วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน 2564  ที่อาคารกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานในพิธีตัดช่อดอกกัญชาพันธุ์ไทย 4 พันธุ์ โดยมีผู้บริหารกระทรวงเข้าร่วมงาน

หลังเสร็จพิธี นายอนุทิน เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้เดินหน้าปลูกกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งยังศึกษาวิจัยหาสรรพคุณของกัญชาในการรักษาโรคต่างๆ ล่าสุด มีการศึกษา สารสกัดจากส่วนรากกัญชา พบว่าอาจจะมีผลในการช่วยรักษาเนื้อเยื่อของปอด ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดี เพราะจะวิจัยเพื่อรักษาผู้ป่วยโควิด ซึ่งปอดได้รับความเสียหาย เป็นประโยชน์อันมหาศาลของวงการแพทย์ ที่อาจจะหมายถึงประโยชน์ต่อเศรษฐกิจชาติในอนาคตด้วย หากกัญชา กลายเป็นพืชทางเลือกทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด แน่นอนว่า ตน และกระทรวงสาธารณสุข พร้อมผลักดันให้เกิดการใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรทั้งในเรื่องของการแพทย์ และแก้ปัญหาปากท้องอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พืชกัญชาที่ปลูกโดย สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ขออนุญาตปลูกถูกต้องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้แก่ หางกระรอกภูพานเอสที 1 , หางเสือสกลทีที 1 , ตะนาวศรีก้านขาวดับเบิ้ลยูเอ 1 และ ตะนาวศรีก้านแดงอาร์ดี 1 ที่มีสาร THC และ CBD ที่ต่างกันไป สถานะปัจจุบัน อยู่ระหว่างการขอขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร

ทั้งนี้ การทดลองปลูกข้างต้น ใช้เป็นต้นแบบการปลูกในโรงเรือนแบบกรีนเฮ้าส์ (Green house) ที่มีระบบการปลูกในวัสดุทดแทนดิน (substrate culture) ให้น้ำและธาตุอาหารผ่านระบบน้ำหยด โดยมีเครือข่ายร่วมวิจัยได้แก่ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร และ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สกลนคร จากนั้น จะมีการต่อยอดให้เกษตรกรนำไปต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ สร้างประโยชน์ให้กับตนเอง และประเทศ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บไซต์ยูทูปก็มีการเผยแพร่คลิปต้นตำแยแมวหรือกัญชาแมวได้ระุบุสามารถบำรุงปอดเช่นเดียวกัน

"หมอเณร"บุกศาลปค.ยื่นหลักฐานเพิ่ม ยัน ยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุรักษาโควิด-19 ได้ 

นายชัยรัตน์ นนทชัย หรือหมอเณร ผู้เชี่ยวชาญด้านแพทย์แผนไทย และเจ้าของสวนสมุนไพรไทย เข้ายื่นหลักฐานเพิ่มเติมต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีได้ยื่นฟ้อง กระทรวงสาธารณสุข กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ฐานละเลยต่อหน้าที่ ไม่ออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะ สาขาการแพทย์แผนไทย และรับรองสูตรตำรับยาสมุนไพรให้แก่นายชัยรัตน์ หลังศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 63 ให้กรมแพทย์แผนไทยพิจารณาคำขอจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยของนายชัยรัตน์ และแจ้งผลการพิจารณาให้นายชัยรัตน์ทราบ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่กรมแพทย์แผนไทยได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
          
นายชัยรัตน์ กล่าวว่า ได้นำรายละเอียดการใช้ยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุการรักษาผู้ป่วยโควิด 19 จนหาย พร้อมกับวีดีโอสัมภาษณ์ผู้ป่วยที่รักษาหาย มายื่นเป็นหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่า ยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุ คือภูมิตัวจริงที่นอกจากจะรักษาโรคหัวใจ ปอด ตับไต เบาหวาน แผลเน่า ภูมิแพ้ หวัด แล้วยังสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเดินหายใจ รวมถึงโควิดด้วย โดยในช่วงการระบาดที่ผ่านมามีผู้ป่วยโควิดที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่ได้รับรส นำยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุไปรับประทานก็มีอาการดีขึ้นภายใน 3 วันและหายได้ใน 7 วัน และเมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลผลตรวจก็ไม่พบเชื้ออีก รวมถึงคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ก็มารับยาจากตนไปทานเพื่อป้องกัน ซึ่งเห็นว่าในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดที่รุนแรงขณะนี้หากมีการส่งเสริมให้นำยาสมุนไพรสร้างไฟธาตุมาใช้ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนที่บางคนอาจยังเข้าไม่ถึงวัคซีน กลัวการฉีดวัคซีน หรือมีอาการเบื้องต้น ก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในวงกว้าง
          
"ยาตัวนี้มีความสำคัญสามารถรักษาภูมิแพ้ หวัดต่าง ๆ กระทั่งโควิด 19 ที่กำลังระบาดอยู่ได้ เวลานี้บ้านเมืองกำลังวิกฤต ทุกฝ่ายจึงควรหันมาร่วมมือกัน ไม่ใช่ปิดกั้นยาดี ๆ แต่ควรให้ประชาชนมีทางเลือก ไม่ใช่มองหรือมาโจมตีว่า ถ้าทานยาสมุนไพรแล้วจะเกิดอันตรายเป็นเรื่องเข้าใจผิด วัคซีนก็มีส่วนดี คนรับได้ก็ช่วยป้องกัน มันก็เป็นประโยชน์ แต่บางคนรับไม่ได้ก็เป็นอันตรายกว่าการทานยาสมุนไพร ดังนั้นถ้ามีการส่งเสริมให้เอายาสมุนไพรสร้างไฟธาตุมาช่วยรักษาป้องกัน ปัญหาการระบาดก็จะได้เบาบางลง จึงอยากขอให้ศาลปกครองสูงสุดได้พิจารณาข้อมูลในส่วนนี้และเร่งพิจารณาคดี"