SC Asset กวาดยอดขาย 4 เดือนกว่า 33% ของเป้าทั้งปี 

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บริษัท เอสซี แอสเสท อร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ภายใต้การเป็น Living Solutions Provider เปิดเผยว่า ตามยุทธศาสตร์ของ Thriving  ‘เติบโต บนสมรภูมิเดิม และน่านน้ำใหม่’ บริษัทได้รุกเปิด  27 โครงการใหม่มูลค่าโครงการรวม  41,200 ล้านบาทตามแผนงานปี 2565 โดยแบ่งเป็น 25 โครงการแนวราบ และ 2 โครงการแนวสูง (โดย SC และ SCOPE) ซึ่งได้เปิดโครงการแนวราบต่อเนื่องไปแล้ว 4 โครงการ  มูลค่ารวม 4,265 ล้านบาทและได้รับการตอบรับอย่างดีมาก ประกอบกับมีการจัดงาน #FeelSCcondo รวมทุกประสบการณ์ความรู้สึก 4 คอนโดคุณภาพจาก SC Asset ทำให้ 4 เดือนที่ผ่านมา บริษัททำยอดขายได้กว่า 33% ของเป้ายอดขายทั้งปี หลังจากนี้จะมีโครงการใหม่อีก 23 โครงการทยอยเปิดทั้งปี เฉพาะในไตรมาส 2 ยังมีเปิดอีกถึง 7 โครงการ จึงมั่นใจว่าปีนี้ SC จะเติบโต สามารถทำยอดขายและรายได้ที่ 22,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

โดยยอดขายมาจากโครงการที่เปิดขายต่อเนื่องด้วย ณ 31 มีนาคม 2565 มีโครงการคงเหลือขาย จำนวน 45 โครงการ  มูลค่าคงเหลือเพื่อขายรวมกว่า 25,660 ล้านบาท  บาท แบ่งเป็นแนวราบ 37 โครงการและคอนโดมิเนียม 8  โครงการ ทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ    

ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมเปิดพรีเซลส์คอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ ‘Reference Sathorn–Wongwianyai’  ดีไซน์คอนโดแนวคิดใหม่ 130 เมตรจาก BTS วงเวียนใหญ่ มูลค่าโครงการ 4,000 ล้านบาท ในช่วงประมาณเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกับในไตรมาส 4/2565 จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม 3 โครงการ ได้แก่ คอนโด The Crest Park Residences มูลค่า 3,100 ล้านบาท รวมถึงโครงการ SCOPE Langsuan  มูลค่า 8,600 ล้านบาท และ SCOPE Promsri มูลค่า 1,100 ล้านบาท

นายอรรถพล กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรก บริษัทมีรายได้รวม 3,854 ล้านบาท โดยมาจากรายได้จากการดำเนินงาน 3,827 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการขาย 94%  และรายได้จากการเช่าและบริการ 6% มีกำไรสุทธิ 388 ล้านบาทหรือคิดเป็น 10.1% ของรายได้

โดยยอดขายสามเดือนแรกทำได้ทะลุเป้า คือ มียอดขายรวม 5,285 ล้านบาท  และมียอดขายรอโอนหรือ Backlog รวม 10,151 ล้านบาท ทั้งนี้ ได้เตรียมจ่ายปันผลในวันที่ 19 พ.ค. นี้ ในอัตรา 0.20 บาท/หุ้น ”

ณ วันที่ 31 มี.ค. 65 บริษัทและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์และหนี้สินรวม 49,316 ล้านบาท และ 28,789 ล้านบาทตามลำดับ โดยอัตราส่วนหนี้สิน/ทุน 1.40