เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563  ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 18 ราย ที่ชุมนุมร่วมกับกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่ถูกจับกุมในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 5, 11 เมื่อเวลา 04.30 น.วันที่ 15 ต.ค. 2563 จากการถูกสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล มาขออำนาจฝากขังครั้งแรกต่อศาลแขวงดุสิต เป็นเวลา 6 วัน  และถูกควบคุมตัวไปที่ห้องประชุม บก.ตชด.ภ.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

 ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ดุสิตได้ทำหนังสือขอรับตัวผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวทั้งหมด 18 คน มาที่สน.ดุสิต เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เป็นความผิดฐานฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ศ.2548 โดยชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใดๆ ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปหรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย อันเป็นความผิดตามพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาตรา 5, 11, 18
          
ต่อมาทนายความของผู้ต้องหาได้ยื่นคัดค้านการฝากขัง ศาลจึงได้ดำเนินการไต่สวนคำร้องฝากขังและคำร้องคัดค้านการขอฝากขัง
          
ศาลพิเคราะห์แล้ว ที่ผู้ต้องหาทั้ง 18 คนคัดค้านว่า ผู้ต้องหามีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมตามกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เป็นบุคคลธรรมดาไม่ได้มีอำนาจหรือจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ทั้งมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งและไม่มีเจตนาหลบหนี ประกอบกับการสอบสวนพยานบุคคลอีก 6 ปาก และรอผลการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหานั้น เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้ โดยไม่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหา ไม่มีความจำเป็นต้องยื่นคำร้องฝากขัง
          
ศาลเห็นว่า คดีนี้เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 18 คน เนื่องจากพบว่ามีการกระทำความผิดซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 80 อันทำให้ศาลเชื่อว่ามีหลักฐานตามสมควรว่าผู้นั้นน่าจะได้กระทำความผิดอาญา และมีเหตุอันควรเชื่อว่าผู้นั้นจะหลบหนี กรณีมีเหตุที่ศาลจะออกหมายขัง เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่า ขณะพนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอผัดฟ้องและฝากขังต่อศาลนั้นยังอยู่ในระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 18 คนได้ แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากตามคำร้องของพนักงานสอบสวนระบุว่า ต้องสอบสวนพยานอีก 6 ปากและรอผลการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหา กรณีมีเหตุจำเป็นไม่สามารถยื่นฟ้องได้ทันภายใน 48 ชั่วโมง ต้องฝากขังผู้ต้องหาระหว่างการสอบสวน จึงอนุญาตให้ผัดฟ้องและฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 18 คนได้
          
ต่อมาเวลา 16.50 น. นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ เปิดเผยถึงผลการประกันตัวกลุ่มผู้ชุมนุมคณะราษฎร 2563 จำนวนรวม 37 คนว่า ในส่วนของกลุ่มผู้ชุมนุมชุดแรกที่ตกเป็นผู้ต้องหา 19 ราย หนึ่งในนั้นคือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ นักร้องดัง ศาลแขวงดุสิตมีคำสั่งว่าให้ยกคำร้องขอประกันตัวใหม่ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ทั้งหมดจึงยังต้องถูกควบคุมตัวในเรือนจำต่อไป
          
สำหรับกลุ่มผู้ต้องหาชุดใหม่ 18 ราย ที่พนักงานสอบสวนยื่นผัดฟ้องฝากขังวันนี้ ศาลได้อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวทั้งหมด ซึ่งได้ใช้ตำแหน่งนักวิชาการและ ส.ส.พรรคก้าวไกล ยื่นประกัน โดยประชาชนทั่วไปศาลตีราคาประกันคนละ 1 หมื่นบาท ส่วนอีก 3 คนซึ่งเป็นนักศึกษา ศาลให้สาบานตนโดยไม่ต้องวางหลักทรัพย์ประกัน โดยทั้ง 18 คนก็ได้ถูกปล่อยตัวแล้ว
          
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ในวันเดียวกันที่ศาลแขวงปทุมวัน ถ.พระราม 4 พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ยื่นคำร้องผัดฟ้องฝากขังผู้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์ชาย-หญิงอีก 6 คน ซึ่งศาลอนุญาตให้ฝากขัง และอนุญาตปล่อยชั่วคราวผู้ชุมนุมทั้งหมด โดยตีราคาประกันคนละ 2 หมื่นบาท

"เพนกวิน-รุ้ง"นอนคุกต่อศาลธัญบุรียืนยันคำสั่งไม่ให้ประกัน

ขณะเดียวกัน ศาลจังหวัดธัญบุรี ได้ยืนยันคำสั่งว่ากลุ่มผู้ต้องหาแกนนำคณะราษฎร ประกอบด้วย 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกูล หรือรุ้ง 2.นายณัฐชนน ไพโรจน์ หรือนัด และ 3.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดหลายครั้งในลักษณะที่จะก่อให้เกิดความไม่เรียบร้อยในบ้านเมือง ซึ่งเป็นความผิดที่มีอัตราโทษสูงหลายข้อหา หากปล่อยตัวชั่วคราวออกไปอาจกระทำตามที่ถูกกล่าวหาอีก หรือหลบหนีไปได้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ภายหลังทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้พยายามยื่นขอประกันตัวอีกครั้ง

แกนนำผู้ชุมนุมประกาศยึดแยกปทุมวันได้แล้ว

ขณะที่บรรยากาศบริเวณแยกปทุมวัน กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยรวมตัว ส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมากล่าสุดในเวลาประมาณ 17.30น. แกนนำกลุ่มประกาศว่า ได้ยึดบริเวณแยกปทุมวันได้แล้ว