วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 23:27 น.

ภูมิภาค

ชาวบ้านร้อง ส.ส.ทวงถาม“ลุงตู่”สัมปทานเหมืองหิน ทำลายแหล่งน้ำธรรมชาติ จนท.ซิกแซกช่วย

วันจันทร์ ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 07.40 น.


เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2562 เวลา 07.00 น. นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พร้อมคณะทำงานเดินทางออกจากบ้านพักจังหวัดนครพนม ลงพื้นที่ ต.คำป่าหลาย อ.เมือง จ.มุกดาหาร เพื่อรับทราบและฟังปัญหาของประชาชนจำนวน 3 หมู่บ้าน คือ บ้านนาคำน้อย หมู่ 6 บ้านแก้ง หมู่ 5 และ บ้านโนนคำ หมู่ 13 ต.คำป่าหลาย กรณีมีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งยื่นขอประทานบัตร เข้าไปทำประโยชน์ ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติ”ป่าดงหมู” เพื่อทำเป็นเหมืองหิน จำนวน 215 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา ซึ่งบริเวณที่ขอประทานบัตรนั้นอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยมีน้ำผุดจากพื้นดินและตามซอกหิน ชาวบ้านเรียกแหล่งน้ำดังกล่าวว่าน้ำซับ ที่ไหลลงไปหล่อเลี้ยงชาวบ้านทั้ง 3 หมู่บ้าน กว่า 3,000 ครัวเรือน ใช้อุปโภคบริโภคมาแต่บรรพบุรุษ ก่อนจะไหลสู่ลำห้วยไปสมทบกับลำน้ำสาขาอื่นแล้วไหลลงแม่น้ำโขง โดยมีชาวบ้าน 3 หมู่บ้านประมาณ 1,000 คน พาเดินชี้แหล่งน้ำซับที่ไหลตลอดทั้งปีจากพื้นดินและซอกหิน ซึ่งจุดขอประทานบัตรอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้เบญจพรรณนานาชนิด ไม่ได้เป็นป่าเสื่อมโทรมตามที่นายทุนกล่าวอ้างในหนังสือขอประทานบัตรแต่อย่างใด และ นพ.ประสงค์ฯก็ลองนำน้ำที่ไหลออกมาจากพื้นดินมาดื่มก็บอกว่ามีรสชาติดีไม่กร่อยลิ้น

 


    

จากนั้นก็ไปดูตรงจุดกระจายน้ำ ที่อยู่ในที่ดินของนายดอน เนตรวงศ์ อายุ 82 ปี ราษฎรบ้านโนนคำ หมู่ 13 โดยชาวบ้านได้จัดหาอุปกรณ์ท่อพีวีซีต่อเป็นรางรองรับน้ำที่ไหลลงมา แล้วตั้งเป็นเสาสูงประมาณ 4 เมตร ติดวาล์วเปิด-ปิดน้ำ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแรงดันน้ำมาช่วย ซึ่งจุดนี้มีไว้สำหรับให้ผู้ผ่านไปมาหรือหมู่บ้านต่างๆขาดแคลนน้ำก็มาเปิดวาล์วรองน้ำไปใช้ได้ และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
    

นายดอนเผยว่าตั้งแต่เล็กจนอายุ 80 ปี ก็ใช้น้ำจากแหล่งน้ำซับใช้อุปโภคบริโภคทั้งกินและอาบ เพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ กลั่นกรองจากชั้นดินชั้นหินจนสะอาด หากมีเหมืองหินเข้ามา นอกจากจะทำลายระบบนิเวสน์แล้ว แหล่งน้ำที่พวกตนใช้มาแต่เกิดจะต้องถูกทำลายไปด้วย ดังนั้นพวกตนจึงขอคัดค้านการทำเหมืองหิน และจะปกป้องแหล่งน้ำนี้ด้วยชีวิต

 


    

