วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 20:36 น.

การเมือง

"ประวิตร" สั่ง "สทนช." ประสานกรมชล และ กทม. เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วมฉับพลัน

วันพุธ ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 09.19 น.

วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการ สทนช.และฝ่ายปกครอง ประสานกับ กรมชลประทาน และ กทม. ติดตามสภาพอากาศและเตรียมความรับมือกับปัจจัยเสี่ยงสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักต่อเนื่องและสะสมจากมรสุมพาดผ่าน โดยเฉพาะ พื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ประกอบกับการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา และน้ำทะเลหนุนสูง ช่วง 10-16 ส.ค.นี้ จะส่งผลระดับน้ำเจ้าพระยาขึ้นสูง ชุมชนพื้นที่นอกแนวกั้นน้ำและแนวคันคลอง ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. สมุทรปราการ และนนทบุรี

พล.อ.ประวิตร  ได้กำชับให้ประสานทำงานร่วมกับทหาร ตำรวจ จิตอาสาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ รับมือตามแผนบรรเทาภัยพิบัติที่จัดเตรียมขึ้นในแต่ละพื้นที่ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและแจ้งเตือนภัยประชาชนล่วงหน้า  โดยให้ความสำคัญกับ การเฝ้าระวังแหล่งน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง และการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำสายหลัก คลองส่งน้ำและประตูระบายน้ำ รวมทั้ง เสริมแนวกั้นน้ำและตลิ่ง เตรียมเครื่องสูบน้ำและเครื่องจักร เปิดทางน้ำท่วมขังลงในพื้นที่เสี่ยงต่ำ ลงทางน้ำสายหลักและรองให้ทันสถานการณ์ พร้อมทั้งเร่งกระจายเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในหลายจังหวัดที่ประสบปัญหาอุทกภัย เพื่อปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน ในชุมชนพื้นที่น้ำท่วมขังปัจจุบัน

"บิ๊กตู่" สั่งดูแลประชาชนเผื่อได้รับผลกระทบพายุมู่หลาน
 
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ติดตามการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในหลายพื้นที่ของหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้รายงานงานดำเนินงานให้รับทราบโดยต่อเนื่องทั้งส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงคมนาคม

โดยนายกฯ ได้กำชับทุกหน่วยงานที่ดูแลในเรื่องการดูแลให้ความช่วยเหลือให้เตรียมเครื่องมือ อุปกรณ์และกำลังคนให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา ขณะที่หน่วยงานที่ดูแลในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำ การพร่องน้ำจากแหล่งเก็บน้ำทั้งเขื่อน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ขอให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังพิจารณาควบคู่ทั้งความมั่นคงของแหล่งเก็บกักน้ำ ความปลอดภัยทรัพย์สินบ้านเรือน และผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกของประชาชน เนื่องจากยังเหลือฤดูฝนอยู่อีกหลายเดือนและกรมอุตุนิยมวิทยายังได้ออกคำเตือนการเกิดพายุและปริมาณฝนที่จะเพิ่มขึ้นอยู่เป็นระยะ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ล่าสุดกรมอุตุฯ ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุโซนร้อนมู่หลาน ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 10 ส.ค. 2565 เตือนผลกระทบจากพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนที่ได้ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อนมู่หลาน ซึ่งคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 11 ส.ค. ส่งผลทำให้ในช่วงวันที่ 11-13 ส.ค. 2565 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในประเทศไทย บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เตือนให้ประชาชนทั้งในพื้นที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันออกระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

“เนื่องจากประเทศไทยจะยังอยู่ในฤดูฝนและกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนการเกิดพายุอยู่เป็นระยะ นายกรัฐมนตรีห่วงใยผลกระทบที่จะเกิดต่อประชาชน ทั้งอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินและต่อพื้นที่การเพาะปลูก จึงได้กำชับขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการประสานการทำงานเพื่อให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพลดผลกระทบและเกิดความเสียหายน้อยที่สุด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

หน้าแรก » การเมือง