วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 04:52 น.

การเมือง

ประกันสังคมเลื่อนฉีดวัคซีน! "อนุทิน"แจงไม่เกี่ยวกับสธ.

วันศุกร์ ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 16.38 น.

เมื่อเวลา 14.10 น.วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564  ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้มีหนังสือแจ้งปิดปรับปรุงการให้บริการฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 12-27 มิถุนายนนี้ ว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับตน กระทรวงสาธารณสุขก็ส่งวัคซีนตามคำขอทุกอย่าง การบริหารจัดการเป็นของหน่วยงาน ซึ่งตนอยากทำความเข้าใจ ไม่ใช่มาลงที่กระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด ตอนนี้ทำหน้าที่จัดส่งวัคซีนตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ไปยังหน่วยงานที่ร้องขอมา ทั้งในส่วนของกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมถึงการส่งถึงผู้ประกันตนมาตรา 33
          
นายอนุทินกล่าวว่า ยืนยันว่าส่งตามข้อตกลงทุกอย่าง ซึ่งล่าสุดประกันสังคมได้แจ้งไปยังบริษัทที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีน โดยให้เหตุผลว่าต้องการเช็กยอดการฉีดวัคซีนแต่ละบริษัท และย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข โดยทางประกันสังคมได้แจ้งไปยังกรมควบคุมโรคว่าแต่ละหน่วยงานต้องการวัคซีน โดยตนได้สอบถามไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรคก็ได้รับการยืนยันว่าส่งไปหมดแล้ว ดังนั้น การจัดคิวก็ต้องเป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และกระทรวงสาธารณสุขได้ทำหน้าที่ครบถ้วนหมดแล้ว ทั้งเรื่องวัคซีนและอุปกรณ์ทางการแพทย์

ผู้สื่อข่าวถามว่าการกระจายวัคซีนจะไม่ขาดช่วงใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีขาดช่วงแน่นอน ทั้งในส่วนของ สปสช.และโรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยยืนยันว่า ส่งทุกอย่างทุกจังหวัด เมื่อวัคซีนถึงจังหวัดก็จะหมดหน้าที่ จากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดที่กระจายไปในแต่ละพื้นที่ นี่คืออำนาจหน้าที่ของ ศบค. ซึ่งเป็นเหตุผลที่ต้องบูรณาการ หากกระทรวงสาธารณสุขรับเองหมด ต้องเป็นทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ คนเฝ้าชายแดน ตายแน่นอน ซึ่งหมอและพยาบาลทำได้แค่รักษาโรค ขณะที่นายกรัฐมนตรีรับทราบทุกกรณีมาโดยตลอด และได้สั่งการเพิ่มหากพื้นที่ใดมีความต้องการพิเศษ ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตอนนี้ทุกอย่างเข้ารูปแบบทั้งหมดแล้ว

ขอบคุณคนทำงาน หลังระบบ สธ.ยังเจ๋ง ผู้ป่วยโควิด 19 ได้รับการรักษาทั่วถึง

ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการให้บริการวัคซีนโควิด 19 ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติว่า ประเทศไทยให้บริการวัคซีนอย่างกว้างขวางเมื่อวันที่ 7 เป็นต้นมา ถึงตอนนี้ ยังถือว่าการให้บริการเป็นไปด้วยความราบรืน ยามมีปัญหาขลุกขลัก ก็หาทางแก้ และเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้ ก่อนวันที่ 7 ได้มีการเตรียมความพร้อมมานานแล้ว จากการที่ฉีดให้กลุ่มเสี่ยงเกณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ จุดให้บริการล้วนผ่านการปฏิบัติงานจริงมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งตนและคณะผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมระบบมาโดยตลอด มา ณ วันนี้ ความต้องการวัคซีนเพิ่มมากขึ้น หน้าที่ของรัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข ต้องหาวัคซีนมารองรับความต้องการดังกล่าว 

ต้องขอขอบคุณคนไทยที่ให้ความมั่นใจในวัคซีนที่จัดหามา เพราะทุกคนล้วนมีรอยยิ้มเมื่อได้รับวัคซีน แสดงว่ามีความเชื่อมั่น ขอย้ำว่า ประเทศไทยจะเลือกวัคซีนที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัยมาให้บริการประชาชน อยากเรียนย้ำว่า แท้ที่จริงแล้ว กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในการจัดหาวัคซีน และภูมิใจที่ได้ปฏิบัติหน้าที่นี้

เมื่อถามว่า การที่วัคซีน ซึ่งทยอยมา กระทบกับแผนการจัดการหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า กระทบกับการกระจายลงพื้นที่บ้าง แต่ในอนาคต ปัญหานี้ จะคลี่คลาย เพราะไทยจะมีวัคซีนให้บริการหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการจัดสรร ในอนาคต หากการหารือกับผู้ผลิต ไม่มีปัญหา เราจะมีทั้งไฟเซอร์ สำหรับให้บริการในเด็ก และจอห์นสัน แอนด์จอห์นสัน ก็จะเช้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะที่เราทำสัญญาระยะยาวกับแอสตร้าเซนเนกาไว้แล้ว ส่วนซิโนแวค ไทย ตัดสินใจ นำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่า สามารถให้บริการประชาชนได้ตามเป้า ปัจจุบันนี้ รัฐบาล และกระทรวงสาธารณสุข กำลังหาทางนำเข้าวัคซีน เข้ามาเรื่อย ทั้งยังได้ศึกษาผลการวิจัย เพื่อเลือกวัคซีนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่สุดด้วย

ต่อข้อสงสัยเรื่องบทบาทของกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดการกระจายวัคซีนในแต่ละพื้นที่ นายอนุทิน ตอบว่า การบริหารจัดการในพื้นที่ต่างๆ เป็นเรื่องของหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆ ซึ่งได้รับมอบอำนาจตามกฎหมายไปแล้ว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข มีบทบาทเป็นฝ่ายสนับสนุน ซึ่งได้ทำสุดแรง สุดกำลัง ตามการมอบหมายของ ศบค.

“ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ต้องขอขอบคุณคนทำงานทุกท่าน เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล อสม. และทุกๆ ภาคส่วนที่ช่วยกันประคับประคองระบบสาธารณสุขไทย ถึงแม้ว่า เราจะมีการระบาด พบผู้ติดเชื้อมาก แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเป็นเครื่องสะท้อนประสิทธิภาพของระบบสาธารณสุขไทยคือ ผู้ป่วยโควิด 19 ต่างได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง ใครป่วย ต้องได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ นอกจากนั้น เรายังมีความพร้อมในเรื่องของเวชภัณฑ์ บุคลากร รวมไปถึงแผนการรับมือ และการตั้งโรงพยาบาลสนามที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ขอชื่นชม ทุกภาคส่วนที่ช่วยกันด้วย เพราะทีมแพทย์ พยาบาล คงไม่สามารถเข้าไปเคลียร์พื้นที่ตั้งโรงพยาบาลสนามได้ ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ขณะที่ การมีอยู่ของ ศบค. ก็ทำให้การจัดการปัญหาในสภาวะวิกฤติ มีประสิทธิภาพมากขึ้น” 

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง