เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2563พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง เปิดเผยว่า มีความมั่นใจตั้งแต่ส่ง ร.ต.ท.สมบูรณ์ ลงสมัคร ถึงแม้ครั้งที่แล้วเราจะไม่ชนะการเลือกตั้งก็ตาม ที่มั่นใจคือพรรคเพื่อไทยไม่ได้ลง ส่วนอนาคตใหม่ลงไม่ได้ เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพรรคฝ่ายค้านพรรคเดียวที่ลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ สังเกตดู เบอร์ 1 3 4 5 เป็นฝ่ายรัฐบาล เพราะฉะนั้นตอนนี้เป็นการต่อสู้กันระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ ผมเชื่อแน่ว่า พี่น้องลำปางเขต4 รักประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยสามารถที่จะพูดได้ โต้ตอบได้ ตรวจสอบได้ โปร่งใส ไม่เหมือนเผด็จการ

อย่างพระราชกำหนดที่ออกมาเพื่อจะกู้เงิน เราจะขอตรวจสอบ คุณประยุทธ์ยังไม่ยอมให้ตั้งกรรมาธิการตรวจสอบเลย เราต้องตรวจสอบให้ได้ เงิน 1 ล้านล้าน ที่จะเอามาใช้จ่ายให้ประชาชนก็จะถูกทุจริต คอรัปชั่นเมื่อพรรคใหญ่ๆลงไม่ได้ เราเป็นตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย เราเชื่อว่า พี่น้องประชาชนที่ลำบาก เขต 4 รักประชาธิปไตย คราวที่แล้วถึงได้เลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะการเลือกตั้ง อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ถึงไม่ชนะก็มีคะแนนลำดับต่อมา เมื่อผมบอกมั่นใจตั้งแต่ต้นแล้ว ก็คือว่า คะแนนของประชาธิปไตยมีตั้ง 7 หมื่นคะแนน ส่วนเผด็จการมี 3 หมื่น คะแนนมันชนะกันอยู่แล้ว เมื่อชนะกันอย่างนี้ก็ขอร้องพี่น้องประชาชน ลำปาง เขต4 ที่เคยลง เพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย เพื่อชาติ เคยลงประชาชาติ ฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเปลี่ยนใจนะครับ ให้หันมาลง พรรคเสรีรวมไทย เพราะเราเป็นตัวแทนฝ่ายประชาธิปไตย

ส่วนพี่น้องประชาชนที่คราวที่แล้วไปเลือกฝ่ายเผด็จการ เลือกพลังประชารัฐ 3 หมื่นคะแนน ท่านจะเห็นอยู่แล้วว่าคุณประยุทธ์บริหารประเทศ มา 6- 7 ปีแล้ว ครั้งแรกเป็นนายกฯโดยการรัฐประหาร ปล้นเขามา ครั้งที่สอง ถึงแม้จะเลือกตั้ง ก็เขียนรัฐธรรมนูญ โกงเขามา เพราะฉะนั้นเมื่อบริหารประเทศทั้งหมด 6-7 ปีแล้ว ลองไปดูว่าคุณประยุทธ์บริหารประเทศ แล้วพี่น้องประชาชนเป็นอย่างไร ยากจนลงทุกวันๆ สังเกตดู คุณประยุทธ์ตั้งงบประมาณ ซึ่งเป็นภาษีของประชาชนมาบริหารประเทศ ขาดดุลทุกปี เข้าเป็นนายกฯปี 2557 ก็ตั้งงบประมาณปี 2558 – 2563 ขาดดุลมาโดยตลอด คำว่าขาดดุลโดยตลอดก็คือว่า เก็บภาษีประชาชนได้ไม่เพียงพอกับงบประมาณที่จะใช้จ่าย ก็เลยต้องไปกู้เขามา ท่านลองคิด ในชีวิตของท่าน ต้องกู้ ต้องเป็นหนี้ ท่านจะมีความสุขไหม แล้วพอเกิดโรคระบาดที่จะต้องดูแลประชาชนตามรัฐธรรมนูญมาตรา47 บัญญัติว่า "ประชาชนย่อมได้รับการป้องกันและขจัดโรคภัย โรคระบาด จากรัฐบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย"   ถ้าผมพูดสั้นๆ คือ เมื่อโรคระบาด โควิด-19 เข้ามา รัฐจะต้องดูแลหมด ป้องกัน หน้ากากอนามัยต้องถึงบ้าน ตรวจโควิดต้องฟรี ป่วยแล้วรักษาฟรีแต่คุณไปกำหนดมาตรการต่างๆขึ้นมา เพื่อไม่ให้หยุดงาน ทำงาน พ่อค้า-แม่ค้า เดือดร้อน คนงานตกงาน บริษัทปิดหมด คุณต้องชดเชยเขา แต่ไม่มีเงินชดเชย ก็ต้องไปกู้อีก สร้างภาระให้แก่ประเทศชาติ สร้างภาระให้แก่ประชาชน ลูกหลานเราข้างหลังที่ต้องมาชดใช้แทน เดี๋ยวปัยหาตามมา คุณประยุทธ์ต้องหาเงินไปชดใช้เขา ด้วยการขึ้นภาษีอีก พี่น้องประชาชนก็จะยิ่งเดือดร้อนขึ้นไปอีก

เพราะฉะนั้นพี่น้องประชาชนที่เคยเลือกพรรคฝ่ายเผด็จการ ควรจะเปลี่ยนใจหันมาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ทุ่มเทคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตย ให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศ แล้วท่านจะสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง ไม่พอใจไม่เลือกต่อไปก็ได้แต่เผด็จการเราบอกให้เขาไปได้แล้ว เขาบอกลองไล่ดูสิ ท้าทาย ถ้าโควิด-19 ไม่มา ผมก็เชือ่ว่าคุณประยุทธ์อยู่ไม่ได้แล้ว โควิดมาช่วยคุณประยุทธ์นะ ขอให้พวกเรามั่นใจ เชื่อมั่นในตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะบริหารประเทศได้ ทั่วโลกก็เป็นประชาธิปไตย อย่ามาว่าประเทศบางประเทศต่างๆไม่เป็นประชาธิปไตย อย่างจีน ไม่ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย แต่ว่าฐานเขาแน่น เขาปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ คนจะเติบโตมาในจีน เขากลั่นกรอง ผู้นำจีนแต่ละคน รัฐมนตรี ก็ได้รับการกลั่นกรองเลือกมา ของเรายังแย่งกันอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ก็ยังแย่งกันเป็นรัฐมนตรี พอขึ้นมาแล้วก็บริหารไม่ได้ เป็นมือสมัครเล่นกันทั้งนั้น สู้เขาไมได้หรอกครับ ฉะนั้นท่านต้องเลือกพรรคเสรีรวมไทย เพื่อเข้าไปแก้ไขประเทศ เพื่อไปเปลี่ยนรัฐบาล แล้วพี่น้องประชาชนจะเข้าใจว่าประชาธิปไตยเป็นแบบนี้เอง อย่าไปเชื่อเผด็จการทั้งหลายมันหลอกลวงพี่น้องประชาชน จำได้ไหม ประยุทธ์ยึดอำนาจ บอกขอเวลาอีกไม่นาน ไม่นานนี่ 6-7 ปีแล้ว เขียนรัฐธรรมนูญอยู่ต่ออีกเป็น10ปี เพราะฉะนั้นต้องเปลี่ยนให้ได้ มาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ต้องขอบคุณที่ให้โอกาสครั้งนี้

พูดถึงความกังวลในการเลือกตั้งครั้งนี้ ความกังวลไม่มีครับ เมื่อวานเดินเลือกตั้งแถวตลาดสาหร่าย มีบางอำเภอจะมาคัดค้านไม่ให้เราใช้เครื่องเสียง ให้ไปอ่านกฎหมายดู นี่กฎหมายเลือกตั้ง ไม่รู้เรื่องเลยกฎหมายเลือกตั้ง ผู้สมัครสามารถหาเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงได้ โดยไม่ต้องขออนุญาต ยังโง่งมงายอยู่อย่างนี้ เพราะอิทธิพลในพื้นที่ เดี๋ยวผมหาเสียงลองมาทะลึ่งกับผม ผมจะดำเนินคดีให้หมด ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และใช้อิทธิพลในพื้นที่ มาใช้กับพรรคเสรีรวมไทยไม่ได้ หัวหน้าพรรคก็เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาก่อน

พูดถึงเรื่องที่ชาวบ้านอยากให้แก้ไขปัญหา ชาวบ้านตอนนี้เขาบอกว่าเขาเดือดร้อนจากการใช้อำนาจของรัฐบาลที่ผ่านมาทั้งหมด และปัญหาเรื่องที่ทำมาหากินต่างๆ ถามใครก็บอกค้าชายไม่ดีขึ้น เทียบสมัยก่อนไมได้ ถ้าท่านจำได้ในสภาเมื่อสมัยที่แล้ว เราจะตั้งกรรมาธิการเพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของประยุทธ์ ว่าใช้มาตรา44 ชอบหรือมิชอบ อะไรที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเราจะแก้ เชื่อไหม โหวตมาฝ่ายค้านชนะ แต่ประธานสภาให้โหวตนับคะแนนใหม่ ซึ่งมันผิดกฎข้อบังคับ ข้อบังคับเขาให้นับใหม่ถ้ามีการคัดค้าน ถ้าชนะไม่กิน 25 เสียง ไม่ใช้ให้ลงคะแนนใหม่ มันก็เกฑ์คนเข้ามารัฐบาลคนมากกว่า ก็เลยตั้งกรรมาธิการตรวจสอบไม่ได้ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายยุทธศาสตร์มันเองแบบนี้ ก็ต้องเปลี่ยนกันให้ได้

พูดถึงคะแนนเสียงที่จะกลับคืนมาให้พรรคเสรีรวมไทย ผมดูอยู่แล้วคะแนนฝ่ายประชาธิปไตย 7-8 หมื่น ผมถึงบอกว่าพี่น้องประชาชนที่เคยเลือกฝ่ายประชาธิปไตย อย่าเปลี่ยนใจ อย่าให้เขาเอาเงินมาล่อมาซื้อได้โดยเด็ดขาด ขอให้ทุ่มคะแนนมาทั้งหมดให้พรรคเสรีรวมไทย เราก็ชนะแล้ว ผมอ้อนวอนคนที่ไปลงฝ่ายเผด็จการ 3หมื่นกว่าด้วย ขอให้ดูการบริหารของคุณประยุทธ์ว่าเป้นอย่างไร มันล้มแหลว เมื่อล้มเหลว คุณจะไปเลือกเขาอีกทำไม ให้มาเลือกฝ่ายประชาธิปไตย ถ้าเปลี่ยนใจ คะแนนเราถึงแสน

"พูดถึงพรรคฝ่ายค้านจะมาช่วยหาเสียงให้ทันเวลาไหม คือ เขาเป็นพรรคการเมือง เขาจะลงมาช่วยดื้อๆแบบนี้ไม่ได้ เราต้องไปแต่งตั้งเขามาเป็นผู้ช่วย ส.ส.เรา มาช่วยหาเสียง เราต้องแต่งตั้งไปที่ กกต. อยู่ดีๆเขาลงมาไมได้มันผิดกฎหมาย เขาก็คงช่วยอยู่เบื้องหลัง" หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าว