เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการสอบสวนคดีอั้งยี่และฟอกเงินในคดีพิเศษที่ 24/2568 ซึ่งดำเนินการร่วมระหว่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และคณะทำงานฝ่ายอัยการ กำลังเป็นประเด็นที่สังคมจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีข้อกังวลต่อความโปร่งใสและแรงกดดันทางการเมืองต่อกระบวนการยุติธรรม

ประเด็นแรกที่ถูกตั้งคำถามคือ บทบาทของนายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ อธิบดีอัยการกรมสอบสวนคนใหม่ มีกระแสตั้งข้อสงสัยว่าความใกล้ชิดกับฝ่ายการเมืองอาจส่งผลต่อความเป็นอิสระในการพิจารณาคดี หรืออาจก่อให้เกิดแรงกดดันต่อคณะทำงาน ขณะเดียวกันอธิบดีไม่ได้ทำหน้าที่หัวหน้าคณะทำงานด้วยตนเอง แต่กลับลงนามมอบหมายให้รองอธิบดีคนใหม่เป็นหัวหน้าชุดแทนก่อนการประชุมเพียงไม่นาน จึงถูกตั้งคำถามว่าจะสามารถรับรู้ข้อเท็จจริงที่แท้จริงของคดีได้เพียงพอหรือไม่

นอกจากนี้ มีรายงานไม่เป็นทางการว่า มีบุคคลผู้มีบารมีสูงพยายามโทรศัพท์กดดันเพื่อให้ “เป่าคดี” โดยคาดว่าต้องการแทรกแซงการสอบสวน เปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน หรืออาจทำให้พยานบางส่วนหายไปจากสำนวน ทั้งที่แหล่งข่าวยืนยันว่าพยานหลักฐานจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอ่างทองและอุทัยธานี มีความชัดเจนและเชื่อมโยงบุคคลสำคัญหลายราย

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ส่งสำนวนและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แก่คณะทำงานฝ่ายอัยการ ทำให้กระบวนการตรวจสอบยังไม่สามารถเดินหน้าได้เต็มรูปแบบ

อีกด้านหนึ่ง รายงานการประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ยังไม่ถูกส่งมอบให้คณะทำงานอัยการ ทั้งที่มีความพยายามเร่งรัดให้รีบสรุปและปิดคดีโดยเร็ว ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าการเร่งปิดสำนวนก่อนเวลาที่เหมาะสม อาจกระทบต่อความสมบูรณ์ของคดีและความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม

คดีนี้เป็นประเด็นอ่อนไหวและมีผลกระทบกว้างไกล จึงเป็นอีกเรื่องที่สังคมต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่า กระบวนการยุติธรรมจะสามารถดำเนินการอย่างอิสระ โปร่งใส และปราศจากแรงกดดันจากผู้มีอำนาจได้หรือไม่