วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 12:21 น.

การเมือง

'สมศักดิ์'สวมบททำหน้าที่ผู้ประนอม ไกล่เกลี่ยลูกหนี้-เจ้าหนี้สำเร็จกว่า96%

วันอาทิตย์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2562, 11.16 น.

เมื่อวันที่ 15 ก.ย.2562 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนได้ลงพื้นที่อ.เมือง จ.สุโขทัย รวมกับกรมบังคับคดีเพื่อเปิดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 โดยการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยฯ มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เข้าร่วมโครงการรวม 5 หน่วยงาน ได้แก่ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) ธนาคารออมสิน ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) มีลูกหนี้ตามคำพิพากษาในเขตพื้นที่รวม 5 จังหวัด ได้แก่ สุโขทัย ตาก พิจิตร พิษณุโลก และอุตรดิตถ์ เข้าร่วมโครงการ มีลูกหนี้ลงทะเบียนไกล่เกลี่ยทั้งสิ้น 240 เรื่อง ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 210 เรื่อง ถือเป็น 96.33 % 

การจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยข้อพิพาทชั้นบังคับคดีในคดีนี้ ช่วยให้เจ้าหนี้ ลูกหนี้ ได้เจรจากันด้วยความพึงพอใจ สะดวก รวดเร็วและเป็นธรรม เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ และลูกหนี้สามารถชำระหนี้ได้ ส่งผลให้ลูกหนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องถูกบังคับคดี หรือถูกฟ้องล้มละลาย อีกทั้ง ยังเป็นการอำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยเหลือประชาชนให้สามารถเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้โดยง่าย ทำให้เกิดความยุติธรรมอย่างเสมอภาคในทุกชนชั้น และเป็นส่วนช่วยในการเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจด้วย


ลงพื้นที่รับฟัง-แลกเปลี่ยนข้อมูลภัยแล้ง-อุทกภัย 

พร้อมกันนี้นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตนยังได้ลงพื้นที่ จ.สุโขทัย เพื่อรับฟังปัญหาต่างๆ โดยมีพี่น้องประชาชนจาก จ.แพร่ และพะเยา มาเข้าพบ เพื่อพูดคุยถึงเรื่องการพัฒนาลุ่มน้ำยมและปัญหาภัยแล้ง-อุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งแนวทางการแก้ปัญหานั้นเรามี เช่น การสร้างเขื่อน การสร้างฝาย แต่ก็ยังมีคนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังกลัวว่าจะมีผลกระทบต่อลูกหลานภายในวันข้างหน้า บริเวณดังกล่าวนั้นใกล้กับ แก่งเสือเต้น ทำให้คนที่เคยคัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นเกรงว่า หากมีการสร้างเขื่อนหรือฝาย จะกินพื้นที่ของบริเวณที่น้ำท่วมไปไกล เราจึงไม่อยากให้กระทบความรู้สึกตรงนั้น และเรื่องเดิมที่มีผลกระทบจิตใจอาจจะเกิดจากการได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน ทำให้หลายคนเกิดความกังวล

 "การลดระดับการก่อสร้างลง อาจจะไม่กระทบก็ได้ ซึ่งในวงสนทนาเราแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ผู้เห็นด้วย ผู้ไม่เห็นด้วย และกลุ่มนักวิชาการ NGO ซึ่งเราต้องรับฟังเสียงของพวกเขาให้ครบถ้วน ว่าจะมีข้อดีข้อเสีย และผลกระทบกับคนในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน คงต้องหาทางสำรวจพูดคุยกับหลายๆกลุ่มให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้การจะสร้างเขื่อนยังบอกไม่ได้ว่าจะมีหรือไม่ หรือจะมีแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทางอื่นอย่างไร อยู่ที่ประชาชนในพื้นที่และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นว่าคุ้มค่าที่จะทำหรือไม่ ต้องรอดูต่อไป ทั้งนี้ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ แต่ในฐานะคนในพื้นที่ก็อยากที่จะรับฟังและช่วยสะท้อนสิ่งต่างๆไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เราต้องรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน"

 

หน้าแรก » การเมือง