พปชร."ตั้งศูนย์ประสานงานแก้ PM 2.5 ผุดไอเดียติดตั้งหัวฉีด PM Fight ตามบ้านงบพันบาท  "สนธิรัตน์" เผยเตรียมลดราคาถ่ายน้ำมันเครื่อง-จัดหาสถานที่หลบภัยในวิกฤติฝุ่น ย้ำเสียบบัตรแทนกันไม่ได้ แม้จะอยู่ในห้องประชุม

วันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2563   นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย ส.ส. กรุงเทพมหานครและอดีตผู้สมัคร ส.ส. ร่วมกันแถลงตั้งศูนย์ประสานงาน PM 2.5 โดยกิจกรรมของพรรคที่แถลงต่อสื่อมวลชนในวันนี้คือการตั้งศูนย์ประสานงาน PM 2.5 จะดำเนินการเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเฉพาะหน้าซึ่งช่วงนี้สถานการณ์ดีขึ้นเพราะมีลมเข้ามาทำให้ค่า PM ตกลงไปแต่ปัญหานี้จะอยู่กรุงเทพฯเมื่ออากาศปิดจะมี PM 2.5 สะสมขึ้นมา ถึงตั้งศูนย์ประสานงานร่วมกับสสกรุงเทพฯ และผู้สมัครของพรรครณรงค์ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวต่อไปดูรายละเอียดจะอธิบายซึ่งจะมีกิจกรรมนอกจากการแถลงข่าวแล้วจะมีการเสนอมาตรการและการนำพืชต่างๆ มาใช้ร่วมกันเดินรณรงค์ในพื้นที่

ส่วนเรื่องไวรัสสายพันธุ์โคโรน่าที่ระบาดในประเทศจีนเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในประเทศไทย ดังนั้นการรณรงค์ PM 2.5 กับการใส่หน้ากากซึ่งใกล้เคียงกันสามารถช่วยป้องกันได้ทั้งการแพร่กระจายไวรัสโคโรน่า และ PM 2.5 ด้วยในคราวเดียวกัน

นางสาวภาดาห์ วรกานนท์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยถึงขั้นนอนไม่หลับ ตอนนี้พรรคจึงตั้งศูนย์ประสานงานฯ รวบรวมองค์ความรู้จากนักวิชาการและภาคส่วนต่างๆ เพื่อกระจายความรู้ในการป้องกันตัวเอง และรับเรื่องร้องเรียนและข้อเสนอแนะจากประชาชน เสนอมาตรการและองค์ความรู้ใหม่ๆ เช่น การใช้อุปกรณ์ป้องกัน PM 2.5, โครงการ PM Fight ติดตั้งหัวฉีดละอองน้ำขนาดเล็กบนกำแพงต้นไม้เพื่อสู้ระบบมลพิษทางอากาศ ซึ่งประกอบด้วยต้นไม้หลายชนิด ที่มีคุณสมบัติเรื่องการดักจับฝุ่นละอองดูดซับสารพิษลดความร้อนเพิ่มออกซิเจนในอากาศเพิ่มพื้นที่สีเขียวและลดภาวะตึงเครียด และนำเสนอใช้หัวพ่นละอองน้ำตามบ้านเรือน อีกทั้งหน่วยงานใดพอมีงบประมาณควรเอาไปทำเพื่อดักจับฝุ่นที่ออกมาจากท่อรถยนต์ไม่ต้องลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจนทำให้เกิดปรากฏการณ์ฝาชี ทำให้มลพิษออกไปไม่ได้ นอกจากนี้พรรคยังทำโบร์ชัวออกมาแนะนำ 10 วิธีเร่งด่วน และระบบฟอกอากาศจะ Cover System ระบบอนุภาคดักฝุ่นพร้อมด้วยระบบฟอกอากาศพ่นไอน้ำ เครื่องดักจับมลพิษปลายท่อไอเสียรถเมล์ รณรงค์ถ้าไม่ขับขอให้ดับเครื่อง รวมถึงกลุ่มเสี่ยงผู้สูงอายุเด็กเล็กและคนมีปัญหาภาวะทางเดินหายใจในช่วงค่ามลพิษสูงควรอยู่ที่บ้านและทำงานอยู่ที่บ้าน หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ผู้ป่วยเบื้องต้น และควรจะทำเซฟโซนเพื่อหลบภัยมลพิษ และจะเดินแจกหน้ากากเพื่อรณรงค์

