แสนสุขเปิดโครงการ เพาะต้นกล้าพันธุ์ดีของสังคม
จิตอาสาพัฒนา ทำความดีเพื่อสร้างประโยชน์ต่อชุมชน

บ่ายวานนี้ โรงเรียนบ้านแสนสุข นำโดย นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข  จัดกิจกรรม ถอนกล้า ดำนาเพาะต้นกล้าพันธุ์ดีของสังคม ปีที่ 3 เพื่อหารายได้สร้างห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ศาสตร์พระราชา โดยมี ผู้บริหารระดับสูงธรรมศาสตร์เพื่อสังคม นมธ.10 และหน่วยงานภาครัฐเอกชนและเพื่อนสังคมออนไลน์ทางเฟสบุ้คของท่าน ผู้อำนวยการเอง ตั้งแต่วันที่ 19-21 กรกฎาคม 2562 ภายในกิจกรรม มีการแข่งขันจับหมู จับปลาไหล และดนตรีจ่ก มทบ.19 สร้างความสนุกสนานครื้นเครงอย่างมากมาย หลังเสร็จสิ้นภารกิจได้รับมอบงบประมาณจากการระดมทุน จำนวน 487,527.50 บาท เพื่อใช้สร้างห้องสมุดตามวัตถุประสงค์ให้เเล้วเสร็จภายในวันเกี่ยวข้าวเดือน พฤศจิกายนนี้

นายบรรจรงค์ วรเศรษฐสุขศิริ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแสนสุข กล่าวว่า  จัดการความยั่งยืน เพาะเมล็ดพันธุ์จิตอาสาพัฒนาสังคมแนวเศรษฐกิจพอเพียง  เกิดจากแนวคิดที่ให้ความสำคัญของคนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังของประเทศชาติ  โดยน้อมนำศาสตร์พระราชา หลักการเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาจัดโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3  ดำเนินการในรูปแบบค่ายเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการเป็นจิตอาสา ด้วยการคิดค้นนวัตกรรมมาพัฒนาต่อยอดให้กับชุมชน พร้อมทั้งปลูกฝังการเป็นผู้นำที่เสียสละและมีจิตสาธารณะ โครงการนี้มีนักเรียน สำหรับจิตอาสาพัฒนาแหล่งเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงวิถีเกษตรธรรมชาติ  เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อค้นหาสุดยอดค่ายอาสา ทั้งนี้จะพิจารณาเกณฑ์การตัดสินจากการใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน 4  ด้าน คือ การมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ การมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ การมีส่วนร่วมในการรับประโยชน์ และการมีส่วนร่วมในการจะพัฒนาต่อยอดให้กับชุมชนในลักษณะภาคีเครือข่าย เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้และเป็นประโยชน์ต่อชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพาะต้นกล้าพันธุ์ดีของสังคม ปีที่ 3 โดยมุ่งส่งเสริมเยาวชนโรงเรียนตามแนวชายแดนให้มีภาวะผู้นำ กล้าคิดกล้าทำอย่างสร้างสรรค์ สามารถเป็นอนาคตของชาติที่จะสร้างสรรค์สังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและยั่งยืน ที่ผ่านมามีเยาวชนเข้าร่วมโครงการไปแล้ว  หลายร้อย สามารถจัดทำโครงการที่ก่อให้เกิดสาธารณประโยชน์ต่อส่วนรวมในด้านต่างๆ ไปแล้วหลายโครงการ อาทิ การพัฒนาโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร การนำโครงการชีวะวิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนไปพัฒนาชุมชน โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการเรียนของเยาวชนในชนบทที่อยู่ห่างไกล เป็นต้น นับเป็นการสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ชุมชนท้องถิ่นและประเทศชาติอย่างแท้จริง”