วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 01:55 น.

การเมือง

"โฆษกรัฐบาล"ฟุ้งฉีดวัคซีนยอดสะสมพุ่งกว่า 6 ล้านโดส - 12 มิ.ย.แค่ 1.08 แสนโดส

วันอาทิตย์ ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 14.58 น.

วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เริ่มนโยบายการฉีดวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2664 เป็นต้นมานั้น ในช่วงวันที่ 7-12 มิ.ย 2564 ที่ผ่านมามีการฉีดวัคซีนทั่วประเทศจำนวน 1,865,190 โดส และตั้งแต่วันที่ 28 กพ. - 12 มิ.ย. 2564 มีการฉีดสะสมแล้วรวมทั้งสิ้น 6,081,242 โดส แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 4,456,786 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 1,624,456 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันไทยมียอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมเป็นอันดับที่ 3 ของอาเซียน และเป็นไปตามเป้าหมายของแผนการฉีดวัคซีนสำหรับประชากรไทยในประเทศไทย
          
สำหรับการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยกระทรวงแรงงานนั้น สำนักงานประกันสังคมได้ปรับปรุงระบบการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อให้การฉีดวัคซีนแก่ผู้ประกันตนในพื้นที่กรุงเทพมหานครได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกันตน ม 33 ที่นายจ้างได้ลงทะเบียนในระบบ e-Service อีกครั้งในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 2564 เป็นต้นมา สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มแรกไปแล้วมากกว่า 2 แสนราย โดยมีผู้ประกันตน ม 33 ที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนจำนวน 6,037,497 คน เป็นผู้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณทลประมาณ 3.6 ล้านคน และในพื้นที่ Eastern Seaboard และส่วนภูมิภาคอีกกว่า 2.3 ล้านคน ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับผู้ประกันตนตามเป้าหมายที่วางไว้โดยเร็ว
          
ในส่วนของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จนถึงวันที่ 12 มิ.ย 2564 มีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสมแล้วจำนวน 1,678,948 โดส แยกเป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 944,552 ราย และผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 367,198 ราย นอกจากนี้ การกระจายวัคซีนไปตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ นั้น รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดไว้ โดยจากนี้ไปจะมีการกระจายวัคซีนโควิด-19 ได้เป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามจำนวนวัคซีนที่ได้รับการส่งมอบจากผู้ผลิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนวันที่ 12 มิถุนายน 2564 มีผู้รับการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 จำนวน 66,037 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 42,167 ราย รวมแค่ 108,204  โดส

"อนุทิน"ขออย่าให้คนทำงานกลายเป็นแพะ ปมเลื่อนฉีดวัคซีนโควิด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์เฟซบุ๊ก Like Anutin ระบุว่า อย่าให้คนทำงานกลายเป็น "แพะ"เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนนั้น ต่างฝ่าย ต่างมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตามตัวบทกฎหมายที่กำหนด กระทรวงสาธารณสุขมีหน้าที่ในการจัดหา และกระจายไปตามแผนที่ ศบค.กำหนด เมื่อวัคซีนถึงพื้นที่ ก็เป็นบทบาทของหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆ ต้องบริหารจัดการวัคซีนตามที่แสดงเจตจำนงค์ไปทุกอย่างชัดเจน ทว่ายามมีปัญหา ทั้งใน กทม.และจังหวัดอื่นๆ กลับกลายเป็น สธ.ต้องถูกวิจารณ์อย่างสาหัส ทั้งที่ได้ทำหน้าที่อย่างครบถ้วนสุดความสามารถแล้ว 

"อย่าแปลกใจ หากเราจะเห็น คน สธ.ออกมาชี้แจงรัวๆ เรื่องการเลื่อนฉีดวัคซีนในพื้นที่ต่างๆ โดยเน้นย้ำว่า ทางหน่วยงาน ไม่ได้มีอำนาจรับผิดชอบตรงนั้น หากเข้าไปแทรกแซงจะกลายเป็นก้าวก่ายเพราะมาจุดนี้ ดูเหมือนคนทำงาน ที่มีสภาพไม่ต่างจากแพะ ก็ทนแบกรับปัญหาของคนอื่นต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน เรามักจะพูดเสมอว่าเรื่องโควิด เราต้องช่วยกัน แต่ในความเป็นจริง บางคนก็พยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยกันแก้ปัญหา แต่บางคนกลับพยายามจะทำให้ปัญหามันใหญ่ขึ้นไปอีก"