ขณะที่นายใส ไชยบัน อดีตกำนัน ต.คำป่าหลาย และอดีตนายกเทศมนตรีตำบลคำป่าหลาย แฉว่าผู้ยื่นขอประทานบัตรเขียนเรื่องโกหกเสนอผู้ใหญ่ โดยมีข้าราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบางคนให้ความร่วมมือ อ้างในใบยื่นคำขอว่ามีแค่ 15 หลังคาเรือน ที่ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำนี้ เคยพาชาวบ้านไปยื่นหนังสือคัดค้านที่เทศบาลฯ  ผู้ประกอบการก็ข่มขู่ด้วยการตบที่เอวว่านี่อะไรรู้ไหม และยื่นหนังสือนี้ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารเช่นเดียวกัน หากดันทุรังอนุญาตให้ทำประโยชน์ในป่าดงหมูแห่งนี้ พวกตนจะเดินเท้าไปกรุงเทพฯหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

   

ต่อมานายสมาน คำมุงคุณ ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์น้ำซับคำป่าหลาย ยื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ผ่าน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อฯ พร้อมเผยว่าการประชาคมหมู่บ้าน มีผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น แอบปลอมแปลงลายมือชื่อของชาวบ้าน อ้างว่าเห็นชอบในการทำเหมืองหิน ขนาดคนตายไปแล้วยังลุกหลุมศพมาเซ็นชื่อได้
   

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่บ้านอย่างนางบัวคำ ไชยบัน ราษฎรบ้านแก้งหมู่ 5 นางเพ็ญ ไชยบัน บ้านนาคำน้อยหมู่ 6 และนางสมัย พันธโคตร บ้านโนนคำหมู่ 13 ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การประชาคมครั้งแรกผู้ประกอบการเอาแต่สิ่งดีๆมาพูด พวกตนลงชื่อไปเพราะบอกว่าจะมาฟื้นฟูพื้นที่ป่าดงหมู ไม่ได้คิดว่าจะมาทำเหมืองหิน มารู้ตอนหลังจึงคัดค้าน แต่ก็ยังมีการปลอมลายเซ็นไปหลอกผู้ใหญ่อีก

 


    

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีหน่วยงานหนึ่งนำพันธุ์ไม้เข้ามาปลูกในพื้นที่ป่าดงหมู บริเวณที่ขอประทานบัตร ด้วยการบังคับให้ชาวบ้านไปช่วยปลูก แต่ไม่มีใครให้ความร่วมมือ เจ้าหน้าที่หน่วยงานนั้นบอกว่างบมาแล้วต้องหาที่ปลูก ไม่เช่นนั้นจะถูกดึงงบกลับคืนคลัง ชาวบ้านจึงสงสัยว่าพวกเจ้าหน้าที่เป็นเครื่องมือให้นายทุนเหมืองหินหรือเปล่า เห็นกระตือรื้อร้นผิดปกติ
    

นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวกับชาวบ้านที่ศาลาอเนกประสงค์วัดถ้าน้ำทิพย์ บ้านนาคำน้อย หมู่ 6 ว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนก็จะยื่นเป็นเรื่องเร่งด่วนต่อสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์หน้า ตั้งกระทู้ถามสดต่อนายกรัฐมนตรี “ครั้งนั้นเป็นรัฐบาลไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง บุกทำลายสวนยางพาราอ้างชาวบ้านบุกรุกป่าสงวน แล้วให้ระบุเป็นป่าเสื่อมโทรม วันนี้เป็นรัฐบาลจากประชาธิปไตยแล้ว ท่านจะพูดคำเดิมไหม?” นพ.ประสงค์ฯกล่าว

 


     

ปัญหาดังกล่าวเคยระอุมาแล้วเมื่อปี 2561 กลุ่มอนุรักษ์น้ำซับ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กรณีมีคนของรัฐหลอกชาวบ้านเซ็นชื่อจนเสียสิทธิ์ครอบครอง จึงรวมตัวกันให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ มห.1(คำป่าหลาย)บางคน เพราะใช้คำสั่งคุกคามและพยายามจับกุมชาวบ้านที่ออกมาต่อต้านการทำเหมืองหิน พร้อมไล่ตะเพิดชาวบ้านห้ามเข้าไปหาของป่า เช่น เห็ด หน่อไม้ เป็นต้น แต่เรื่องยังคาราคาซังหาข้อยุติไม่ได้ จนมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งชาวบ้านจึงต้องการความชัดเจนอีกครั้ง จึงร้องเรียนผ่าน นพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ดังกล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค