วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 15:14 น.

ภูมิภาค

“ธรรมนัส”ลงพื้นที่แก้ไขภัยแล้งสุรินทร์ เร่งผู้ว่าฯตั้งคณะกรรมการแก้ไขแบบบูรณาการ

วันพุธ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 16.43 น.


“ธรรมนัส”ลงพื้นที่แก้ไขภัยแล้งสุรินทร์
เร่งผู้ว่าฯตั้งคณะกรรมการแก้ไขแบบบูรณาการ

 

สุรินทร์ รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางลงพื้นที่ แก้ไขปัญหาภัยแล้งจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกำชับ ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ หน่วยงานราชการทำงานแบบบูรณาการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และภาคการเกษตร ขุดลอกอ่างเก็บน้ำสองแห่งด้วยระบบต่างตอบแทน เร่งด่วนเพื่อกักเก็บน้ำให้มากที่สุด

 

 

วันนี้(14 ส.ค.62) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาติดตามการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจากภาวะฝนทิ้งช่วงมาเป็นเวลากว่า 2 เดือน ทำให้แหล่งน้ำดิบ เพื่อการผลิตน้ำประปา ทั้งอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง และอ่างเก็บน้ำอำปึล แหล่งน้ำดิบผลิตน้ำประปาเลี้ยงประชาชนในเขตเทศบาลเมือง และตำบลนอกเมือง แห้งขอด ไม่สามารถผลิตน้ำประปาได้ สร้างความเดือดร้อนให้กับปะชาชน เป็นอย่างและยังกระทบ กับภาคธุรกิจ ต่างในเมืองสุรินทร์ เป็นอย่างมาก นอกจากนั้นในภาคการเกษตร พื้นที่ปลูกข้าวยังได้รับผลกระทบ ต้นข้าวเหี่ยวแห้งตาย และข้าวไม่หงอกงาม มีต้นวัชพืชขึ้นเป็นคลุม ได้รับความเสียหาย

 

 

ซึ่งทางหน่วยงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ทั้งชลประทานสุรินทร์ การประปาภูมิภาค สาขาจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบกที่ 25 และเจ้าหน้าที่ทหาร กองกำลังสุรนารี ได้เร่งดำเนินการวางท่อสูบน้ำจากบ่อระเบิดหินเก่า ที่วนอุทยานพนมสวาย ระทางกว่า 12 กิโลเมตร เพื่อนำน้ำลงมาเติมให้กับอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง และยังสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำอ่างน้ำตา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ เติมลงลำห้วยเสนง ก็ยังไม่สามารถเพิ่มการผลิตน้ำประปาให้เพียงพอได้

 

 

จุดแรกที่ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยคณะเดินทางไปตรวจการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ คือที่บ่อระเบิดหินเก่า วนอุทยานพนมสวาย ต.สวาย อ.เมืองสุรินทร์ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชลประทานสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ การประปาสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ทหาร ให้การต้องต้อนรับและรายงานการดำเนินการสูบน้ำจากบ่อหินเก่า ลงมาเติมให้กับอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งได้มีการสูบน้ำจากบ่อหินเก่า จากบ่อที่ สอง ลงมาเติมให้กับอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงอย่างต่อเนื่อง หลังจากได้สูบน้ำจากบ่อระเบิดหินเก่าบ่อแรก ลงมาแล้วแต่ยังไม่เพียงพอในการผลิตน้ำประปา ซึ่งทาง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้กำชับในการหาบ่อน้ำดิบเพิ่มเติม ในการผันน้ำมาผลิตน้ำประปา จากนั้นได้เดินทางไปรับฟังการสรุปการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองสุรินทร์ ที่ประชาชนในเขตเมืองสุรินทร์ และนอกเมืองประสบปัญหาขาดน้ำเพื่อการอุปโภค และบริโภค และความคืบหน้าในการเจาะบ่อน้ำบาดาล ช่วยเหลือโรงพยาบาลสุรินทร์ ซึ่งหน่วยทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย และภาคเอกชนได้ช่วยเจาะน้ำบาดาลให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ จนกระทั่งมีน้ำเพียงพอในการ รักษาผู้ป่วย และประชาชนที่มารับบริการ จากโรงพยาบาลสุรินทร์ และปัญหาภาคการเกษตร ซึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนด้วยเช่นกัน

 

 

จากนั้นได้ปล่อยขบวนรถบรรทุกน้ำ จากหน่วยทหาร ชลประทาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ แขวงการทางสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลต่างๆในเขตอำเภอเมืองจำนวน 33 คันเพื่อนำน้ำอุปโภคบริโภค ได้สนับสนุนให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ และประชาชนในชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการขาดแคลนน้ำ จากนั้นได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสุรินทร์ ติดตามการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยขณะนี้ หน่วยทหารพัฒนา ได้ให้การสนับสนุนเจาะน้ำบาดาล และเอกชน นำน้ำดิบน้ำสะอาดมาเติมใส่แท็งค์ ให้กับโรงพยาบาลสุรินทร์ อย่างเพียงพอ ในการรักษาผู้ป่วยและให้บริการแก่ประชาชนผู้รับริการทางการแพทย์ ได้ไม่ขาดแคลน

 

 

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า หลังจากเดินทางมารับทราบปัญหาแล้วก็จะมีการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนก่อน ระยะยาวได้มีการสั่งการไปแล้ว และได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาอุปโภคและบริโภค บูรณาการ ในการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆในเขอำเภอเมืองก่อน ต่างอำเภอ อีก 16 อำเภอ เดี่ยวก็ทยอยตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะปัญหาขาดน้ำภาคการเกษตร ได้ประสานในการทำในเขตชลประทาน ก็ให้ชลประทานรับผิด ชอบ นอกเขตชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน ก็ต้องไปดูแลฝนที่ตกลงมาช่วงนี้ เป็นฝนหลวงไม่ใช่ฝนจากธรรมชาติ  ที่ตกก็จะเป็นฝนหลวง อย่างเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนที่ตกก็เป็นฝนหลวงได้ปริมาณระดับปานกลาง สำคัญที่สุดตอนนี้คือผู้ว่าราชการจังหวัดต้องไปตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำตามที่ได้ชี้แจงไปแล้ว ส่วนสถานที่ราชการขาดน้ำนั้นไม่มีปัญหาแล้วแต่ชุมชน ผู้ว่าฯต้องรับไปแก้ไข ต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนในทุกชุมชน ปัญหาน้ำขุ่นต้องแก้ไข การแก้ไขปัญหาส่วนราชต้องบูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาให้ได้ และการแก้ไขปัญหาระยะยาวก็จะมีการขุดลอกอ่างเก็บน้ำทั้งสองแห่ง และอาจต้องใช้ระบบที่เรียกว่าต่างตอบแทน ในการให้เอกชนมาทำการขุดลอก ซึ่งในระเบียบสามารถดำเนินการได้

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค