วันที่ 11 พ.ค. 2564 เวลา 16.00 น. ที่ชุมชนตรอกโพธิ์ เขตสัมพันธวงศ์ ดร.ณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร และว่าที่ผู้สมัคร สก. เขตสัมพันธวงศ์ เผยถึงการลงพื้นที่ช่วยพ่นน้ำยาซิลเวอร์นาโน ซึ่งมีฤทธิ์ในการป้องกันเชื้อได้ถึง 14 วัน ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมีอาสาสมัครพรรคเพื่อไทยได้ลงพื้นที่พ่นโดยรอบชุมชนตรอกโพธิ์ โดยการประสานงานจากประชาชนในชุมชนตรอกโพธิ์

นายสมบัติ รุ้งแพรววรรณ ประชาชนในชุมชนตรอกโพธิ์ เผยว่า ได้มีชาวต่างด้าวเข้ามาเช่าบ้านในชุมชนตรอกโพธิ์ โดยเช่าเป็นบ้านๆ ภายหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิดที่เป็นชาวต่างด้าวที่ติดภายในบ้าน จากการประเมินมีชาวต่างด้าวติดโควิดจำนวน 4 คน ด้วยชาวต่างด้าวต่างไปมาหาสู่กันในกลุ่มอยู่ตลอดเวลา ล่าสุดได้ขนย้ายชาวต่างด้าวทั้ง 4 คนออกจากชุมชนแล้ว แต่ตนก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ โควิด19 แต่ก็ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การพ่นฆ่าเชื้อน้ำยาฆ่าโควิด

ตนได้ประสานไปยังนายพรชัย ชัยนราพิพัฒน์ เลขานุการว่าที่ผู้สมัคร สก. เขตสัมพันธวงศ์ พรรคเพื่อไทย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้รับการตอบรับโดยการมาพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อทันที ตนจึงขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก เพราะประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ต้องหวาดระแวงตลอดเวลว่าไม่เป็นอันกินอันนอน ด้วยกลัวว่าเชื้อจะมีการฝังตัวในพื้นที่และมาแพร่เชื้อให้กับชุมชนซึ่งจะสร้างความวุ่นวายให้กับผู้ติดเชื้อและสมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ตนได้ขอน้ำยาซิลเวอร์นาโนไว้เพิ่มเติม เพื่อที่จะนำพ่นในวันถัดๆ ไปซึ่งพรรคเพื่อไทยก็ได้จัดน้ำยาไว้ให้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ยังนำหน้ากากอนามัยมามอบให้ประชาชนในชุมชน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณอดีตนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เหมาแตงโมจากสวนแตงโมและนำมามอบให้กับพี่น้องชาวสัมพันธวงศ์ ในครั้งนี้ด้วย

ดร.ณพลเดช กล่าวเพิ่มเติมว่า จากที่ลงพื้นที่ตนเข้าใจถึงหัวใจของประชาชนอย่างมาก อยากจะให้ผู้มีอำนาจในระดับสูงของรัฐบาลลงมาดูพื้นที่เพื่อดูความเป็นอยู่ของประชาชนบ้าง เพราะทุกวันนี้ประชาชนอยู่กันอย่างหวาดระแวง หากจะนำเอารัฐธรรมนูญปี 60 มากางในเงื่อนไขของรัฐบาลที่จะต้องให้ความปลอดภัย ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และการรักษาพยาบาล อาจจะทำให้รัฐบาลมีความผิดในกรอบของกฎหมายสูงสุดที่รัฐธรรมนูญได้วางไว้

อนึ่งจากการที่รัฐบาลให้การรับประกันกรณีเกิดผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19 จะได้รับเงินเยียวยาวงเงินสูงสุดไม่เกิน 400,000 บาท นั้นตนเห็นว่ารัฐบาลควรวางมาตรการนี้อย่างเร่งด่วน เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นในวัคซีน โดยความเห็นของตนรัฐบาลควรแสดงถึงความปลอดภัยของว้คซีนและสปิริตของรัฐบาล สำหรับตนแล้วถ้าเป็นรัฐบาลจะตั้งตัวเลขสำหรับผู้แพ้วัคซีน ที่ 400,000 บาท หากเสียชีวิตจ่าย 5,000,000 บาท โดยการวางมาตรการจะต้องให้ผู้ผลิตวัคซีนมาร่วมวางแผนและรับผิดชอบตัวเลขนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากประเมินแล้วอาจมีผู้เสียชีวิตจริงเพียง 1 ใน ล้าน ตัวเลขนี้ถือเป็นตัวเลขที่คุ้มค่ามากต่อการเชิญชวนเชิงนโยบาย ซึ่งจะทำให้วัคซีนที่รัฐบาลนำเข้าแล้วไม่มีผู้รับวัคซีนและรอจนถึงวันที่วัคซีนจากต่างประเทศยี่ห้ออื่นเข้าประเทศ เมื่อถึงเวลานั้นความเสียหายจากการลงทุนสั่งซื้อวัคซีน ความเสียหายของประชาชนปิดกั้นตนเองในการรับวัคซีนด้วยเหตุไม่เชื่อมั่นวัคซีนของรัฐบาล จะก่อให้เกิดผลเสียต่อประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงอย่างประเมินค่าไม่ได้ เมื่อถึงเวลานั้นรัฐบาลอาจจะไม่สามารถรับผิดชอบต่อความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดได้