“เพื่อไทย” ชี้ “ประยุทธ์” เจอคำพิพากษาคดีกปปส. ยิ่งทรุดหนัก เย้ยไม่ทันไรฟัดกันแย่งเก้าอี้ที่ว่าง และ พรรคร่วมแตกแยกชัดเจน แนะ ฟัง “Tony” ในClubhouse เพื่อพัฒนาสมองและจะได้เข้าใจทำไมคนยังรัก

วันที่ 25 กุมภาพันธ์  2564  นางสาวตรีชฎา ศรีธาดา   คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เริ่มเห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลขนานใหญ่ หลังจากคำพิพากษาของศาลอาญาคดีการชุมนุมปี 2556-57 ของแกนนำกลุ่ม กปปส. ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพวกรวม 39 คน ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งตัวรัฐมนตรีถึง 3 คน และส.ส.อีกหลายคนต้องพ้นจากตำแหน่ง ถือเป็นพายุทอร์นาโดของรัฐบาลชุดใหญ่ เหมือนมาช่วยซ้ำวิกฤติให้รัฐบาลให้ดูยุ่งเหยิงหนักไปอีก ไหนต้องปรับครม. ไหนจะเคลียร์ใจกับพรรคร่วม ไหนต้องหาคนลงเลือกตั้งซ่อม ต้องทำความสะอาดบ้านตัวเอง  แถมยังส่งคนไม่มีราคามาตอบโต้แทนแบบไร้ทิศยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ จะนำพารัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” หกคะเมนตีลังกาเร็วกว่ากำหนด

                          
“พล.อ.ประยุทธ์เวลานี้คงไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ขนาดนี้เมื่อวานประกาศว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ที่วัคซีนต้านโควิด-19 เดินทางมาถึงประเทศไทย คนไทยทั้งประเทศต้องชื่นชมยินดีกับเรื่องสำคัญนี้ แต่การเดินทางมาถึงกลับกลายเป็นเรื่องรอง คนไม่สนใจเท่ากับเรื่องการที่ศาลอาญาตัดสินจำคุกนายสุเทพ กับพวกที่เป็นคดีประวัติศาสตร์ทางการเมืองยิ่งกว่า แล้วยิ่งไปกว่านั้นคดีนี้ทำให้รัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยไม่ต้องปรับ แถมบังเอิญพอดีที่รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งก็มีกระแสคนใหม่มาเสียบแทนทันที 
                 
“แล้ววันเดียวกันคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ออกมาบอกว่าความแตกแยกในรัฐบาลจะยิ่งทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เพิ่มขึ้น ไม่ทันไรเหตุการณ์สารพัดอย่างก็ถาโถมใส่รัฐบาลแบบไม่ยั้ง รวมถึงการที่พรรคภูมิใจไทย วอร์คเอาท์ ไม่ร่วมสังฆกรรมกับพรรค พปชร. มีทีท่าจะเลื่อนการพิจารณาแก้ไข รธน.คล้ายกับอาการที่ยังคาใจของพรรคภูมิใจไทยที่โดนหักหน้าอย่างหนักในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ที่เปรียบเหมือนถูกคนพปชร.น็อคกลางเวทีมวย แถม มาดามเดียร์ยังตอกย้ำว่า การยกเลิกสายสีส้มเป็นการทุจริตอย่างชัดเจน จะอยู่ด้วยกันได้อย่างไร 
             
“ตามที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้ชี้ให้เห็นว่า ฝ่ายค้านประสพความสำเร็จในการเปิดแผลรัฐบาล ทั้งเรื่อง เหมืองทองอัคราที่ให้สัมปทาน 4 แสนไร่ให้กับบริษัทเพื่อไกล่เกลี่ยคดี การเปิดโปงชบวนการทุจริตถุงมือยาง  ปัญหายกเลิกการประมูลรถไฟฟ้า การทุจริตแรงงานต่างด้าวเถื่อน และ ทุจริตการนำเงินกองทุนอนุรักษผมพลังงานไปละเลงที่ กอ.รมน และ ศอ. บต. กว่า 1,232 ล้านบาท  ถึงขั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร ตอบเพียง 10 ทำคนงงทั้งในสภาและนอกสภา แล้วมาตรฐานการตอบในสภาอยู่ที่ไหน พอออกมาเตือนอะไรดีๆ พล.อ.ประยุทธ์ก็ส่งคนมาโต้แบบส่งๆ ไม่ต้องห่วงพรรคเพื่อไทย เอาเวลาไปห่วงประชาชนจะดีมาก ไม่ได้ดูเลยว่าถ้ารัฐบาลทำดีจริง แจกเงินให้ประชาชนแล้วทำไมคนยังด่าทั้งประเทศ ทั้งระบบแอพเป๋าตังก็ล่มแล้วล่มอีกซ่อมแล้วซ่อมอีก อยากได้เงินต้องลงทะเบียนยุ่งยาก ได้ก็ยากใช้ก็ยาก
              
“ยิ่งวันนี้คนบ่นหนักแค่เรื่องแจกเงินเยียวยาก็ยังไม่ยอมจ่ายเงินสดให้ประชาชน ถึงขั้นลงทะเบียนมีคนต่อแถวกันจนเป็นลม เห็นประชาชนเป็นอะไร เห็นเป็นคนมั้ย หรือเห็นเป็นอย่างอื่น อ้างสารพัดอย่าง ถ้ารัฐบาลทำดีใครเชาจะมาวิจารณ์ ก็เพราะทำไม่ดีเขาจึงติเพื่อก่อ จะได้ช่วยเหลือประชาชนได้ทันความเดือดร้อน ลองพวกท่านมาต่อแถวแบบประชาชนวันนี้บ้างจะได้รู้รสชาติของความหิวความลำบากบ้าง แววตาและน้ำตาของคนจนมันมีค่าขนาดไหน เคยมองไปถึงหัวใจพวกเขาบ้างไหม ก็เพราะรัฐบาลท่านเป็นแบบนี้มีแต่มาโต้มั่ว เลยทำให้ชื่อ Tony ของท่านทักษิณ ใน Club House ร้อนฉ่า เพราะคนเข้าไปฟังไม่กี่นาทีกับเวลา 7 ปีของรัฐบาลนี้เทียบกันไม่ได้เลย ท่านจะปรับครม.ชุดใหญ่ หรือจะแค่ผ่าตัดเล็กมันก็ไม่สามารถกู้ศรัทธาประชาชนได้ แผลจากการอภิปรายของฝ่ายค้านบวกกับการไร้ประสิทธิภาพเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชนของรัฐบาล ทางเดียวที่จะแก้ได้ คือถอยหลังแล้วให้มืออาชีพเขามาทำงานเถอะ ประเทศไทยไม่ใช่ที่ทดลองงาน และชีวิตประชาชนคนไทยไม่ใช่หนู หมดเวลาทดลองยาแล้ว ชีวิตรัฐบาลตอนนี้เหมือนคนไข้ใส่เครื่องช่วยหายใจ รอวันออกซิเจนหมด” นางสาวตรีชฎา กล่าวทิ้งท้าย