“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ยกทัพใหญ่ “ประชาธิปัตย์” ขึ้นรถแห่หาเสียงโค้งสุดท้าย เขต 3 เบอร์ 3 “พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์” ตอกย้ำความมีวุฒิภาวะ รักษาคำมั่นสัญญา พร้อมแย้มรอดูโผ รมต. ปชป. ภายในเดือนนี้ 

วันที่ 6 มีนาคมพ.ศ.2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนก่อนขึ้นรถแห่เพื่อหาเสียงโค้งสุดท้ายให้กับ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เบอร์ 3 ผู้สมัครของพรรค ในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช เกี่ยวกับการที่เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รองนายกรัฐมนตรี นำลูกพรรคขึ้นปราศรัยนั้น 

นายจุรินทร์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค รวมทั้งรองหัวหน้าพรรค ส.ส.ของพรรค แกนนำพรรค และสมาชิกทุกคน ต้องถือว่าที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากประชาชนทั้ง 4 อำเภอในเขตเลือกตั้งที่ 3 โดยในคืนที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการปราศรัยใหญ่ใน 2 อำเภอ และในคืนก่อนหน้าก็ได้ปราศรัยไปใน 2 อำเภอ ซึ่งครบทั้ง 4 อำเภอ พบว่ามีเสียงตอบรับดีมาก แต่พรรคฯ คงไม่ประเมินด้วยตัวเองเพราะหากทุกพรรคประเมินก็อาจจะเข้าข้างตัวเองได้ ยืนยันว่าหลังจากได้ฟังเสียงจากประชาชนในภาพรวมแล้ว ประชาชนทั่วไปให้ความมั่นใจว่าประชาธิปัตย์จะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ และไม่มีอะไรน่าห่วง โดยเฉพาะในเรื่องกระแสการตอบรับจากประชาชน

ส่วนที่ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงผลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าจะมีผลอย่างไรต่อโควตารัฐมนตรีของพรรคอย่างไรหรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับเสียงของรัฐบาลก็ไม่มีผลอะไร เพราะถ้าซีกรัฐบาลชนะเสียงรัฐบาลก็เท่าเดิม แต่สำหรับเรื่องโควตานั้นจบไปแล้ว ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ก็ได้มีการพูดจากับตนและเลขาธิการพรรค รวมไปถึง พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ นายกรัฐมนตรี ก็ได้คุยกันจบไปแล้วเหมือนที่ปรากฏเป็นข่าว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในภาพรวม 

สำหรับคำถามถึงเรื่องผลเลือกตั้งจะทำให้พรรคร่วมเกิดความระหองระแหงกันหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับผู้ใหญ่นั้นคงไม่มีปัญหาอะไร พวกเรามีวุฒิภาวะ อย่างตนและเลขาธิการพรรค เรามีวุฒิภาวะ พูดกันไปแล้วเมื่อพลังประชารัฐยังคิดจะส่ง ก็เมื่อส่งก็จบ ก็ได้พูดกันตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว ส่วนระดับล่างนั้นคงไม่สามารถตอบได้ว่าจะเป็นอย่างไร

สำหรับแนวโน้มที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมในจังหวัดชุมพร สงขลา หากพรรคพลังประชารัฐจะส่งผู้สมัครแข่งกับพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้คงไม่มีการพูดคุยกันแล้วเพราะเราต่างก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว พูดกันครั้งเดียวก็น่าจะเป็นที่ยุติได้ เพราะก่อนที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งเขต 3 นครศรีธรรมราชก็ได้พูดกันแล้ว เพราะเรื่องนี้มีที่มาตั้งแต่ตอนเลือกตั้งซ่อมจังหวัดกำแพงเพชร ที่เราเป็นพรรคร่วมด้วยกัน และเป็นที่นั่งเดิมของพลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ก็ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่ง และยอมที่จะกลืนเลือดตัวเองตอนนั้น เพราะเป็นข้อตกลงพรรคร่วมและเรารักษาคำมั่นสัญญา จึงเป็นผลทำให้ นพ.ปรีชา มุสิกุล ที่เคยเป็นว่าที่ผู้สมัครของประชาธิปัตย์เกิดความไม่สบายใจจนลาออกจากพรรคไป ต่อมาหลังจากนั้นเมื่อปรากฏการณ์เปลี่ยนไป ก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนไปแล้วก็เปลี่ยนไป  พรรคประชาธิปัตย์พูดครั้งเดียวก็จบ การเลือกตั้งซ่อมต่อไป ถ้าจะมีขึ้นที่ไหนก็ตาม ก็คงเป็นเรื่องของพรรคแต่ละพรรคที่จะตัดสินใจกันไป 

ด้านนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ก็ได้ตอบข้อถามของผู้สื่อข่าวในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้ไปเจรจากับพรรคร่วมเรื่องการปรับ ครม. กล่าวยืนยันในเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีว่ายังคงมี 7 ตำแหน่งเท่าเดิม ส่วนจะมีการสลับเก้าอี้รัฐมนตรีหรือไม่นั้น ขอให้รอดูวันที่ยื่นโผให้นายกรัฐมนตรีซึ่งจะเป็นผู้พิจารณา โดยจะเรียบร้อยภายในเดือนนี้

ทั้งนี้นายจุรินทร์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญว่า ประชาธิปัตย์ยังยืนในจุดเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนถึงวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการพิจารณาในวาระที่ 3 วันที่ 17-18 มี.ค.นี้ พรรคประชาธิปัตย์ก็จะยกมือสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 เพื่อให้ไปไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น 

ต่อกรณีที่ สว. ยืนยันจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญในวาระ 3 เพราะเกรงว่า ส.ส.ร. จะไปแก้ไข หมวด 1 หมวด 2 นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ในร่างที่ใช้เป็นหลัก และร่างที่กลับมาก็ชัดเจนในตัวเองแล้วว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะมีอะไรกังวล

ส่วนที่มีความวิตกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่นั้น นายจุรินทร์กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้เพราะอำนาจยุบสภาเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี