วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 11:36 น.

การเมือง

"อนุทิน" กางแผน สธ.ไทย บนเวที "ถามมา-ตอบไป" 30 ล้าน

วันศุกร์ ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 16.23 น.

เมื่อวันที่ 20  พฤษภาคม 2565  ที่ศูนย์สรรพสินค้า  สยามพารากอน ณ งานเสวนา “Better Thailand Open Dialogue ถามมา-ตอบไป เพื่อประเทศไทยที่ดีกว่าเดิม” ซึ่งมีกระแสข่าวใช้งบประมาณจัด 30 ล้านบาท นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า  ระบบสุขภาพของไทยไม่ได้ดูแค่มิติเดียว ไม่ใช่ว่าเราสนใจแต่เรื่องสุขภาพ แต่เรื่องปากท้องเราไม่สนใจเลย ถ้าทำแบบนั้น เราปิดบ้าน ปิดเมือง กดยอดผู้ติดเชื้อ โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องของเศรษฐกิจ แล้วปล่อยให้กระทรวงอื่นดูแลเรื่องเหล่านี้ เท่ากับจบงานของ สธ. แต่เราไม่ทำแบบนั้น เพราะเราต้องควบคุมโรค แต่ต้องคิดเผื่อมิติอื่นด้วย ประชาชนจะใช้ชีวิตอย่างไร จะประกอบอาชีพอย่างไร เราต้องคิดควบคู่กัน รัฐบาลต้องเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เราไม่ได้เอาโรคศูนย์กลาง ในเมื่อมันเกิดโรคแล้ว ต้องทำอย่างไร ให้ประชาชนกระทบน้อย และต้องกำจัดโรคระบาดให้เร็ว ถ้าต้องอยู่กับมัน ต้องอยู่ให้ได้ และเศรษฐกิจ ต้องมีทางเดินต่อ 

กระทรวงฯ ได้ปฏิบัติตามหลักการ มีการประชุมทีมแพทย์ทุกวัน เราต้องเตรียมพร้อม เพื่อวัตถุประสงค์คือ ให้ประชาชนเดือดร้อนจากโรคให้น้อยที่สุด จะเห็นว่า คนไทยเข้าถึงยาได้เร็ว เรามีสถานพบยายาลเพื่อรองรับประชาชนที่เจ็บป่วย แล้วมีการพัฒนารูปแบบการรักษา ให้มันทันสถานการณ์ระบาด เราต้องปรับตัว มีการยืดหยุ่นในการทำงานกันอยู่ตลอด หลายอย่างคลี่คลาย เมื่อมีวัคศซีน ซึ่ง เราก็คิดว่า เราต้องเป็นผู้ผลิต แล้วเราก็ได้เป็นฐานผลิตวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า เรื่องหน้ากากอนามัย เคยมีการโก่งราคา เราหาทางผลิตเองเพื่อแก้ปัญหาอย่างถาวร เรื่องยา เรื่องเวชภัณฑ์ ปัจจุบัน ผลิตเองได้เช่นกัน ทั้งหมดมันมาจากการที่เรามีพื้นฐานด้านการสาธารณสุขที่เข้มแข็ง มาที่เรื่องสถานพยาบาล เราก็ตั้ง รพ.สนาม ไปจนถึงการสร้าง รพ. บุษราคัมเลย เพื่อให้เพียงพอทั้งการรักษาโรคทั่วไป และโรคโควิด-19 พอมาจุดหนึ่งก็ปรับแผน มีการนำระบบการกักตัวมาช่วย 

ที่เราประคองระบบไม่ให้พังทลาย ส่วนสำคัญก็เพราะการร่วมมือจากพี่น้องประชาชน โดยได้รับการช่วยเหลืออย่างดี จาก อสม.  วันนี้ ยังมีการติดเชื้อ เพราะเราผ่อนคลายมาตรการ ที่เรากล้าทำ เนื่องด้วยข้อมูลระบุชัดว่า โรคลดความรุนแรงลง ทั้งจากธรรมชาติของโรคเอง และจากการฉีดวัคซีน ปัจจุบัน เรามีสถานพยาบาลพอ ยามีพร้อม หมอมีประสบการณ์ ประชาชนให้ความร่วมมือ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตลอด 2 ปีกว่า เรามั่นใจ ว่า เราพร้อมจะเปิดประเทศ เราทำอะไร โดยมีหลักการ และเราก็ยึดถือ ในความปลอดภัยของประชาชน 