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐให้ความใส่ใจและจะขับเคลื่อนในนามของพรรคการเมืองเพื่อประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและรณรงค์ให้เกิดความตระหนักรู้ แต่ไม่ว่ามาตรการ PM 2.5 หรือการป้องกันไวรัสโคโรน่า ไม่มีมาตรการใดสำเร็จได้หากไม่ร่วมมือกัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐมีนักวิชาการทำเรื่อง PM 2.5 ศึกษาตั้งแต่การหาเสียงเลือกตั้งปีที่แล้วจนพบหัวที่สร้างละอองแต่ให้ขนาดเล็กที่จะจับ PM 2.5 ได้ ถ้าทุกบ้านช่วยกันติดหัวละอองนี้และสเปรย์บริเวณด้านหน้าของตัวเองเพื่อจะจับ PM 2.5 ได้และสามารถลดปริมาณลงมา ซึ่งมีราคาประมาณ 1,000 บาทต่อสิบหัว ประชาชนสามารถหามาติดตั้งที่บ้านเพื่อกันฝุ่นได้โดยใช้ระบบน้ำประปาปกติ ซึ่งพรรคจะรณรงค์การลด PM 2.5 ทั้ง 50 เขตใน กทม. และขับเคลื่อนการทำงานทุกวันอาทิตย์ อีกทั้งยังจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งหัวฉีดดังกล่าวในพื้นที่สาธารณะ

ขณะเดียวกัน นายสนธิรัตน์ กล่าวอีกว่า ส่วนน้ำมัน B10 กระทรวงพลังงานจะรณรงค์ให้รถเติม B7 อย่างน้อยเพื่อลดมลพิษ ทุกปั๊มเร่งหัวจ่าย 1 มีนาคม พร้อมประสานทุกค่ายให้ลดราคาเปลี่ยนไส้กรอง ถ่ายน้ำมันเครื่อง เตรียมเคาะในที่ประชุมสัปดาห์หน้า ส่วนรถสาธารณะ นายกฯ บอกให้จับกุมรถควันดำ เวลาวัด AQI ไม่ได้แค่ PM 2.5 แต่มีสารอย่างอื่นด้วย พรรคจะประสานงานกรมควบคุมมลพิษเพื่อแก้ปัญหาและหาเครื่องตรวจวัดเฉพาะค่า PM 2.5 จากควันท่อรถ และจะประสานงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหาพื้นที่พักชั่วคราวให้ประชาชนมาพักในยามที่ค่าอากาศวิกฤติ

สำหรับผลสำรวจเสียงประชาชนของโพลต่างๆ สำรวจออกมา ยังไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลชุดนี้จะแก้ปัญหาฝุ่นได้ รัฐบาลตระหนักเรื่องนี้มาก ในการประชุม ครม. ก็ถกเรื่องนี้นาน มีประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ เพื่อแก้ปัญหานี้อยู่ตลอด 

ย้ำเสียบบัตรแทนกันไม่ได้ แม้จะอยู่ในห้องประชุม 

นายสนธิรัตน์  เปิดเผยว่า มีการพูดคุยกับ ส.ส.ของพรรค ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เสียบบัตรแทนกัน ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 แล้ว ซึ่งได้รับการชี้แจงเกี่ยวกับข้อจำกัดห้องประชุม แต่ได้สื่อสารว่า แม้จะมีข้อจำกัด แต่การลงมติต้องทำตามระเบียบและข้อบังคับของที่ประชุม ยืนยันว่าการยื่นบัตรให้คนอื่นเสียบแทน เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้แม้จะมีข้อจำกัด และทุกคนจะต้องนำเรื่องนี้ไปปฏิบัติ โดยการประชุมพรรควันอังคารนี้ จะมีการชี้แจงซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวน ที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรตั้งขึ้นมา

