ที่ จ.สุพรรณบุรี นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี สั่งการให้ฝ่ายปกครองสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่มาดำเนินคดีเนื่องจากขณะนี้ยาเสพติดได้แพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ต่อมานายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มอบหมายให้นายชาญศักดิ์  รอดเจริญ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัด นำกำลังร่วมกับนายมนตรี พงษ์เผือก ปลัดอำเภอศรีประจันต์ วางแผนส่งสายลับเข้าไปล่อซื้อยาบ้าและไอซ์ จากนายวิจารย์ แสงวันทอง อายุ 41 ปีหรือฉายาจารย์ปลายนา และ น.ส.นารีรัตน์ เพ็งศรี อายุ 29 ปีสองผัวเมียพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 89/1 หมู่ 3 ต.ปลายนา หลังสืบทราบว่าสองผัวเมียมีพฤติกรรมลักลอบขายเสพติดให้กับลูกค้าทั่วไปทั้งวัยรุ่นและผู้ใช้แรงงาน
 

จากนั้นได้ให้สายลับสั่งซื้อยาบ้าจากสองผัวเมียจำนวน 100 เม็ดในราคา 2,200 บาทและไอซ์ จำนวน 2 กรัมราคา 800 บาทรวมเป็นเงินจำนวน 3,000 บาทโดยนัดส่งมอบยาเสพติดกันที่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อถึงเวลานัดสายลับได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปรับยาเสพติดจากสองผัวเมียก่อนนำออกมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่รออยู่จึงบุกเข้าจู่โจมเพื่อขอตรวจค้นแต่สองผัวเมียไม่ยอมเปิดประตู เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษเปิดประตูเข้าไปพบนายวิจารย์ อยู่ในห้องน้ำกำลังแกะยาบ้าพยายามเทลงในโถส้วมแต่ไม่ทันทำให้ยาบ้าตกเกลื่อนพื้นห้องน้ำจากการตรวจค้นในห้องพบยาบ้า 572  เม็ดและตรวจค้น น.ส.นารีรัตน์ พบยาบ้าซุกอยู่ในเสื้อยกทรงอีก 400 เม็ดรวมยาบ้าทั้งหมด 972 เม็ดและไอซ์อีก 3.4 กรมจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนนายวิจารย์ ให้การรับสารภาพว่าตนและภรรยาประกอบอาชีพทำสวนผักแต่รายได้ไม่ดีจึงหันมาขายยาบ้าเนื่องจากได้เงินง่ายโดยก่อนหน้านี้ตนและภรรยาติดยาเสพติดเคยถูกจับคดีครอบครองยาเสพติดหลังพ้นโทษจึงผันตัวมาเป็นผู้ขายโดยรับ ยาบ้าดังกล่าวมาจากเอเย่นต์รายใหญ่ในพื้นที่โดยนำไปฝังดินในไร่พริกจากนั้นจะนำมาแบ่งใส่ถุงพลาสติกถุงละ 50 เม็ดเพื่อขายให้กับลูกค้าแต่วันนี้โชคไม่ดีเลยถูกจับ