วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 21:34 น.

การเมือง

คณะสื่อสารมวลชน มช. ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน เรียกร้อง 3 ข้อ

วันพุธ ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 10.22 น.

เมื่อวันที่ 21 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เพจ เฟซบุ๊ก "คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่" ได้โพสต์แถลงการณ์ คณะการสื่อสารมวลชนมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า

          

ดร.เวทินชี้ควรไล่ออก 1,118 อาจารย์ สนับสนุนม็อบรับเงินหลวงแต่ต่อต้านสถาบัน
 
          
ดร.เวทิน ชาติกุล ผอ.สถาบันทิศทางไทย วิจารณ์พฤติกรรมของทั้ง 1,118 อาจารย์ ที่ประกาศหยุดสอนหนุนม็อบล้มสถาบัน ทั้งที่รับเงินเดือนจากหลวง ถาม ไม่มีความละอายใจบ้างหรือ
          
จากกรณีเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง เดินเท้าจากมหาวิทยาลัยธรรมศาศตร์ ท่าพระจันทร์ นำรายชื่อ 1,118 นักวิชาการ ยื่นหนังสือ "นายกฯ" จี้ ลาออกใน 7 วัน ยื่นข้อเรียกร้องรัฐบาล 3 ข้อ ชี้หากยังดื้อ เตรียมขอความร่วมมือกลุ่มนักวิชาการนัดหยุดสอนทั่วประเทศ
          
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ดร.เวทิน ชาติกุล ผอ.สถาบันทิศทางไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว "Wathin Chatkoon" วิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของอาจารย์ทั้ง 1,118 คน ว่าไม่มีความละอายใจ กินเงินหลวงแต่สนับสนุนกลุ่มม็อบที่จาบจ้วงสถาบัน พร้อมแนะวิธีแก้ปัญหาให้อาจารย์เหล่านี้ว่าไม่ต้องหยุดสอน ไม่ต้องลาออก ให้ไล่ออกไปเลยจะดีกว่า ทั้งนี้ ดร.เวทิน ได้ระบุข้อความว่า
          
"ไม่ต้องให้หยุดสอน​ ไม่ต้องรอให้ลาออก​ ไล่ออกได้เลย สนับสนุนต่อต้านสถาบัน ​ แต่ยังกินเงินหลวงไปเดือนๆ​ ไปละอายใจตัวเองบ้าง เอา​ ภาษีประชาชน ไปจ่ายพวกล้มล้าง​ รัฐบาลก็ทำไปได้ 1,118 คน​ จาก​ 38,961 คน​ ทั่วประเทศ คิดเป็น​ 2.8% ของอาจารย์มหาวิทยาลัยทั้งหมด
          
สนับสนุน​เลยครับ ใช้สิทธิเสรีภาพของตนให้เต็มที่เลย​ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมา​หลายคนก็ถูกหมายหัวเอาไว้แล้ว​ แต่ไม่มีเหตุให้ดำเนินการได้ ประท้วงโดยการหยุดสอนเมื่อไหร่​ ก็เข้าข้อกฎหมาย​ ข้าราชการพลเรือน​ ม.39​ ในทันที​
          
มาตรา 39 "...ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอ นาจหน้าที่ราชการของตนไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อมหาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น..."
          
"...การปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และเป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง..." ควรไปประท้วงกันเต็มที่​อยู่ในม.เอกชน​ ที่สนับสนุนการต่อต้านสถาบันฯ​ ไม่เปลืองเงินหลวง"
          
ไม่ต้องให้หยุดสอน​ ไม่ต้องรอให้ลาออก​ ไล่ออกได้เลย

จากคำสั่งหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ที่ 4/2563 ให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบและให้ระงับการออกอากาศรายการหรือระงับการทำให้แพร่หลายหรือลบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของสื่อบางแห่ง โดยให้เหตุผลว่าได้มีการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
          
ในนามของคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งมุ่งให้ความรู้ ทักษะทางวิชาชีพ และจิตสำนึกนักการสื่อสารที่มีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นอย่างรับผิดชอบต่อสังคม มีความเห็นว่าสถานการณ์ทางการเมืองและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันส่งผลให้มีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพทางการสื่อสาร ทั้งของสื่อมวลชน และประชาชน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่สำคัญของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
          
คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงขอแสดงจุดยืนในฐานะของสถาบันการศึกษาทางด้านการสื่อสาร ดังนี้
          
1. ขอให้รัฐบาลสื่อสารกับประชาชนอย่างเปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ยุติการใช้อำนาจทางการเมืองปิดกั้นการสื่อสารเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองทั้งของสื่อมวลชน และประชาชน
          
2. ขอให้ทุกฝ่าย ทุกกลุ่มในสังคม สื่อสารด้วยเหตุผล สามารถอภิปรายร่วมกันจากมุมมองที่แตกต่างได้อย่างสันติ เพื่อหาทางออกร่วมกัน ยุติการสื่อสารที่บิดเบือน ไม่เป็นจริง และยั่วยุให้เกิดความเกลียดชังและการใช้ความรุนแรง
          
3. ขอให้องค์กรกำกับดูแลสื่อปฏิบัติงานบนพื้นฐานของหลักการของสิทธิและเสรีภาพทางการสื่อสาร ตรวจสอบการปิดกั้นสื่อที่เกิดจากความไม่เป็นธรรม หรือมีเจตนาเพื่อลดทอนบรรยากาศของการสื่อสารที่เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้สื่อสารและอภิปรายอย่างเสรี รับผิดชอบต่อสังคม
         

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2563

หน้าแรก » การเมือง