อว.คลอดมาตรการดูแลนักศึกษาจีนในไทย 

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ อว.มีความห่วงใยสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา ที่มีแหล่งเริ่มต้นจากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน มีการติดเชื้อและความรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิตหลายสิบราย การติดเชื้อจะใช้เวลา 2 - 3 วัน กว่าจะเริ่มมีอาการป่วยเป็นไข้ การระบาดโรคนี้ค่อนข้างง่าย เพราะติดต่อผ่านการหายใจและการสัมผัสผ่านสารคัดหลั่ง ไม่ว่าจะเป็นฝอยละอองต่างๆ ที่มาจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ และมีหลักฐานชัดเจนว่า มีผู้ป่วย หรือผู้ได้รับเชื้อได้เดินทางเข้ามาประเทศ ไทย ขณะที่ ปัจจุบันประเทศไทยมีนักศึกษาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินทางมาศึกษายังประเทศไทย จำนวนกว่า 5 พันคน ส่วนใหญ่ศึกษาในมหาวิทยาลัยราชภัฎ โดยเรียนแยกห้องกับนักศึกษาไทยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ และอีก 30 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือเรียนร่วมกับนักศึกษาไทย ส่วนมหาวิทยาเอกชนมีนักศึกษาชาวจีนทั้งระบบอีกกว่า 7,500 คน ทั้งนี้ ได้เปิดเทอมไปแล้วตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.2562 หรือต้นปี 2563 ดังนั้น นักศึกษาส่วนใหญ่จึงไม่ได้กลับบ้านไปฉลองตรุษจีนที่ประเทศของตัวเอง แต่ฉลองอยู่ในประเทศไทย

รมว.อว.กล่างต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรน่าและความไม่ประมาท อว.จึงมีประกาศให้ดำเนินการตามมาตรการ ดังนี้ 1. นักศึกษาจีนที่เดินทางกลับบ้านที่ประเทศจีนในช่วงตรุษจีนและยังไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย ขอให้นักศึกษาจีนเหล่านั้นพำนักอยู่ในประเทศจีนต่อไปเป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ขอให้มหาวิทยาลัยติดต่อกับนักศึกษาเหล่านั้นเพื่อแจ้งกำหนดการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป ทั้งนี้มหาวิทยาลัยควรจัดการสอนเสริมให้กับนักศึกษา หลังจากที่เดินทางกลับมาแล้ว 2. สำหรับนักศึกษาจีนที่พำนักในประเทศไทยและไม่ได้เดินทางกลับประเทศจีนในช่วงตรุษจีนนั้น ขอให้มหาวิทยาลัยประสานกับนักศึกษาเหล่านั้นเพื่อขอให้หลีกเลี่ยงการพบปะกับคนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศจีน เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะติดเชื้อดังกล่าว 3. นักศึกษาที่มีไข้ หรือมีอาการผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจ ต้องรายงาน พาไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ไม่ควรรักษาตัวเอง และควรดูแลอย่างใกล้ชิด มิให้ไปแพร่เชื้อต่อไป 4. กิจกรรมที่มีการชุมนุมนักศึกษาจำนวนมาก และอาจมีนักศึกษาต่างชาติร่วมด้วย ควรพิจารณาทบทวน 5. ขอให้สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัยช่วยเก็บข้อมูลนักศึกษาและเฝ้าระวังตามหลักระบาดวิทยา 6.อว.จะติดต่อขอความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อคัดกรองโรค และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อไป ที่สำคัญ ขอให้สถาบันวิจัย และมหาวิทยาลัยรายงานข้อมูลหรือเหตุการณ์ผิดปกติมายัง อว. ด้วย เพื่อร่วมกันควบคุมสถานการณ์นี้ร่วมกัน

"วันอังคารที่ 28 ม.ค.นี้ ช่วงบ่าย ตนจะหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัย เพื่อ ทบทวนความรู้ เตรียมพร้อมป้องกันและรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในประเทศไทยและ การระบาดอื่นๆในอนาคต"  ดร.สุวิทย์ กล่าว