ภูมิภาค
โกลาหลกว่า 30 กม. น้ำมันรั่วจากรถบรรทุกเต็มถนน อุบัติเหตุลื่นไถล 5 คันรวด
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
โกลาหลกว่า 30 กม. น้ำมันรั่วจากรถบรรทุกเต็มถนน อุบัติเหตุลื่นไถล 5 คันรวด
วันที่ 16 ก.พ.62 เวลา 14.45 น. พ.ต.อ.นที สิริวรวัชร์ ผกก.สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รับแจ้งจาก ว่าที่ร้อยตรี ยอดเพ็ชร คำแสงดี รอง ผอ.แขวงทางหลวงนครพนม ว่า มีรถบรรทุก 10 ล้อ ไม่ทราบยี่ห้อ บรรทุกสิ่งของเต็มกระบะ ทำน้ำมันดีเซลหกเรี่ยราดเต็มถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (นครพนม-บ้านแพง) บริเวณสี่แยกบ้านเสียวสงคราม ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ช่วงหลัก กม.ที่ 251 ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ไถลตกถนนแล้วหลายคัน ขณะนี้รถบรรทุกคันดังกล่าวมุ่งหน้าไปทางอำเภอท่าอุเทน ขอให้ทำการสกัดเพื่อตรวจสอบด้วย
หลังรับแจ้งจึงวิทยุให้เจ้าหน้าชุดสายตรวจและจราจร ตั้งจุดสกัดบริเวณสามแยกบ้านท่าดอกแก้ว ต.ท่าจำปา อ.ท่าอุเทน พบรถบรรทุกต้องสงสัยวิ่งมา จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจสอบ ทราบเป็นรถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 80-8204 ศรีสะเกษ มีนายรักชาติ ทองลาย หรือยาว อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 277 หมู่ 4 ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นคนขับ โดยมีลูกชายนั่งมาเป็นเพื่อน ท้ายกระบะเหล็กบรรทุกสิ่งของจนเต็ม มีทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆและสุ่มใส่ไก่ชน โดยเฉพาะในกระบะมีแทงค์บรรจุน้ำมันขนาด 10,000 ลิตร พร้อมหัวจ่าย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งว่ามีน้ำมันรั่วจากแทงค์ดังกล่าว นายยาวโดดจากรถลงไปดูพบว่าบริเวณข้อต่อระหว่างวาวล์เปิดปิดน้ำมันไปหาหัวจ่าย ได้หลุดออกจากกันจนมีน้ำมันที่เหลือคาแทงค์ประมาณ 600 ลิตร ไหลเจิ่งนองเต็มท้องถนน จึงรีบหาอุปกรณ์ที่พอหาได้ปิดรูรั่วไว้ ก่อนจะควบคุมรถบรรทุกไปไว้ยัง สภ.ท่าอุเทน เพื่อสอบสวนหาสาเหตุ
นายยาวเล่าว่าเป็นคนขับรถบรรทุกรับเหมาสร้างตลิ่งริมแม่น้ำโขง ในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เมื่อเสร็จแล้วนายจ้างให้บรรทุกสิ่งของต่างๆใส่รถ ขับไปยังหน้างานใหม่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ ออกจากจังหวัดบึงกาฬประมาณ 11.00 น. โดยระหว่างทางไม่ทราบว่าน้ำมันดีเซลไหลนองถนน ตั้งแต่เมื่อไหร่ เพราะอยู่ทางด้านท้ายรถ หากอยู่ด้านข้างก็จะมองกระจกหลังเห็น และไม่รู้ว่าทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากแทงค์น้ำมันที่ตนบรรทุกมา
