิทธิร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสองแล้ว แต่อัยการสูงสุดมิได้ดำเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอ กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสาม ที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงมีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย แจ้งให้ผู้ร้องทราบ ส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 4 ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง 

หน้าแรก » การเมือง