ชาวนาน้ำตาตกเจอภัยแล้ง
แล้วยังถูกโจรลักเครื่องสูบน้ำซ้ำอีก

ที่ จ.สุพรรณบุรี ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าชาวนาที่นำเครื่องสูบน้ำมาสูบจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง เพื่อส่งไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาที่กำลังจะยืนต้นตาย แต่โชคร้ายถูกคนร้ายมาลักเครื่องสูบน้ำไปอีก จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายเลียบคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง หมู่ 5 ต.ผักนาก อ.สามชุก พบชาวนาโชคร้ายชื่อนางรัชนี ขำสุวรรณ อายุ 62 ปีชาวบ้านหมู่ 5 ต.หนองผักนาก อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี

จากการสอบถามนางรัชนี เล่าว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตนพร้อมเพื่อนชาวนาได้นำเครื่องสูบน้ำซึ่งเป็นเครื่องรถไถนาเดินตามมาติดตั้งเพื่อสูบน้ำจากคลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง เข้าไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวในนาที่กำลังจะยืนต้นตายโดยมีเพื่อนชาวนาที่มาร่วมกันสูบน้ำครั้งนี้รวมจำนวน 11 เครื่องหลังจากที่ติดตั้งเครื่องสูบเสร็จและได้ติดเครื่องสูบน้ำกันตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 16 ส.ค.จากนั้นบรรดาเพื่อนชาวนาต่างพากันกลับบ้านเหลือเพียงตนคนเดียวที่อยู่เฝ้าเครื่องส่วนเจ้าของเครื่องที่สูบอยู่ด้วยกันได้วนมาดูเป็นบางครั้งกระทั่งดึกเกือบเที่ยงคืนตนง่วงนอนจึงกลับบ้านไปนอนกระทั่งใกล้ตีสองจึงตื่นมาดูน้ำเครื่องสูบเมื่อมาถึงพบว่าเครื่องสูบน้ำได้หายไปแล้วจึงโทรศัพท์ไปบอกสามีแต่ตนไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด

นางรัชนี เล่าอีกว่าก่อนหน้านี้ตนพร้อมเพื่อนชาวนาหลายตำบลหลายอำเภอที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งนาข้าวขาดน้ำต้นข้าวกำลังจะยืนต้นตายหลายหมื่นไร่จึงร่วมกันไปเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเนื่องจากภัยแล้งต่อมาได้มีผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชลประทาน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ไขจนได้น้ำเข้ามาในคลองต่างก็ดีใจจึงนำเครื่องสูบน้ำมาสูบแต่แล้วกลับถูกโจรใจร้ายมาซ้ำเติมสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรที่ได้รับความทุกข์จากภัยแล้งแล้วยังต้องมาถูกคนร้ายลักเครื่องสูบน้ำไปอีก ทั้งที่ช่วงกลางคืนก่อนที่ตนจะกลับไปนอนได้มีเจ้าหน้าที่ทั้งนายอำเภอสามชุก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นได้ร่วมกันออกตรวจตรวจดูความเรียบร้อยแต่คนร้ายกลับไม่เกรงกลัวยังกล้าก่อเหตุทั้งที่เกิดเหตุนั้นอยู่ริมถนนมีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอดทั้งคืน สำหรับเครื่องรถไถที่ถูกคนร้ายลักไปนั้นสภาพกลางเก่ากลางใหม่ราคาประมาณ 10,000 บาท