วันที่ 24 มกราคม 2563  นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความลงในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงเรื่อง ส.ส.เสียบบัตรแทนกัน ว่า เสียบบัตรแทนกัน ในสภาสมัยก่อนก็เคยมีปัญหาเรื่องเสียบบัตรแทนกันมานานแล้ว ต่อให้อีกกี่ยุคกี่สมัย ต้องมีปัญหานี้อยู่ร่ำไป เพราะ          

1. ทุกที่นั่งไม่ได้เป็นที่นั่งประจำ มีช่องเสียบบัตรอยู่ทุกที่นั่ง
          
2. เมื่อจะลงคะแนน ต้องเสียบบัตรแสดงตนก่อนทุกครั้ง
          
3. เมื่อเสียบบัตรแล้ว ถึงจะกด เห็นชอบ ไม่เห็นชอบ หรืองดออกเสียง
          
ดังนั้น ใครจะเสียบแทนใครมันได้ทั้งนั้น แล้วถ้าเพื่อน ส.ส. ไม่ฝากให้กดแทน ใครเขาจะไปกดได้?
          
ส.ส. บางคนคิดจะแว้บ หนีสภาไปหาเด็ก ก็ฝากบัตรไว้ให้เพื่อนเสียบแล้วกดลงคะแนนแทน
          
หากได้ดูสภาของอังกฤษ ที่ประชุมสภาของเขาเล็กๆ ส.ส. นั่งเบียดกัน พูดอะไรได้ยินกันหมดไม่ต้องใช้ไมค์ ขนาดเขาเป็นประเทศมหาอำนาจ ยังไม่เห็นต้องสร้างสภาเสียใหญ่โตอย่างประเทศไทย
          
ที่ท่านนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส. ประชาธิปัตย์หลายสมัยท่านพูด ถูกต้องที่สุด เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องออกมาพูด เพราะเขาทำกันเหลือทน ตัวเองก็ไม่อยู่สภา ดันเสร่อไปตัดริบบิ้นอยู่ในพื้นที่ ใครๆ เขาก็รู้ แล้วจะไปกดลงคะแนนผ่านร่างงบประมาณที่เป็นกฎหมายสำคัญได้ยังไง?
          
อีกคนก็แว้บไปเมืองจีน ช่างไร้เดียงสาเสียเหลือเกิน เรื่องพรรค์นี้สู้พรรคประชาธิปัตย์เขาไม่ได้หรอก
          
ผมเห็นแก้ปัญหาหลายครั้งหลายครา แก้ไม่ได้สักที
          
ขอแนะนำ เอาตัวเครื่องเสียบบัตรสัก 10 เครื่อง ไปตั้งอยู่หน้าประธานสภา แล้วให้ ส.ส. เดินมาเสียบบัตรกดคะแนนกันซึ่งๆ หน้า ไม่ว่าแก่ ไม่ว่าหนุ่มสาว เดินเข้าแถวเรียงคิวกันมากด
          
แหม ตอนเดินหาเสียงยังเดินขอคะแนนได้ขนาดรองเท้าสึก
          
ตอนนี้พอเข้าสภาได้เป็น ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ จะเดินไปอีกสัก 10 ก้าว เพื่อกดลงคะแนน ทำไมจะทำไม่ได้?

"โภคิน" ชี้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ต้องตกทั้งฉบับ 
          
นายโภคิน พลกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีมี ส.ส. เสียบบัตรแทนกันในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 148 เขียนชัดเจนเรื่องกระบวนการตรากฎหมาย ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นคือการเสียบบัตรแทนกัน เท่ากับว่ามีความชัดเจนว่ากระบวนการตรานั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายที่จะทำให้กฎหมายนั้นตกไป โดยจะอ้างว่าช่องเสียบบัตรน้อย หรือเสียบบัตรแทนตามเจตนารมณ์ของเจ้าของบัตรไม่ได้
          
นายโภคิน ยังกล่าวถึงรัฐธรรมนูญมาตรา 143 ที่หากสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณไม่แล้วเสร็จภายใน 105 วัน นับแต่วันที่รับร่างจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ถือว่าสภาฯเห็นชอบตามที่ครม. เสนอมาว่า กรณีดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เนื่องจากการพิจารณากฎหมายเสร็จสิ้นแล้วตามกรอบเวลา 105 วันจะนำมาอ้างเหตุให้มีผลบังคับใช้ตามวาระแรกที่รัฐบาลส่งมาไม่ได้ รัฐบาลต้องไปหาทางว่าจะทำอย่างไรให้ร่างพ.ร.บ. นั้นบังคับใช้ให้เร็วที่สุด และไม่สามารถออกเป็นพ.ร.ก.ได้ เพราะตามรัฐธรรมนูญบอกว่าต้องทำเป็นร่างพ.ร.บ.เท่านั้น ถ้ารัฐบาลออก พ.ร.ก.จะเท่ากับขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนจะฟ้องได้หรือไม่ต้องดูอีกที