"บิ๊กป้อม" ยันไร้ "ปฏิวัติ" ชี้ภาครัฐเข้าถึงโซเชียลมากกว่าม็อบ ตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย  ก.ดีอีเอส  สั่งดำเนินคดีเว็บไซต์ผิดกม. Fake News  จริงจัง   ขับเคลื่อนกลไกความมั่นคงไซเบอร์  เร่งใช้ 5G บริการปชช.   สาธารณสุข ศึกษาทางไกล พัฒนาเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 29 ต.ค.2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอทางออกประเทศให้มีการปฏิวัติ เปิดทางตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า ไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ไม่มีการปฏิวัติ ส่วนจะเหมาะสมหรือไม่กับการมีข้อเสนอดังกล่าวมาออกมาในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ตนไม่ทราบ          

สำหรับการเดินทางมากระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจเพื่อสังคม (ดีอีเอส) วันนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่าไม่ได้มามอบหมายอะไรเป็นพิเศษกับ ดีอีเอส เป็นเพียงการตรวจการปฏิบัตรงานกระทรวงตามวงรอบ
          
เมื่อถามว่า ขณะนี้ ผู้ชุมนุมใช้ช่องทางดิจิทัลเป็นสื่อหลักในการรวมพล ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาติดตามอยู่แล้ว ส่วนที่หลายกระแสระบุว่า ภาครัฐยังเข้าถึงโซเชียลไม่เท่ากับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.อ.ประวิตร ย้อนถามสื่อมวลชนว่า "คุณรู้ได้อย่างไร ผมเข้าถึง เข้าถึงมากกว่า"
          
ทั้งนี้ กรณีการส่งตัวแทนไปเทียบเชิญพรรคต่างๆเข้าร่วมกรรมการสมานฉันท์ แต่ท่าทีของฝ่ายค้าน ไม่ตอบรับนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้เป็นกลไกในการดำเนินการ 

ตรวจเยี่ยมมอบนโยบาย  ก.ดีอีเอส  สั่งดำเนินคดีเว็บไซต์ผิดกม. 

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้เวลา10.00น.  พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางไปปฏิบัติราชการ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงาน ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม  ณ  ห้องประชุม MDES1 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่กรุงเทพฯ โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดศ.ให้การต้อนรับ

พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้รับฟังการบรรยายสรุปผลการดำเนินงานซึ่งมีความก้าวหน้าในภาพรวม อย่างน่าพอใจ จาก ปลัดกระทรวงฯ อาทิ การดำเนินงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย,การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์,การขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในด้านเทคโนโลยี 5G,การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ,การจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล,การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ(Smart City),การพัฒนาคลาวดูกลางภาครัฐ,การส่งเสริมต่อยอดการใช้ประโยชน์โครงการ"เน็ตประชารัฐ", โครงการ ASEAN Digital Hub ,การดำเนินงาน ช่วงสถานการณ์ covid  รวมทั้ง การผลักดันกิจการอวกาศของประเทศ

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวมอบนโยบายที่สำคัญให้แก่ กระทรวงดิจิทัลฯ สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์ได้มีบทบาท ต่อการสร้างความขัดแย้งในสังคม,การปลุกปั่นและการแสดงออกอย่างไม่เหมาะสม ของประชาชน นักศึกษา และเยาวชน พล.อ.ประวิตร จึงมีความห่วงใย และได้ขอให้ กระทรวงดิจิทัลฯ จะต้องมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยขอให้เพิ่มประสิทธิภาพการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ผิดกม.และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด อย่างจริงจัง ไม่เลือกปฏิบัติ และเปิดเผยให้สังคมได้รับทราบด้วย

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้กระทรวงดิจิทัลฯ ประสานความร่วมมือ กับ ปอท. ,สตช. ,กสทช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิด ในการดำเนินคดีตามกม. อย่างจริงจัง รวมทั้งพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือให้ทันกับเทคโนโลยีเพื่อการสืบค้นพิสูจน์หลักฐานและหาตัวผู้กระทำผิดให้ได้ พร้อมสร้างความตระหนักรู้ การรู้เท่าทันจากภัยออนไลน์ ให้กับประชาชน อย่างทั่วถึง

พล.อ.ประวิตร ยังได้เน้นย้ำให้ ดศ. เร่งขับเคลื่อนกลไกการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เพื่อป้องกันการถูกโจมตีทางไซเบอร์ที่มีแนวโน้มมากขึ้น และเร่งรัดการใช้เทคโนโลยี 5Gให้เกิดประโยชน์ต่อการให้บริการประชาชน ทางด้านสาธารณสุข การศึกษาทางไกล เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และรองรับการพัฒนาทางเศรษฐกิจในอนาคต ต่อไป