วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 14:16 น.

การเมือง

ฝ่ายรบ.เสียงแตกส่งตีความแก้รธน. "พปชร."ฟรีโหวต ปชป.ค้าน

วันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 17.11 น.

ฝ่ายรบ.เสียงแตกส่งตีความแก้รธน. "พปชร."มีมติให็ ส.ส.ฟรีโหวต "โฆษก"ปัดตอบปมบ้านพัก"บิ๊กตู่" - คดีทุจริตสนามฟุตซอล"วิรัช" ด้าน "จุรินทร์" เผยมติปชป. ไม่เห็นชอบส่งศาลรธน. วินิจฉัยอำนาจรัฐสภาแก้ ม.256 ย้ำ พร้อมเปิดรับฟังความเห็นทุกกลุ่ม ขณะที่ "บิ๊กตู่" บอกไม่กังวลศาลรธน.นัดตัดสินพักบ้านหลวง 2 ธ.ค.ไร้แผนรองรับ

          
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา15.30น. ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีประชุม ส.ส.พรรคโดยมี นายอนุชานาคาศัยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการพรรค พปชร. นายไพบูลย์นิติตะวันส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคทำหน้าที่ประธานประชุม
          
จากนั้น น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ส.ส.กทม. และโฆษกพรรค พปชร.แถลงผลประชุมว่าที่ประชุมหารือถึงการเตรียมความพร้อมประชุมสภาผู้แทนราษฎร1-3ธ.ค.นี้โดยวันที่ 1ธ.ค.นี้จะเป็นการประชุมร่วมรัฐสภาที่จะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ออกเสียงประชามติและญัตติด่วนเรื่องขอเสนอญัตติตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภาพ.ศ. 2563ข้อที่ 32ให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา210 (2) ที่นายไพบูลย์นิติตะวันส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.และนายสมชายแสวงการเป็นผู้เสนอ ส่วนวันที่ 2-3 ธ.ค.เป็นการประชุมสภาโดยพรรค พปชร.มีมติให้เอกสิทธิ์ ส.ส.ตัดสินใจจะโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบโดยไม่ได้กำหนดว่าจะต้องลงมติในทิศทางใด เพราะแต่ละคนมีความคิดเห็นที่หลากหลายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน
          
ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ประชุมพรรคได้หารือกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมวินิจฉัยกรณีบ้านพักทหารของ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมวันที่ 2 ธ.ค.นี้ รวมถึงกรณีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายวิรัชรัตนเศรษฐส.ส.บัญชีรายชื่อและประธานวิปรัฐบาลกรณีทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่เขตการศึกษาที่2จ.นครราชสีมาอย่างไรบ้างน.ส.พัชรินทร์กล่าวว่าที่ประชุมพรรคไม่ได้มีการหารือถึงกรณีดังกล่าว 

"จุรินทร์" เผยมติปชป. ไม่เห็นชอบส่งศาลรธน. 

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มีมติร่วมกัน จะลงมติไม่เห็นชอบญัตติเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพราะร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านความเห็นชอบรับหลักการจากรัฐสภา ผ่านการตรวจสอบจากพรรคการเมืองต่างๆ อย่างรอบคอบ ไม่จำเป็นต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอีก ซึ่งการรับหลักการในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก็เป็นการตอกย้ำว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญชอบด้วยรัฐธรรมนูญแล้ว  หากจะตรวจสอบความถูกต้องก็สามารถยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญหลังจากลงมติในวาระที่ 3 ก่อน นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายได้ ไม่จำเป็นต้องมาตรวจสอบตอนนี้ ซึ่งการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขณะนี้ เป็นการสร้างเงื่อนไขทางการเมืองโดยไม่จำเป็น อาจถูกตีความว่าไม่จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่

ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีพักบ้านพักทหาร หลังเกษียณอายุราชการ วันที่ 2 ธันวาคมนี้ พรรคยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมา ก็ถือว่าผูกพันทุกองค์กร

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนจะมาที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อกดดันให้ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลว่า ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคเปิด ยินดีต้อนรับทุกคน ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขณะที่จุดยืนทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ อย่างน้อยที่สุดอุดมการณ์ของพรรคที่ไม่เปลี่ยนแปลง คือการยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ถ้านอกเหนือไปจากนี้ ไม่ใช่อุดมการณ์ของพรรค

ทั้งนี้หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนมากดดันพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีมวลชนอีกส่วนหนึ่งเดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อให้กำลังใจ แต่ยังไม่พบกลุ่มที่จะมาชุมนุมกดดันเดินทางมาที่พรรค

