วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 17:14 น.

การเมือง

“วัสติง” กสม.โต้ข่าวปล่อย กสม.3 วิกฤตหนักเสี่ยงถูกชัตดาวน์

วันจันทร์ ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562, 17.06 น.

ประธาน กสม. ยืนยัน “กสม.3” สามารถเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ได้เมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมาแม้เพียง 1 คนโดยไม่ต้องรอคลอด กสม.4 ภายในสิ้นปีนี้

วันที่ 16 ก.ย. นายวัสติง สมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกระแสข่าวการสรรหา กสม.ชุดที่ 4 ที่ล่าช้าจะส่งผลกระทบให้การเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีพ.ศ.2564 ล่าช้าออกไปด้วยว่า ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด เพราะตามปฏิทินการเสนอของบประมาณจะให้แต่ละหน่วยงานเสนอภายในเดือน ม.ค. –ก.พ.2563 อีกทั้งขณะนี้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดกำลังร่วมกันพิจารณาแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวไม่น้อยกว่า 1 คนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพ.ศ.2560 (พรป. กสม.) เพื่อให้ กสม. ชุดที่ 3 (ชุดปัจจุบัน) สามารถประชุมและมีมติในกิจการต่างๆรวมทั้งการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ได้ตามกำหนดเวลา

นายวัส กล่าวว่าเมื่อมีการแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวตามกฎหมายในเร็วๆนี้จะทำให้ กสม.ชุดปัจจุบันมีจำนวนไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด สามารถประชุมและลงมติในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมปกป้องและคุ้มครองการละเมิดสิทธิมนุษยชนได้ โดยเฉพาะการออกรายงานผลการตรวจสอบการละเมิดสิทธิฯกว่า 80 เรื่องและพิจารณารับเรื่องร้องเรียนไว้เป็นคำร้องเพื่อตรวจสอบและมอบหมายให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดำเนินการคุ้มครองสิทธิของประชาชนกว่า 60 เรื่อง ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นวาระที่สะสมมาตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา และพร้อมที่จะเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาทันทีที่ กสม. สามารถเปิดประชุมได้

“เรื่องการสรรหากสม.ชุดใหม่เป็นหน้าที่ และอำนาจของคณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภา ผมไม่ขอก้าวล่วง เพราะเป็นดุลพินิจขององค์กรทั้งสองส่วน ที่มีการอ้างแหล่งข่าวโดยไม่ระบุชื่อผู้ให้ข่าวว่าการสรรหาที่ล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อการบริหารงานในหน่วยงานเพราะจะขาดงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายเป็นเงินเดือนพนักงานและอื่นๆนั้นนอกจากจะเป็นข่าวที่ไม่ถูกต้องแล้วยังเป็นการจับสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทยเป็นตัวประกัน กดดันให้คณะกรรมการสรรหาและวุฒิสภาพิจารณาผ่าน กสม.4 ซึ่งเป็นชุดถัดไปโดยเร็วตามวาระซ่อนเร้นของผู้ที่ออกมาให้ข่าวลอยๆ”

ประธาน กสม.กล่าวด้วยว่าปํญหา กสม.เหลือไม่ถึงกึ่งหนึ่งและไม่สามารถประชุมลงมติในกิจการของกสม. ได้นั้นในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วปัจจุบัน พรป.กสม.ปี 2560 มาตรา 22 ได้บัญญัติทางออกในเรื่องนี้ไว้ โดยให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมาเสริมเพื่อทำหน้าที่ไปพลางก่อนจนกว่าการสรรหาและแต่งตั้งตามปกติจะแล้วเสร็จ ซึ่งตนได้แจ้งให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งกรรมการชั่วคราวมากว่า 45 วันแล้วและหวังว่าคำสั่งแต่งตั้งคงมาถึงในเร็วๆนี้

หน้าแรก » การเมือง