เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2564   จากสถานการณ์การชุมนุมประท้วงในประเทศเมียนมาเพื่อต่อต้านคณะรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.มิน อ่อง หลาย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ได้ยืดเยื้อมานานหลายเดือน ซึ่งก็มีท่าทีว่ายังไม่สงบลงง่าย ๆ

ขณะที่ประเทศไทยมีชายแดนไทยติดกับประเทศเมียนมากว่า 2 พันกิโลเมตร และมีกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อยู่หลายกลุ่มหนึ่งในนั้นคือ กลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ที่ประกาศไม่ยอมรับการรัฐประหารในครั้งนี้ ก่อให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและทหารพม่าตามแนวชายแดนอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้มีประชาชนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กและคนชรานับหมื่นคน ต้องหนีตายทิ้งบ้านเรือน ลี้ภัยอาศัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมาร์ ซึ่งเป็นภาพที่น่าเวทนา
มูลนิธิรามัญรักษ์และภาคีเครือข่าย จึงได้ระดมทุนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบในครั้งนี้

นายอุทัย มณี เลขามูลนิธิรามัญรักษ์ เปิดเผยว่า  ความจริงมูลนิธิรามัญรักษ์ เน้นกิจกรรมด้านการช่วยเหลือชาติพันธุ์มอญ การสร้างสัมพันธ์กับกลุ่มมอญที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วโลก รวมทั้ง ขับเคลื่อนด้านศิลปะวัฒนธรรมและการสร้างศาสนทายาท ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ปรึกษากับประธานมูลนิธิแล้ว ใจตรงกันว่า อยากช่วยคนกะเหรี่ยงในฐานะมนุษย์ด้วยกัน เห็นเพื่อนร่วมโลกทุกข์ยากขนาดนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแก่ คนป่วย เด็ก ต้องทิ้งบ้านเรือนทิ้ง วัว ควาย  นอนกินอยู่ในป่า ตามถ้ำ บอกตรง ๆ ว่า ภาพแบบนี้ไม่เคยพบเห็น ความขัดแย้ง คนในชาติทะเลาะกัน จนเกิดเป็นสงครามมันโหดร้ายนัก  จึงต้องการบรรเทาความเดือดร้อนเท่าที่พอทำได้ อย่างน้อยแสดงความเป็นมิตรที่ดี

"หลายคนสะกิดเหมือนกันว่าระวังเงินและสิ่งของจะไม่ถึงชาวบ้านที่เดือดร้อนจริง ๆ รวมทั้งกลัวรัฐบาลเมียนมามองด้านลบ เหมือนเราไปสนับสนุนกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งก็ได้ปฎิเสธไปว่า เราทำในฐานะมนุษย์ด้วยกัน มองด้านมนุษยธรรมเป็นหลัก    จึงได้ไปปรึกษาเรื่องนี้กับประธานชมรมพระนิสิตกะเหรี่ยงที่มาศึกษาอยู่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยหรือ มจร  ซึ่งท่านรับปากว่า ท่านยินดีเป็นตัวกลางให้  เงินทุกบาท สิ่งของทุกชิ้น ถึงผู้เดือดร้อนแน่ ไม่ต้องห่วง ท่านทำงานร่วมกับคณะสงฆ์กะเหรี่ยงตามแนวชายแดนอยู่แล้ว พร้อมทั้งฝากขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ร่วมบริจาคเงินและสิ่งของให้คนเดือดร้อน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและคนชรา..และเพื่อความสะดวกในการขนส่งพระคุณเจ้าประธานชมรมพระนิสิตกะเหรี่ยงแจ้งว่า หากเป็นเงินสะดวกที่สุด เพราะถ้าเป็นสิ่งของมันมีค่าบริหารจัดการเรื่องขนส่ง ค่ารถ และปัจจุบันตามแนวชายแดนการขนส่งค่อนข้างลำบาก.." 

สำหรับท่านใดต้องการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ สามารถโอนเงินร่วมบริจาคผ่านบัญชีมูลนิธิรามัญรักษ์ 064-276358-7 ธ.ไทยพาณิชย์ หรือสอบถามรายละเอียดโทร 08-6344-9902,08-7019-9199