"บิ๊กตู่"บอกไม่กังวลศาลรธน.นัดตัดสินพักบ้านหลวง 2 ธ.ค.ไร้แผนรองรับ

ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยบ้านพักในวันที่ 2 ธ.ค.ว่า เป็นเรื่องการวินิจฉัยของศาล อย่าไปคาดเดา วันนี้จะเห็นว่าทุกคนให้ความสำคัญเรื่องดังกล่าว ในส่วนของตนก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่ตนเคารพ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร วันนี้ไม่ขอวิจารณ์ ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดรวมตัวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น คิดว่าไม่น่าจะถูกต้อง การเดินทางไปกดดันในสถานที่ต่างๆอาจจะผิดกฎหมาย ซึ่งก่อนหน้านั้นศาลรัฐธรรมนูญเคยมีมาตรการมาแล้วหลังจากที่คนไปประกาศและกดดันมาตรการต่างๆของศาลจนกลายเป็นคดีความ ขอให้ระมัดระวัง
          
สำหรับกรณีที่สังคมกำลังเอือมระอากับการชุมนุมนั้น ต้องฟังความทั้งสองฝ่าย อยากให้เข้าใจว่ากรกรีที่รัฐบาลจะต้องจัดการเด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมาย และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงหลักการและเหตุผลในการบังคับใช้กฎหมายมีขั้นตอนและกระบวนการมากมาย รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีหลายฉบับ แต่ทั้งนี้ต้องดูเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทั้งของผู้ชุมนุมและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ไม่อยากให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างกัน อยากให้ระมัดระวังเรื่องการสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น การชุมนุมในพื้นที่ปิดจะดีกว่าไปยึดถนนทำให้คนเดือดร้อนจากการจราจรที่ติดขัด อยากให้พิจารณาถึงสังคมโดยรวมด้วย
          
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการมองว่าสื่อตั้งคำถามยั่วยุนั้น อยากให้สังคมติดตามดู ตนอยากให้สื่อนำเสนอข่าวที่เป็นกลางและเป็นประโยชน์ บางครั้งก็เป็นการไม่สมควรในสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสิ่งที่สมเด็จพระราชินีเสด็จเยี่ยมเยียนประชาชนแต่สื่อกลับนำเสนอพร้อมภาพประกอบไม่มาก ในขณะที่ข่าวการชุมนุมสื่อกลับให้ความสำคัญนำเสนอข่าวเต็มที่ อยากให้ชั่งน้ำหนักถึงความเหมาะสมด้วย รวมถึงข่าวที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจภาพรวมประเทศ อยากให้มีข่าวทั้งสองด้าน อย่าลืมว่าประเทศอยู่ได้เพราะคนทั้งประเทศช่วยกันเดินหน้า
          
"ผมในฐานะนายกฯก็บังคับใช้กฎหมายกับทุกกลุ่มทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน แต่ทั้งนี้กฎหมายก็คุ้มครองเรื่องสิทธิเสรีภาพเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการกระทำที่เกินเลย อยากให้สื่อช่วยกันตักเตือนเพราะบางครั้งก็อาจจะขยายความรุนแรงเช่นจำนวนกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีการพูดถึงในแต่ละวันก็เห็นแต่ภาพถ่าย แต่มีการไปเขียนว่ามีการมาเป็นจำนวนมาก ต้องดูด้วยว่าจริงหรือไม่ โดยเฉพาะที่มีการพูดว่ามาเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้านก็ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ทั้งนี้ก็เป็นห่วงสื่อมวลชนที่ไปทำข่าวในพื้นที่หากเกิดความรุนแรงจะได้รับอันตราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ความรุนแรง แต่ทหารต้องดูแลหน่วยที่ตั้งของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้บุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม อย่างไรก็ตามตนได้เน้นย้ำให้ดูแลเรื่องเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคน มีการเบิกจ่ายให้ตรงเวลา ซึ่งงบประมาณมีอยู่แล้ว แต่อาจมีปัญหาติดขัดบ้าง ต้องเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด"
          
เมื่อถามว่า ได้มีการเตรียมแผนรองรับหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญมีผลคำวินิจฉัยในทางลบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันอีกทีว่าจะทำอย่างไรต่อไป อย่าเพิ่งไปคิดล่วงหน้า เมื่อคำตัดสินออกมาค่อยว่ากัน ย้ำว่าตนเคารพคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร
          
เมื่อถามว่า มีแนวคิดไปอยู่บ้านพักนายกรัฐมนตรีที่ถ.พิษณุโลกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องดูความเหมาะสม เพราะขณะนี้ยังซ่อมแซมไม่เรียบร้อย แม้จะเคยซ่อมแซมมาแล้ว แต่ก็ชำรุดไปตามกาลเวลา
          
เมื่อถามว่า การเข้าพักบ้านพิษณุโลกไม่สะดวกอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ใหญ่โตเกินไป ต้องไปดูว่าความเหมาะสมเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าบ้านดังกล่าวมีอาถรรพ์นั้น คิดว่าคงไม่ เพราะเมื่อเราตั้งใจไปทำความดีก็คงไม่ต้องกลัวอะไร พระตนก็ไหว้ และคล้องพระด้วย อีกทั้งพระก็อยู่ในใจ หากเราทำความดีเพื่อชาติ แผ่นดิน และพระมหากษัตริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะคุ้มครองเรา ที่ตนยืนมาได้ทุกวันนี้เชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองตน เพื่อทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า ตนก็ระมัดระวังหลายเรื่องทั้งเรื่องการทุจริตและทำผิดกฎหมายที่ระมัดระวังอย่างที่สุด ผลประโยชน์ตนก็ไม่ได้ทำ หรือไปมีประโยชน์ส่วนตนสักอย่าง ที่ผ่านมาทั้งหมดรู้แก่ใจตนดี และมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป รวมทั้งมีหิริโอตัปปะ ตนนับถือศาสนาพุทธก็ต้องนำสิ่งเหล่านั้นมาปฏิบัติ ตนพยายามทำเต็มที่
          
เมื่อถามว่า ได้เตรียมบ้านพักข้างนอกไว้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็มีบ้านพัก ถ้าเขาไม่ให้อยู่ก็ต้องไป เพียงแต่พื้นที่บ้านของตนมีความจำกัด คิดว่าคงไม่มีใครทำร้าย แต่ผู้นำทุกประเทศต้องได้รับความคุ้มครอง จะให้ตนโดดเดี่ยวคนเดียวคงไม่ใช่ ในต่างประเทศมีการคุ้มครองดูแล
          
เมื่อถามว่า ได้มีการหารือกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าผิดก็ทำให้ ครม.หลุดออกจากตำแหน่งไปด้วย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่ได้หารือกัน ขอให้ผลคำตัดสินออกมาก่อนค่อยว่ากัน อย่าไปคิดล่วงหน้า เมื่อถึงเวลาก็ตัดสินใจง่ายอยู่แล้ว ผลออกมาอย่างไรก็ตามนั้น ทุกอย่างมีคิดแบบระยะสั้นและระยะยาว ตนไม่ได้กังวลอะไร แต่กังวลอย่างเดียวคือการทำอย่างไรให้ประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์มีความปลอดภัยและเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเป็นแกนหลักของประเทศ
          
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงได้ตรวจสอบผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนการชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กำลังตรวจสอบอยู่ ส่วนจะเป็นการร่วมมือกันระหว่างคนในประเทศและต่างประเทศหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ กำลังติดตามอยู่
          
เมื่อถามว่า มีการพูดว่าแม้นายกฯลาออกทุกอย่างก็ไม่จบ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ใช่ มันจบที่ไหน ก็ไปเรื่อย สุดแล้วแต่ว่าจะคิดอะไรก็แล้วไป แต่การทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบในการกระทำด้วย จะให้ผมรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว คนอื่นไม่รับผิดชอบและไม่เคารพกระบวนการยุติธรรมก็คงไม่ได้”
          
เมื่อถามว่า ปลายทางที่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการไม่สามารถเดินต่อไปได้ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปคิดแทนเข้าได้อย่างไร เมื่อเขามีสิทธิ์ทำได้ก็ทำไป แต่ต้องเคารพกฎหมาย
          
เมื่อถามว่า แล้วข้อเรียกร้องกลุ่มผู้ชุมนุมจะสำเร็จหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะไปคิดแทนได้อย่างไร และเป็นไปได้แค่ไหน กระบวนการบริหารราชการแผ่นดินทำได้หรือไม่ รวมถึงรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่างๆ ไม่ใช่คิดอยากจะทำอะไรก็ทำได้ไม่ใช่นั้นประเทศชาติจะอยู่อย่างไร

หน้าแรก » การเมือง