วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 17:56 น.

ภูมิภาค

พระไม่ทิ้งโยม! หลวงพี่น้ำฝน นำคณะสงฆ์พัฒนาบ้านยายทองพูน

วันอังคาร ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2561, 19.55 น.

 

  

พระไม่ทิ้งโยม!
หลวงพี่น้ำฝน นำคณะสงฆ์พัฒนาบ้านยายทองพูน

 

พระไม่ทิ้งโยม หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เยี่ยมยายทองพูน ได้กลิ่นฉี่คลุ้งเพลิงพัก นำคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม ลงพื้นที่ บูรณะปรับภูมิทัศน์พัฒนาสถานที่ พร้อมสร้างเพลิงพักใหม่ ให้ของขวัญวันแม่ ทำยายทอนพูนยิ้มหัวเราะทั้งวัน บอกไม่คิดสั้นแล้ว อวนพรให้คนมาช่วยเจริญๆร่ำรวยทุกคน

 

 
วันนี้ 14 สิงหาคม 61 หลังจากมีการเผยแพร่เรื่องราวของคุณยายทองพูน เอี๊ยวถาวร ในวัย 90 ปี ที่อาศัยอยู่ในเพลิงข้างถนนเพชรเกษม เลขที่ 14 ตำบลห้วยจระเข้ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดดใช้ชีวิตโดดเดี่ยวลำพังมานานหลายปี และสามีเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อราว 2 ปีเศษ ซึ่งการใช้ชีวิตเป็นไปด้วยความลำบากเนื่องจากยืนไม่ได้ และต้องใช้วิธีนั่งกับพื้นและยกก้นขึ้นเพื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเพื่อไปร้านสะดวกซื้อในการไปสั่งข้าวและนม ระยะทางประมาณ 40 เมตร แต่ต้องใช้เวลาไปกลับนานกว่า 1 ชั่วโมง โดยหลายคนที่พบเห็นได้นำภาพไปโพสต์ลงโลกโซเชียลจนเป็นประเด็นที่ผู้คนสนใจและเป็นข่าวในเวลาต่อมา โดยที่พักบริเวณดังกล่าว ซึ่งยายทองพูนได้อาศัยมานานกว่า 20 ปี บริเวณโดยรอบมีเศษขยะและมีเศษกิ่งไม้ที่กองอยู่ติดกับหน้าเพลิงที่พักขึ้นอยู่กับกอหญ้าที่เริ่มขึ้นรก และมีสัตว์มีพิษพวกตะขาบเริ่มเข้าไปในเพลิงพักชั่วคราวที่อยู่ริมถนนเพชรเกษม

 


ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเข้าพบกับ ยายทองพูน วัย 90 ปี ซึ่งยังนอนขดตัวอยู่บนเตียง ซึ่งพบว่าเริ่มมีข้าวของเครื่องใช้และมีคนเอาข้าวห่อมาให้ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นอาหารที่ใส่จานไว้แต่ยังกินไม่หมดกฌเริ่มบูดเสียในจานชาม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบตามข้อมูลข่าวที่ปรากฏและได้เข้าพูดคุยกับยายทองพูน ในเพลิงที่พักซึ่งมีกลิ่นปัสสาวะ และอุจาระ ในเพลิงพักคละคลุ้งไปทั่วห้อง โดยเมื่อตรวจสอบพบว่าในใกล้กับเตียงนอนยังมี คราบอุจจาระ เรี่ยลาดหลายแห่ง หลวงพี่น้ำฝนได้สอบถามถึงความเป็นอยู่และทราบว่า ยายทองพูนไม่มีลูกหลานหรือญาติมาดูแลนานแล้วจริงตามที่เป็นข่าว และวันแม่ที่ผ่านมาก็ไม่มีใครมากราบหรือมอบพวงมาลัยเหมือนเช่นหญิงที่เป็นแม่ทั่วไป จึงได้ตัดสินใจ นิมนต์คณะสงฆ์ และประสานให้เจ้าหน้าที่วัดจากวัดไผ่ล้อม ลงพื้นที่เพื่อทำการพัฒนาสถานที่ให้สะอาดและไม่รกเป็นแหล่งชุมนุมของสัตว์มีพิษ พร้อมทำกับเพลิงพักและห้องน้ำให้ใหม่ทันที

 


 พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า การได้เข้ามาพูดคุยกับ ยายทองพูน คือได้ทราบจากข่าวและเห็นว่าเป็นพื้นที่ใกล้วัดไผ่ล้อม จึงได้เดินทางมาดู และพบว่าสถานที่ที่ยายทองพูน อาศัยอยู่นั้นมีความรกไปด้วยเศษขยะไปรอบบริเวณ และภายในเพลิงก็มีกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว และเพิ่งจากทราบจากข่าว จึงได้รีบมาดู เมื่อมาเห็นแล้วก็น่าห่วงหลายเรื่อง ซึ่งเบื้องต้นหลังจากได้มีการทำความสะอาดโดยได้ประสานรถขนขยะจากเทศบาลนครนครปฐม ให้มาช่วยชนเศษกิ่งไม้กองโตออกจากหน้าเพลิงที่พัก

 


