เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2563  มีรายงาน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 1 ราย โดย นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการให้มีการทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร้านโฮสต์บาร์ คาราโอเกะ ย่านสันติธรรม และที่อื่นๆ
          
ทั้งนี้ ผู้ติดเชื้อเป็นหญิงอายุ 29 ปี โดยในวันที่ 21-24 พ.ย. ได้ไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่-ลำปาง เพื่อไปกินชาบู และดูหนัง วันที่ 23 พ.ย. เริ่มมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว มีอาการไอ วันที่ 24 พ.ย. เดินทางไปตรวจโควิด19 ก่อนที่จะพบเชื้อ และถูกส่งตัวรักษาในโรงพยาบาลแล้ว
          
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจ.เชียงใหม่ กำลังทำการสอบสวนโรคเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงที่สัมผัสผู้ป่วยรายนี้ เพื่อตรวจเชื้อและสังเกตอาการแล้ว โดยรายละเอียดที่ชัดเจนคาดว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขจะแถลงวันนี้

รพ.ชั้นนำสหรัฐฯ'ใกล้วิกฤต' เหตุป่วยโควิด-19พุ่ง รัฐบาลไร้ความสามารถ

สำนักข่าวซินหัวรายงานเดอะ แอตแลนติก สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ รายงานว่าจำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มขึ้น ผนวกกับการไร้ความสามารถในการรับมือสถานการณ์ของรัฐบาล ทำให้ศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเนบราสกา (UNMC) ซึ่งเป็นโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศที่เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดร้ายแรงและผิดธรรมดา กำลังเข้าใกล้ภาวะวิกฤต
          
รายงานข่าวระบุว่าโรงพยาบาลแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองโอมาฮา รัฐเนบราสกาของสหรัฐฯ จัดเป็นโรงพยาบาลที่มีการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดใหญ่อย่างครบครันมากที่สุดในสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเดียวของประเทศที่มีสถานกักกันตัวส่วนกลางและหน่วยกักกันทางชีวภาพขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ เริ่มเตรียมความพร้อมเฉพาะทางสำหรับโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ หลังจากเกิดการระบาดของโรคซาส์ (SARS) ในปี 2003 โดยจัดทำสารพัดแผนการรับมือโรคระบาดใหญ่ รวมถึงสั่งสมประสบการณ์รับมือกับโรคระบาดร้ายแรง อาทิ อีโบลา (Ebola)
          
อย่างไรก็ดี แองเจลา ฮิวเลตต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ระบุว่าปัจจุบันโรงพยาบาลฯ กำลังเผชิญหายนะขั้นเลวร้าย เนื่องจากพบชาวเนบราสกาติดโรคโควิด-19 เพิ่มราว 2,400 รายทุกวัน ทำให้ต้องปรับเปลี่ยนอาคารเป็นศูนย์รับมือโรคโควิด-19 โดยแบ่งออกเป็น 10 หน่วย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นหน่วยผู้ป่วยหนัก 3 หน่วย และหน่วยดูแลแบบประคับประคองหนึ่งหน่วย
          
จำนวนผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบให้การรับรองผู้ป่วยของโรงพยาบาลฯ เกือบถึงขีดจำกัด โดยผู้ป่วยที่มีอาการชักและโรคเร่งด่วนอื่นๆ ไม่ได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดเท่ากับช่วงปกติ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่และเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอ
          
“เรากำลังจะได้เห็นระบบพังทลายไปต่อหน้าต่อตาและไม่สามารถทำสิ่งใดเพื่อหยุดยั้งมันได้เลย” เคลลี คาวคัตต์ แพทย์ประจำแผนกผู้ป่วยหนักกล่าว “เราเตรียมรับมือ ‘คลื่น’ ผู้ป่วยระลอกแล้วระลอกเล่าได้ แต่ไม่อาจเตรียมรับมือ ‘สึนามิ’ ผู้ป่วยจำนวนมหาศาลได้”
          
ด้านแดน จอห์นสัน แพทย์ประจำแผนกผู้ป่วยหนัก กล่าวว่าเราสามารถยับยั้งสิ่งที่จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงได้ แต่รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่เคยดำเนินการอย่างจริงจังในเรื่องดังกล่าว ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศไม่สามารถเอาชนะโรคระบาดนี้ได้

มาเลย์เริ่มทดลองวัคซีนต้านโควิดของจีนเฟส 3 เดือนหน้า
 
นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า มาเลเซียจะเริ่มทำการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 กับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ของจีนในเดือนหน้า อันเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลมาเลเซียและรัฐบาลจีน
          
นายมูห์ยิดดิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซียจะเริ่มการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 สำหรับวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยสถาบันชีวการแพทย์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีน (ไอเอ็มบีซีเอเอ็มเอส)
          
"จะมีผู้เข้าร่วมการทดลองทางคลินิกทั้งหมด 3,000 คนเพื่อประเมินความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนดังกล่าว" นายมูห์ยิดดินเปิดเผยในการแถลงข่าว และคาดว่าการทดลองดังกล่าวจะเริ่มขึ้นในเดือนธ.ค.นี้
          
"รัฐบาลมาเลเซียขอแสดงความขอบคุณอย่างยิ่งต่อไอเอ็มบีซีเอเอ็มเอส ซึ่งจะร่วมมือกับเราในการทดลองทางคลินิกเฟสที่ 3 ในมาเลเซีย" นายกฯมาเลเซีย กล่าว
          
แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศและกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของมาเลเซียระบุว่า เมื่อต้นเดือนนี้ รัฐบาลมาเลเซียและจีนได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อกระชับความร่วมมือในการพัฒนาและการเข้าถึงวัคซีนต้านโรคโควิด-19
          
นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า ทั้งสองประเทศจะสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงมหาวิทยาลัย สถาบัน สังคม และองค์กรต่างๆ ในโครงการด้านความร่วมมือระหว่างกัน