วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 05:13 น.

ภูมิภาค

ศิษย์สุดเศร้า!สรงน้ำสรีระสังขาร “หลวงปู่บุญอุ้ม”จอมขมังเวทย์

วันอังคาร ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2562, 21.46 น.

ศิษย์สุดเศร้า!สรงน้ำสรีระสังขาร
“หลวงปู่บุญอุ้ม”จอมขมังเวทย์


    

 

วันที่ 22 ตุลาคม 2562 เวลา 16.00 น. คณะศิษยานุศิษย์ ญาติโยมตลอดจนลูกหลานร่วมพิธีสรงน้ำศพสรีระสังขาร พระครูไพศาลธรรมมงคล หรือหลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร เจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ตำบลบ้านแพง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม อายุ  64 ปี 35 พรรษา ที่ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลาประมาณ 05.09 น. เช้ามืดของวันเดียวกัน ขณะพักอยู่ภายในกุฎิวัดป่าโนนแพง หลังจากได้เข้ารับการรักษาตัวจากการอาพาธด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวที่โรงพยาบาลนครพนม

 


    

โดยพิธีสรงน้ำศพ มีพระเทพวรมุนี เจ้าคณะจังหวัดนครพนม เป็นประธานสงฆ์ และนายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานพิธี โดยมีนายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง นายดนัย สิทธิวัชระชัย นายกเทศมนตรีตำบลบ้านแพง พ.ต.อ.เกียรติปกรณ์ รวมวงศ์ ผกก.สภ.บ้านแพง มณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) และทหารพรานฯ จัดกำลังเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาร่วมสรงน้ำอาบศพ ขณะที่วิทยาลัยเทคนิคบ้านแพง นำนักศึกษาสาขาไฟฟ้า มาติดหลอดไฟส่องสว่างรอบบริเวณวัด นอกจากนี้ยังมีผู้มีจิตศรัทธา ตั้งโรงทานนำอาหาร เครื่องดื่มมาบริการ และที่ขาดไม่ได้คือแผงลอตเตอรี่แห่มาตั้งเรียงรายอยู่ใกล้กับศาลาการเปรียญ โดยเฉพาะเลข 65 ถูกกว้านซื้อไปหมดทุกแผง เนื่องจากวันที่ 23 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ หลวงปู่จะมีอายุครบ 64 ปีเต็ม ย่างเข้า 65 นักเก็งเลขจึงถือเป็นเลขเด็ดประจำงวดนี้

 

 


    

นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง เปิดเผยว่าเบื้องต้นที่ได้พูดคุยปรึกษากับลูกศิษย์ของหลวงปู่บุญอุ้ม ได้ข้อสรุปว่าจะเก็บสรีระท่านไว้ 100 วัน โดยจะมีการทำบุญครบ 7 วัน (เรียกว่าสัตมวาร) ทำบุญครบ 15 วัน (เรียกว่าปัณรสมวาร) ครบรอบ 50 วัน (เรียกว่าปัญญาสมวาร) และครบรอบ 100 วัน (เรียกว่าศตมวาร) ตามลำดับ ขณะเดียวกันก็จะมีหนังสือขอพระราชทานเพลิงศพ โดยจะประกาศกำหนดวันที่แน่ชัดอีกครั้ง
    

 

รายงานข่าวแจ้งว่าในเวลา 05.09 น. หลวงปู่สิ้นลมหายใจอย่างสงบ นกกาบนต้นไม้ ไก่ป่า หรือสุนัขในวัด ต่างส่งเสียงร้องโหยหวน เหมือนจะรับรู้ว่าหลวงปู่ได้ละสังขารแล้ว ขณะที่ญาติโยมที่พร้อมใจนุ่งห่มด้วยผ้าสีขาวมานั่งสวดมนต์ตลอดทั้งคืนรอบกุฏิ เมื่อทราบจากลูกศิษย์ว่าหลวงปู่บุญอุ้มจากไปแล้ว ต่างร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก

 

 


   

นายมหานิยม พิณราช อายุ 48 ปี ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิด กล่าวว่า  ก่อนนี้หลวงปู่บุญอุ้ม เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลนครพนม รวมถึงโรงพยาบาลที่ กทม.มาตลอด เพราะมีอาการปวดหลัง ภายหลังแพทย์ตรวจพบว่า ท่านป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว ล่าสุดช่วงปลายเดือนกันยายน มีอาการทรุดหนักจึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพนม และแพทย์ได้บอกแก่ลูกศิษย์ว่าขณะนี้ร่างกายของหลวงปู่อ่อนล้ามาก โอกาสที่จะดับขันธ์เกิดขึ้นได้ทุกวินาที ทุกคนจึงเห็นพ้องกันว่าควรนำท่านไปละสังขารที่วัดป่าโนนแพง เมื่อกลับมาถึงวัดความดันท่านดีดขึ้นมาเป็นปกติอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆลดลงตามลำดับ จนในที่สุดก็ละสังขารในเวลา 05.09 น.

 


    

สำหรับน้ำที่สรงน้ำศพหลวงปู่บุญอุ้ม จะเก็บไว้ทำน้ำพระพุทธมนต์เพื่อแจกจ่ายให้ญาติโยมผู้มีความศรัทธานำไปใช้ตามความเชื่อ ส่วนบริเวณกุฏิมีแต่ความเงียบเหงา โต๊ะที่หลวงปู่เคยนั่งคราวให้ญาติโยมเข้ากราบมนัสการ ลูกศิษย์นำผ้ามาคลุมไว้ และปิดล็อคกุฏิไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงดวงเทียนแท่งใหญ่ที่จุดส่องแสงไว้เท่านั้น
    

โดยก่อนนี้ หลวงปู่บุญอุ้ม อาภัสสโร เคยเปรยลูกศิษย์ว่าจะละสังขารตามกาลเวลาสัจธรรมของชีวิต ช่วงอายุ 65 ปี  แต่ลูกศิษย์ยังไม่ปักใจเชื่อ คิดว่าหลวงปู่บุญอุ้มพูดเปรียบเปรย และให้เข้าใจถึงสัจธรรมชีวิต ไม่คิดว่าจะมาละสังขารตามที่ท่านกล่าวไว้  ถือเป็นเรื่องเศร้าสำหรับศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากหลวงปู่เป็นที่พึ่งทางใจของบรรดาลูกศิษย์ รวมถึงผู้เคารพศรัทธา และมีคนรู้จักทั่วประเทศ ในความเชื่อเกี่ยวกับด้านคงกระพัน และเมตตามหานิยม

 

 


 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในรอบ 4 เดือน จังหวัดนครพนมสูญเสียพระเกจิอาจารย์ชื่อดังถึง 2 รูป คือ วันที่ 6 กรกฎาคม หลวงปู่สอ  ขันติโก ฉายาพระสงฆ์ 6 แผ่นดิน วัดโพธิ์ศรี บ้านบะหว้า หมู่ 10 ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปัณโณ พระเกจิชื่อดังวิทยาคมเข้มขลัง แห่งวัดพระธาตุท่าอุเทน ได้ละสังขารอย่างสงบที่กุฏิวัด รวมสิริอายุ 114 ปี 94 พรรษา และเพิ่งจะผ่านพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่ผ่านมา กระทั่งวันที่ 22 ตุลาคม หลวงปู่บุญอุ้มก็ละสังขารไปอีกรูปหนึ่ง สร้างความเศร้าสลดแก่สาธุชนยิ่งนัก

หน้าแรก » ภูมิภาค