การเมือง
พท.จ่อร้องดีอีเอสสอบ "คลับเฮ้าส์toxic" ปมเหยียดคนอีสาน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2564 นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการพูดคุยในแอปพลิเคชันคลับเฮาส์โดยมีการแสดงทัศนคติด้านลบเชิงดูถูก เหยียดหยาม ด้อยค่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือคนอีสานว่า ในฐานะที่เป็นลูกหลานคนอีสานมีความภูมิใจที่ได้เกิดเป็นลูกอีสาน มีความสำนึกในรากเหง้าของภาคอีสาน และมองว่าถิ่นกำเนิดไม่ใช่ตัวกำหนดคุณค่าความเป็นมนุษย์ ทุกคนไม่ว่าจะมีเชื้อชาติ เพศ หรือเกิดในภูมิภาคใด มีพื้นฐานสังคมแบบใด ย่อมมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเกิดในภูมิภาคใดก็สามารถสร้างคุณประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศชาติได้
นางสาวชญาภา กล่าวอีกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการละเลยปัญหาด้านความรุนแรงเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเกิดจากทัศนคติของคนในสังคมที่ถูกกล่อมเกล่าปลูกฝังมา ขาดความรู้ความเข้าใจในวิถีชีวิตและอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ จนนำไปสู่การดูหมิ่น ดูถูก กล่าวหา ผลิตซ้ำมายาคติจนถูกทำให้เป็นเรื่องปกติ (normalize) ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความเกลียดชัง จนสร้างความขัดเเย้ง ความแตกเเยกในสังคมได้ รัฐบาลต้องเข้ามาแก้ปัญหาในเรื่องนี้ตั้งแต่รากของปัญหาคือระบบการศึกษาและความแตกต่างทางวัฒนธรรมและสังคมไทยให้ได้
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนมากที่สุด เตรียมยื่นหนังสือต่อกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบและสืบสวนข้อเท็จจริงในการแสดงความคิดเห็นที่มีความสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งภายในประเทศป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาลุกลามบานปลายต่อไป
"จิตแพทย์"ชี้ดราม่าเหยียดคนอีสาน! เกิดจากจิตใจไร้คุณภาพ-เก็บกด
นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ถึง ประเด็นกระแส ดราม่าในโซเชียลมีเดีย จากกรณีมีคนกลุ่มหน่ึงเปิดห้องในคลับเฮ้าส์ วิจารณ์เหยียดหยามคนอีสานจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง ขึ้นอันดับ 1 เทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทยว่า ประเด็นในเชิงจิตวิทยาสังคม ความแตกต่างของเพศ ผิวพรรณ ความคิดทางการเมืองเป็นเรื่องปกติแต่การแสดงความรังเกียจความแตกต่าง เป็นเรื่องที่ผิดปกติ ซึ่งสังคมไม่ควรยอมรับ ทั้งนี้ ในเชิงลึกแล้ว ผู้ที่แสดงความรังเกียจแสดงความรุนแรง แสดงความไม่ชอบคนอื่น มาจากสภาวะจิตที่มีปัญหา ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุไม่จำเป็นต้องเกิดจากการที่เคยถูกกระทำมาก่อนในอดีต แต่โดยรวมเป็นภาวะจิตใจที่ไม่มีคุณภาพ อาจเกิดจากความเก็บกด ความว้าวุ่นใจ ความคับข้องใจเรื่องต่างๆ ฉะนั้น เราควรยอมรับ เผยแพร่ความคิดความอ่านที่มีประโยชน์ มีคุณค่า หากเรายอมรับความคิดที่ไม่มีคุณภาพ ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตัวเอง
“ความแตกต่างเป็นความปกติ คนเรามีธรรมชาติหลากหลาย ดังนั้น การเปิดใจกว้างเป็นเรื่องดี ตรงข้ามกันคือ การแสดงความรังเกียจเป็นเรื่องผิดปกติ ดังนั้น เราต้องฉุกคิดก่อนจะเผยแพร่ประเด็นเหล่านี้ให้กว้างขวาง หรือเป็นประเด็นทางสังคม” นพ.ยงยุทธ กล่าว
นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า การสอนให้รู้จักยอมรับความแตกต่าง สามารถสอนได้ตั้งแต่อนุบาล เพื่อให้เข้าใจความแตกต่าง เปิดกว้างยอมรับความคิดเห็นต่าง ๆ โดยพ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี หากครอบครัวเปิดกว้าง ไม่แสดงความรังเกียจ ใช้ความรุนแรงด้วยคำพูด(Hate Speech) กับสิ่งที่เราคิดต่าง ก็จะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมเปิดกว้าง มีวุฒิภาวะก้าวไปช้างหน้าได้ดีกว่า หากเราสร้างสังคมที่มีความเห็นทางการเมือง เรื่องเพศสภาพ เรื่องสถาบัน แบบเอาเป็นเอาตายกับอีกฝ่ายหนึ่ง สังคมจะก้าวไปข้างหน้ายาก ยกตัวอย่างประเทศเยอรมนีที่ผ่านเรื่องเหล่านี้มาเยอะจนเข็ด จนมีกฎหมายว่าความเห็นต่างไม่ผิด แต่การแสดงความรังเกียจต่อความเห็นต่างเป็นความผิด เป็นกติกาสังคม ดังนั้น สังคมไทยก็ควรจะเข็ดในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าหากมีคนที่มีความคิดรังเกียจคนอื่นสะสมอยู่มาก จะเกิดเป็นความรุนแรงของสังคมหรือไม่ นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ก็จะเป็นบรรทัดฐานความรุนแรงของสังคม ที่จะแสดงออกกมาเป็นความคิดก่อน ต่อมาจะเป็นวาจา และกลายเป็นทางกายภาพ ไต่ระดับความรุนแรงได้ง่าย สังคมจะเดินหน้าลำบาก ซึ่งกระทบหลายอย่าง ปัจจุบันไม่ใช่เพียงเรื่องของภูมิภาคต่าง ๆ ที่ผ่านมีทั้งเรื่องการเมืองและเรื่องอื่นๆ ซึ่งบรรยากาศการสื่อสารของคนไทยมีแบบนี้เยอะ ทำให้สังคมสะพัด ก้าวไปข้างหน้าลำบาก
เมื่อถามว่ากรณีที่คนกลุ่มดังกล่าวใช้รูปภาพคนอื่นในการออกมาแสดงความรุนแรงในสังคม โดยไม่รู้สึกเกรงใจ และตรงกันข้ามคือท้าทายสังคม ถือเป็นความผิดปกติทางจิตหรือไม่ นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า นี่เป็นความขัดแย้งในตัวของเขาเอง จริง ๆ ถ้าคนเหล่านี้มาแสดงออกแบบเปิดเผย อาจไม่รุนแรง แต่การแสดงออกทางสังคมที่ไม่ต้องปรากฎตัวชัดเจนทำให้ความยับยั้งชั่งใจ หรือควบคุมตัวเองได้น้อยลงจะกล้าแสดงออกในสิ่งผิด ๆ มากขึ้น เราต้องช่วยกันสอนกันตั้งแต่เล็ก ๆ ว่า การแสดงออกในออนไลน์ มันก็คือตัวตนของเราเช่นกัน ดังนั้น ต้องควบคุมตัวเองด้วย
เมื่อถามว่าเราต้องสื่อสารเยียวยาจิตใจคนที่ถูกรังเกียจในประเด็นนี้อย่างไรบ้าง นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า เรารู้อยู่แล้วว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องจริง ดังนั้น เราได้แต่เห็นใจเขา เตือนเขาด้วยความสุขภาพว่า เป็นไปไม่ได้ที่คนภาคหนึ่งจะดีหมด แล้วคนภาคหนึ่งจะเลวหมด เพราะความดีความเลวเกิดจากบรรฐานการเลี้ยงดู การเติบโต ซึ่งปะปนกันทุกสังคม
“เราไม่ต้องเดือดร้อน แต่ขณะเดียวกัน เราก็ต้องรณรงค์ให้เข้าใจว่าการทำแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม ต่อใคร แล้วก็ออกมาจากจิตใจที่คุณภาพไม่ดี ฉะนั้น สังคมอย่าไปส่งเสริม ให้เราเห็นใจคนที่ทำ เพราะเรื่องนี้มันไม่จริงอยู่แล้ว” นพ.ยงยุทธ กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- ชาวพุทธตั้งคำถามในสังคมไทยร่วมสมัย "สตางค์–สตรีเป็นภัยของพระสงฆ์หรือแค่วาทกรรม" 19 ก.ค. 2568
- "จักรภพ" เข้ากราบสมเด็จธงชัย รับแนวคิดส่งถึงรัฐบาล ดูแลพระพุทธศาสนาในยามวิกฤต 19 ก.ค. 2568
- "ทักษิณ" ร่วมเททองหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุดในโลก — เปิดตัว "AI หลวงพ่อคูณ" ถ่ายทอดธรรมสู่อนาคต 19 ก.ค. 2568
- แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตย ยืนยันกับระเบิดกว่า 100 ลูกไม่ใช่ของไทย – เตรียมยื่นเรื่อง UN ผ่านอนุสัญญาออตตาวา 19 ก.ค. 2568
- "ธีรรัตน์" ชูบทบาทสตรี พลังความหลากหลาย สู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน 19 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
ปั้นข่าวไร้ข้อเท็จจริง! "พลพีร์" ซัด "ทักษิณ" ปมเหน็บ "อนุทิน" เรียก ขรก.ไปรับ ลงพื้นที่ศรีสะเกษ 20:31 น.
- ชาวพุทธตั้งคำถามในสังคมไทยร่วมสมัย "สตางค์–สตรีเป็นภัยของพระสงฆ์หรือแค่วาทกรรม" 18:01 น.
- "ทักษิณ" เดือด! หากพิสูจน์ได้ระเบิดใหม่มาจากกัมพูชา ต้องประท้วงทันที ย้ำชัดไม่คุย "ฮุนเซน" อีก หวั่นถูกอัดเทปซ้ำ 17:46 น.
- แม่ทัพภาคที่ 2 ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตย ยืนยันกับระเบิดกว่า 100 ลูกไม่ใช่ของไทย – เตรียมยื่นเรื่อง UN ผ่านอนุสัญญาออตตาวา 17:23 น.
- "ธีรรัตน์" เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูพานน้อย แลนด์มาร์คทางธรรมชาติของจังหวัดหนองบัวลำภู 17:10 น.