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ได้รับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์ลื่นไถลลงข้างทางแล้ว จำนวน 5 คัน หนึ่งในห้าคันเป็นรถกระบะของกรมทางหลวง เสียหลักกระแทกกับต้นไม้ข้างทาง ความเสียหายทั้งคัน โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ถัดไปอีกประมาณ 2 กม. พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า แค็บ รุ่นรีโว่ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บล 2506 สระบุรี มีนายรัชกูล ผิวพันธ์ อายุ 57 ปี ราษฎรบ้านโคกสว่าง ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน ขับรถออกจากบ้านเพื่อไปทำธุระในตัวอำเภอ โดยไม่รู้ว่ารถวิ่งไปเหยียบน้ำมันดีเซล แล้วส่ายไปมาก่อนจะหมุนคว้างไปชนกับต้นไม้ นายรัชกูลได้รับบาดที่แขนขวาและศรีษะ นอกจากนี้ยังมีรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไททัน 4 ประตู สีเขียว ทะเบียน 1 กม 5873 กรุงเทพมหานคร ลื่นไถลไปชนกับต้นไม้พังยับ ส่วนรถยนต์อีกสองคัน เจ้าหน้าชักลากไปไว้ที่ สภ.ท่าอุเทน ก่อนหน้านี้แล้ว
ทำให้ช่วงเวลานั้น บนถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 ตั้งแต่สี่แยกบ้านเสียวสงคราม ถึงบ้านท่าดอกแก้ว รวมระยะทางกว่า 30 กม. เกิดการโกลาหลอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตชด.237 และแขวงทางหลวงฯ ต้องทำงานกันอย่างหนัก คอยให้สัญญาณรถที่สัญจรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันแขวงทางหลวงฯก็นำรถบรรทุกน้ำมาฉีดไล่น้ำมันดีเซลให้เบาบาง พร้อมนำทรายมาโรยกันลื่นทับอีกรอบ ใช้เวลากว่า 5 ชม. ถึงกลับคืนสู่สภาพเดิม โดยมีเจ้าหน้าที่จากแขวงทางหลวงนครพนม เป็นเจ้าทุกข์แจ้งความดำเนินคดีกับนายรักชาติหรือยาวคนขับรถ ใน พรบ.ทางหลวงฯ ส่วนคู่กรณีอีก 5 คัน ต้องดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตามกฎหมายต่อไป
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
- กำนันหนึ่ง-คู่รักหนุ่ม จบชีวิตทั้งคู่ในรถยนต์ 18 เม.ย. 2567
- สุดสลด! หนุ่มขับกระบะกลับจากเยี่ยมญาติเมืองสกลนคร เสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับคาที่ยกครัว 5 ศพ 18 เม.ย. 2567
- พายุลูกเห็บถล่มนครพนม บ้านพังยับเกือบ 20 หลัง กองขาวโพลนเหมือนหิมะ 18 เม.ย. 2567
- นายอำเภอพยุห์ ขอกรณีลูกสาวเป็นบทเรียนการจัดงานเทศกาล ต้องมีการจัดช่องทางพิเศษเพื่อรถฉุกเฉิน 18 เม.ย. 2567
- สาวประกันร้องสื่อ ชิวาวาถูกบางแก้วกัดสาหัส ยังเจรจาชดใช้ไม่ลงตัว 18 เม.ย. 2567
ข่าวในหมวดภูมิภาค
- กาฬสินธุ์เริ่มแล้ว! สงกรานต์ถนนข้าวก่ำ มรดกภูมิปัญญาทรงคุณค่าคู่โลก 21:09 น.
- ระทึก! หม้อแปลงระเบิดไหม้เสาไฟ ชาวบ้านในห้างโกลาหล 20:58 น.
- อุบลฯ วัดปากน้ำ จัดงานเทศกาลสงกรานต์ นมัสการ ปิดทอง สรงน้ำ หลวงพ่อเงิน 700 ปี 20:38 น.
- รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ 20:26 น.
- ผู้สูงอายุร่วมแต่งชุดไทยย้อนยุค ชิงตำแหน่งเทพีสงกรานต์ คึกคัก 20:21 น.