ติดตามผลฉีดวัคซีนโควิดที่บุรีรัมย์รับเปิดเมืองท่องเที่ยว 
 
ทั้งนี้นายอนุทิน นำทีมปลัดกระทรวงสาธารณสุข  อธิบดีกรมควบคุมโรค  และผู้บริหารในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์  ตรวจเยี่ยมละติดตามการฉีดวัคซีน โควิด-19  พร้อมรับการเปิดเมืองท่องเที่ยว   โดยนายอนุทิน ได้เดินทางไปยัง สนามช้างอินเตอร์เนชันแนลเซอร์กิต  ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พบปะกับ อสม.ซึ่งถือเป็นผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า และกลุ่มเสี่ยงที่จำเป็นจะต้องได้รับวัคซีนเป็นลำดับแรกๆ  เช่นกัน
          
จากนั้น ได้เข้าห้องประชุม ชมวีดิทัศน์ "เปิดเมืองบุรีรัมย์อย่างปลอดภัย มั่นใจด้วยวัคซีน" พร้อมทั้งเป็นตัวแทนรับมอบและส่งมอบบัตรประกันสุขภาพสำหรับบุคลากรสาธารณสุขและรับฟัง นโยบายควบคุมโรค และเปิดเมืองบุรีรัมย์  โดยนายธัชกร หัตถาธยากูล  ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  และแนวทางควบคุมโรคและการบริหารวัคซีน โดย นายแพทย์พิเชษฐ  พืดขุนทด  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์
          
จากนั้นนายอนุทิน  ได้ร่วมประชุมและมอบนโยบายผู้บริหาร และบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ติดตามผลการควบคุมโรคและการฉีดวัคซีนเพื่อควบคุมป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของชาวบุรีรัมย์ หวังสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์ และสอดรับ โครงการ “1 ตุลาคม 2564 ทัวร์เที่ยวไทย โดยไม่กักตัว” ของกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา   ทั้งได้เดินเยี่ยมและพบปะสอบถามประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีนด้วย
          
นายอนุทิน  กล่าวถึงการติดตามผลการฉีดวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของจังหวัดบุรีรัมย์ ว่า “จากการที่มีการระบาดหลายพื้นที่เกือบทุกอำเภอของจังหวัดบุรีรัมย์ โดยมีมาตรการควบคุมโรคและในระยะยาวนั้นการป้องกันการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพอีกแนวทางหนึ่ง คือ ประชาชนต้องได้รับวัคซีนอย่างน้อย ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งหมดของจังหวัด จำนวน 1,120,562 คน

ในการติดตามเยี่ยมครั้งนี้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะได้รับทราบผลการดำเนินงานในระดับพื้นที่ ว่า สามารถดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดได้มากน้อยเพียงใด มีปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง และเปิดโอกาสให้บุคคลากรที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่และส่วนกลางได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ แนวทางการดำเนินงาน ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุปสรรค การปรับตามแนวทางการควบคุมการระบาดที่มีประสิทธิภาพตามบริบทของจังหวัด
          
และในวันนี้ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจแก่แก่บุคลากรที่ปฏิบัติงานซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ส่งมอบกรมธรรม์ประกันภัยไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จำนวน 10,196 กรมธรรม์ แก่บุคลากรกลุ่มดังกล่าว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากภาคประชาชนของจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งแสดงถึงความสามัคคีและปรารถนาดีต่อผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของคนกระทรวงสาธารณสุข
          
พร้อมยืนยันว่า มีการจัดสรรวัคซีนให้ทุกจังหวัดอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกัน  มีสูตรการจัดวัคซีนให้แต่ละจังหวัดอย่างไร ส่วนใหญ่เป็นสูตรการหารเฉลี่ย  จะมีการปรับแค่ในเรื่องของปัจจัยเสี่ยง ดังนั้น ทุกจังหวัดก็จะได้รับวัคซีนอย่างยุติธรรมและเท่าเทียม  เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนอย่างครอบคลุมมากที่สุด

หน้าแรก » การเมือง

Top 5 ข่าวการเมือง