หลวงพี่น้ำฝน กล่าวอีกว่า ไม่อยากคิดว่าจะเหลือคุณยายทองพูน ที่อยู่อย่างลำพังริมถนนเพชรเกษม สอบถามแล้วก็อยู่มาก่อนถนนเพชรเกษมจะสร้าง โดยจากวันนี้ก็จะได้มีการประสานให้กลุ่มโรงเรียนผู้สูงอายุวัดไผ่ล้อม ซึ่งมีเจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลได้เข้ามาดูแลเรื่องการตรวจสุขภาพให้ก่อน และจะมีการออกมาเยี่ยมเยียนเป็นประจำเพื่อดูแลกันในระยะบาง โดยเป้าหมายหลักคือการทำให้สุขภาพของผู้สูงวัยรายนี้มีสุขภาพอนามัยที่ดีในช่วงบั้นปลายของชีวิต และภารกิจนี้ถือว่าเป็นภารกิจที่พระสงฆ์ต้องดูแลในเรื่องของสาธารณสงเคราะห์ และเรื่องการแสดงออกในเรื่องการดูแลผู้สูงอายุเป็นสิ่งที่ต้องทำและใส่ใจ เราได้ชวนยายทองพูนให้ไปอาศัยที่วัดแต่ก็ได้บอกมาว่าไม่อยากไป เพราะชอบอยู่ตรงนี้ แต่ห้องน้ำไม่มีก็จะจัดทำห้องน้ำให้ได้ขับถ่ายอย่างสะดวกหาไฟต่อเข้ามาให้ใช้เปิดพัดลมเพื่อจะได้มีคุณภาพที่ชีวิตที่ดีขึ้น และขอมอบให้ยายทองพูนจากคณะสงฆ์เป็นของขวัญวันแม่ โดยไม่มีการเรี่ยรายจากใคร พระทุกรูปแบะเจ้าหน้าที่วัดมาด้วยใจจริง ๆ และดูแล้วก็จะไม่มีการให้เงินสด เพราะอาจจะเป็นอันตรายกับยายทองพูน แต่จะมีการนำข้าวของมาให้ใช้ไม่ให้ขาดตกหล่นในระยะยาวจะเหมาะกว่า

 

 


ด้านนายประสบโชค อิสรางกูร ณ อยุธยา ชาวจังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางมาพร้อมด้วยบุตรสาว พร้อมด้วยการนำข้าวของเครื่องใช้เพื่อนำมาให้ยายทองพูน บอกว่าทราบข่าวจากโซเชียลที่มีการแชร์ออกไปจึงได้มาเพื่อจะนำของมาให้และมาให้กำลังใจ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนเองคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องให้เกิดเป็นข่าวจึงมีการเดินหน้าเข้ามาของผู้คน และภาครัฐคงดูแลไม่ไหวและทั่วถึงประชาชนเองควรจะร่วมมือกันในการดูแลคุณภาพชีวิตโดยเฉพาะผู้สูงอายุด้วย

 

ด้านนายต้อน ศรีสงสาร อายุ 79 ปี หรือ ตาต้อน อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.4 ต.กรับใหญ่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้ที่คอยดูแลยายทองพูน บอกว่า วันนี้ดีใจมากที่มีคนเข้ามาช่วยเหลือโดยเฉพาะหลวงพี่น้ำฝน ที่รู้ข่าวก็มาถึงที่และจัดการพื้นที่ให้สะอาดในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยหลังเป็นข่าวก็มีประชาชนเดินทางเข้ามาให้ของใช้มากขึ้น แต่ไม่อยากให้เอาเงินสดมาให้ หรือของแพงๆ เพราะมีขโมยแถวนี้เยอะ บางทีมีคนเอาของมาให้ในเพลิงพัก พอยายไม่อยู่ ต้องนั่งเอามือยันพื้น เพื่อไปร้านสะดวกซื้อในเวลาราว 1 ชั่วโมงกว่า ช่วงตนเองไม่อยู่ก็จะมีคนเข้ามาขโมยของแล้ว เรียกว่าทยอยมาให้ใช้เท่าที่จะใช้น่าจะเหมาะกว่า และถ้ามีเงินสดกลัวจะเกิดอันตายมาชิงเงินไป โดยตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มมีคนเอาของใช้มาให้ยายทองพูนมากขึ้น และหลายคนมาให้กำลังใจให้จต่อสู้ชีวิตต่อไปด้วย

 


ขณะที่ ยายทองพูน บอกว่า วันนี้ดีใจที่มีคนมาเยี่ยม ตอนนี้ไม่ได้อยากได้อะไร หลวงพี่น้ำฝนชวนไปอยู่วัดไผ่ล้อมและสอบถามว่าจะให้ไปอยู่บ้านพักคนชรา ซึ่งได้บอกไปว่าไม่อยากไปเพราะอยากอยู่คนเดียวตรงนี้ แต่ถ้าทำที่พักให้ใหม่ก็อยากได้ วันนี้ไม่เหงามีคนมาเยอะ มาช่วยกันให้ของใช้ ทำให้ไม่คิดสั้นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และขอขอบคุณคนที่มาช่วยทุกคนให้เจริญก้าวหน้าขอให้รวยกันทุกคนด้วย

หน้าแรก » ภูมิภาค