การเมือง
‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
‘พีระพันธุ์’ ไม่สบายใจปม ‘ข้อตกลงไทย-กัมพูชา’ ชี้ศักดิ์ศรีประเทศต้องมาก่อน พร้อมตั้งข้อสงสัยปมลงนาม ‘แร่แรร์เอิร์ธ’ จี้รัฐบาลต้องยกปัญหาสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งชาติ ลั่นพร้อมลงมือแก้ปัญหาเองอย่างเด็ดขาดถ้าอยู่ในตำแหน่งนายกฯ
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ในรายการ เรื่องนี้ต้องเคลียร์ Top Talk ทางช่อง Top News เกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงของประเทศไทยในหลายประเด็น ทั้งปัญหาชายแดนไทย ปัญหาสแกมเมอร์ ข้อกังขาการลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธ ระหว่างไทยและสหรัฐฯ รวมถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่จะเดินหน้าแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน
ในประเด็นเกี่ยวกับการลงนามถ้อยแถลงผลการพบหารือระหว่างไทย-กัมพูชา นั้น นายพีระพันธุ์กล่าวว่า ตนยังไม่ได้เห็นเอกสารดังกล่าวในรายละเอียด แต่ในฐานะคนไทยและอดีตผู้พิพากษา สิ่งแรกที่รู้สึก คือ ตนไม่สบายใจ เพราะเอกสารใช้คำว่า ‘เรา’ ซึ่งหมายความว่า ประเทศไทยยอมรับว่ามีส่วนร่วมในการกระทำ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วไทยเป็นผู้ถูกกระทำ และที่สำคัญก็คือการกระทำของกัมพูชาเป็นการโจมตีพลเรือนไทยผู้บริสุทธิ์ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาที่สมควร
“ทำไมเรื่องชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการกระทำของกัมพูชาไม่มีพูดถึงในถ้อยแถลงเลย และไม่มีข้อความใดเลยที่กัมพูชายอมรับผิดและบอกว่าจะรับผิดชอบให้ประเทศไทย มันเหมือนกับต่างคนต่างผิดด้วยกัน ผมถามว่าเราอยู่บ้านของเราแบบปกติ จู่ ๆ เพื่อนบ้านปาระเบิดเข้ามา ลูกเราบาดเจ็บเสียชีวิต มีใครพูดถึงบ้าง เราเป็นพ่อ เราจะไม่คิดถึงลูกเราเหรอ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อด้วยว่า ถ้าจะเริ่มเจรจา กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายยอมรับผิดและแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ก่อขึ้นก่อน พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยไม่มีความจำเป็นต้องยอมประเทศใด แม้แต่กัมพูชาหรือสหรัฐฯ ที่มาร่วมลงนามในถ้อยแถลงนี้ด้วย เพราะทุกประเทศมีศักดิ์ศรีเท่ากัน และศักดิ์ศรีของประเทศไทยต้องมาก่อนสิ่งใด และเชื่อว่าประเทศไทยยังสามารถเอาผิดอีกฝ่ายได้แน่นอน
“ในฐานะประชาชน ผมคิดว่าไทยกำลังถูกสหรัฐฯ ใช้เป็นเครื่องมือ กลับกันรัฐบาลไทยจะต้องเร่งสนใจดูแลประเทศและประชาชนคนไทยให้มากยิ่งขึ้น” นายพีระพันธุ์ กล่าว
สำหรับประเด็นการลงนาม MOU แร่แรร์เอิร์ธ ระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ นายพีระพันธุ์ ตั้งข้อสงสัยว่า โดยปกติแล้วหากรัฐบาลจะตัดสินเรื่องใดที่มีผลกระทบต่อคนไทย คนไทยควรมีสิทธิรู้ก่อน แต่เรื่องนี้กลับไม่มีการเปิดเผย ปิดเงียบ และมีนัยที่ผิดปกติ อีกข้อสงสัย คือ กรณีที่มีผู้ออกมาบอกว่า MOU ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งตนย้ำว่า ธรรมชาติของสัญญา คือ การสร้างผลผูกพันระหว่างกัน หากไม่ต้องการให้มีผลผูกพันทางกฎหมาย เหตุใดจะต้องทำเป็นข้อตกลง พร้อมตั้งข้อสงสัยต่อไปว่า การที่บอกว่าลงนาม MOU ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เป็นการจะหลีกเลี่ยงรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากรัฐบาลต้องการจะลงนามสร้างความร่วมมือในด้านนี้ ก็มีอีกหลายประเทศที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เช่น เยอรมัน แล้วเหตุใดรัฐบาลจึงต้องเร่งลงนามกับสหรัฐฯ เป็นการผูกมัดตัวเอง
“แร่ดังกล่าวเป็นแร่สำคัญและเป็นของคนไทยทุกคน ที่สำคัญรัฐบาลนี้มีอายุอีกแค่ 3 เดือน กับเรื่องสำคัญนี้ ทำไมต้องรีบลงนาม ทำไมไม่รอรัฐบาลใหม่เป็นผู้ตัดสินใจ” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวต่อไปว่า ในอดีตไทยเคยมีการลงนามสัญญากับสหรัฐฯ เมื่อปี 2515 ที่ขอให้คนสหรัฐฯ ที่อยู่ในไทยมีสิทธิเทียบเท่ากับคนไทย แต่เมื่อคนไทยไปสหรัฐฯ กลับไม่มีสิทธิ์เทียบเท่าคนสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯ อ้างว่าแต่ละรัฐท้องถิ่นมีกฎหมายเป็นของตนเอง รัฐบาลกลางที่ลงนามจึงไม่สามารถไปบังคับให้คนไทยมีสิทธิ์เทียบเท่าคนสหรัฐฯ ได้
ประเด็นต่อมา นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงการจัดการปัญหาสแกมเมอร์ว่า เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติที่รัฐบาลต้องเร่งยกเป็นวาระแห่งชาติ ปราบปรามให้สิ้นซาก การใช้ตำรวจอย่างเดียวไม่พอ เห็นได้จากการที่เกาหลีใต้ให้รัฐมนตรีต่างประเทศลงพื้นที่จัดการอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงการเอาจริงเอาจัง และการที่มีอดีตนายตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.คนหนึ่งออกมาพูดถึงนักการเมืองที่เกี่ยวโยงเรื่องนี้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ รัฐบาลก็ควรต้องออกมาจัดการให้ชัดเจน แต่ผ่านมาหลายวันแล้ว ตนยังไม่เห็นความชัดเจนจากรัฐบาลเลย
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐทำงานอย่างเต็มที่ ก็เชื่อว่าจะสามารถจัดการปัญหาสแกมเมอร์ได้ และหากตนอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็จะเดินหน้าจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างเด็ดขาดแน่นอน
“ถามว่าถ้าผมเป็นนายกฯ จะทำอย่างไร ผมจะไม่ปล่อยไว้แบบนี้แน่ ผมจะไปกัมพูชา ไปทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง เพราะคนไทยเดือดร้อนเช่นนี้จะให้ผมนั่งเฉยอยู่คงไม่ได้ ผมพร้อมรับผิดชอบทุกอย่างเองทั้งหมด หากมีคนในรัฐบาลไม่พอใจและอยู่ไม่ได้ ก็ไม่อยู่ เพราะหากอยู่ในตำแหน่งแล้วแก้ปัญหาให้ประชาชนไม่ได้ จะอยู่ทำไม” นายพีระพันธุ์ กล่าว
นายพีระพันธุ์ กล่าวถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยว่า ตนจะเสนอนโยบายให้ประหารชีวิตผู้ที่ทุจริตเงินแผ่นดิน เพราะข้าราชการต่าง ๆ ที่ทุจริตสมควรได้รับโทษสูงสุด
“เรื่องคอร์รัปชันเป็นมะเร็งที่ลามในประเทศไทยมานาน ดังนั้นเราจำเป็นต้องตัดมะเร็งทิ้ง และผมย้ำว่าผมจะทำจริงแน่ เพราะผมมาทำงานเพื่อประเทศและประชาชน” นายพีระพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » การเมือง
Top 5 ข่าวการเมือง ![]()
- กรมประมงเผยผลงานวิจัยเทคนิคการเพาะเลี้ยง “หอยแครง” สำเร็จ เตรียมสร้างผลผลิตลูกพันธุ์คุณภาพ ลดการพึ่งพาธรรมชาติ ต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์ 2 พ.ย. 2568
- กมธ.ต่างประเทศ วุฒิสภาลงใต้ถอดบทเรียนเมืองเก่าภูเก็ตต่อยอดนโยบายอนุรักษ์–ท่องเที่ยวสู่เวทีโลก 2 พ.ย. 2568
- "สว.มณีรัฐ เขมะวงค์" แจ้งข่าวเศร้า "คุณพ่อเสรี ทวีรัฐ" ถึงแก่กรรมอย่างสงบ 2 พ.ย. 2568
- “อนุทิน” สรุปผลประชุมอาเซียน–เอเปค นำทีมไทยแลนด์เปิดตลาดสินค้าไทย เกษตร ท่องเที่ยว นวัตกรรม 2 พ.ย. 2568
- "นราพัฒน์"โผล่! พรรครวมไทยสร้างชาติประชุมใหญ่วิสามัญ เลือก "พีระพันธุ์" นั่งหัวหน้าต่อ "ชัชวาลล์" เลขาฯ 2 พ.ย. 2568
ข่าวในหมวดการเมือง ![]()
"ดร.นิยม" ร่วมอนุโมทนากฐินสามัคคีชาวบ้านโคกก่อง พร้อมสวดมนต์ทำวัตรเย็นกับชาวพุทธกว่า 300 คน 21:40 น.- "ปลอดประสพ" น้อมรำลึก "สมเด็จพระพันปีหลวง" กับป่าไม้ของไทย 20:44 น.
- "เต้ มงคลกิตติ์" ยังไม่ตัดสินใจอนาคตทางการเมือง รอดูทิศทาง "ดร.เฉลิมชัย" ไปต่อหรือพอแค่นี้ 18:30 น.
- "ดร.มหานิยม" ร่วมงานกฐินสามัคคี 3 หมู่บ้าน อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร ทำบุญ 3 วัดในวันเดียว มุ่งทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ 17:40 น.
- “โสภณ”ลุยขับเคลื่อนนโยบาย “Quick Big Win” รวมพลังรักศรัทธาแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบบูรณาการ ลุย 4 อำเภอในจังหวัดบุรีรัมย์ หลังประกาศเร่งด่วน 4 เดือนเห็นผล 17:10 น.