ถามว่าวันนี้เรามีอะไรอยู่ในมือ ท่านปลัดฯ รายงานตลอดว่า สถานการณ์อยู่ในจุดที่เราควบคุมได้แล้ว เราจับปัญหาได้ถูกแล้ว ต้องโฟกัสเรื่องอย่าให้คนเจ็บหนัก เสียชีวิต สูตรวัคซีนที่ขอให้ประชาชขนมาฉีด  ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แน่นอน ว่าทุกคนรู้สึกเสียใจมาก กับการที่มีประชาชนคนไทยสูญเสียชีวิตจากโรค แต่เมื่อถึงจุดนนี้ มันถึงเวลาที่จะมุ่งไปข้างหน้า ต้องทวงคืนจากทุกความสูญเสียแล้ว ขอย้ำว่า จากการจัดอันดับของนานาชาติ การสาธารณสุขไทย ยังอยู่ในจุดที่นานาชาติยอมรับ ติดท็อปเท็น มีระบบ สธ.ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เรามี หมอ ยา เตียง องความรู้ ประสบการณ์ เรามี สปสช. ซึ่งปีนี้ เข้าสู่ปีที่ 21 แล้ว แต่ไม่ใช่ ว่า เรานิ่งมาตั้งแต่ต้น กลับกัน เราพัฒนาอยู่เสมอ เรื่องโควิด-19 มันทำให้รัฐมนตรีและคณะผู้บริหารต้องลงพื้นมากขึ้น แต่ละพื้นที่มีการระบาด และปัญหา ต้องเร่งแก้ไข การตัดสินใจ จะทำได้ดีที่สุด เมื่อได้เห็นสถานการณ์จริง ทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ เรื่องฟอกไตฟรี ต้องขอบคุณนายแพทย์ท่านหนึ่งที่ จังหวัดนครพนม ท่านมาเล่าเรื่องค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย มันตกเดือนละประมาณ 2 หมื่นบาท แล้วมาบอกว่า คนไข้บางคนก็เลือกตาย เพราะทนค่ารักษาไม่ไหว ได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามันจะปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องแก้ไข และทำสำเร็จแล้ว เมื่อเราลงพื้นที่ไปมาก เราเห็นผู้ป่วยติดเตียง เราก็เสนอช่วยเหลือเรื่องผ้าอ้อมผู้สูงอายุ เป็นสวัสดิการ ลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชน  คนไทยระมัดระวังเรื่องสุขภาพมากขึ้น เมื่อมาบวกกับระบบสุขภาพของไทยที่ยอดเยี่ยมเป็นทุนเดิน ต่างชาติ ต่างเห็นตรงกันว่า เรื่องระบบสาธารณสุขคือจุดเด่นของไทย  วันนี้ เราไม่ได้ตั้งเพียงศูนย์ผู้สูงอายุอาเซียน แต่เราได้เป็นศูนย์จัดการภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพและโรคอุบัติใหม่อาเซียน  ศูนย์เหล่านี้ ทำให้เรามีองค์ความรู้ และถ้าเกิดเหตุ เราจะจัดการได้ดีกว่าเดิม 

“หลักการทำงานของกระทรวงฯ คือ HEALTH FOR WEALTH เราจะใช้ระบบสาธารณสุข พัฒนาประเทศไทย กลับมาแข็งแรงทางเศรษฐกิจ เมื่อคนเราสุขภาพดี เศราฐกิจจะต้องดีตาม เรามีพลังมากมาย ในการดำเนินการเรื่องนี้ มันจะทำให้ชาวต่างชาติ ตัดสินใจเดินทางมาที่ประเทศไทย เรามีภูเก็ตเป็นเมดิคัล ฮับ ขนาดใหญ่ การที่เราได้ตั้งศูนย์ดูแลสุขภาพระดับภูมิภาค ล้วนแต่สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นานาชาติ ที่สุดแล้ว อย่าลืมเรื่องกัญชา นี่จะเป็นพืชเศรษฐกิจในอนาคต  กระทรวงสาธารณสุข เรามองไปไกลกว่าแค่เรื่องการควบคุมโรค แต่เราต้องมองถึงเรื่องว่าระบบสุขภาพของไทย จะช่วยเหลือมิติอื่นๆ อย่างไรได้บ้าง” 

 

หน้าแรก » การเมือง