ซุ่มยิงหนุ่มสวนยางอกพรุน!

เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 15 ธ.ค.62 พ.ต.ท.ลาภ คำภาพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในสวนยางพารา หมู่ 7 บ้านเกาะเรือโกรน  ตำบลนาโพธิ์ อ.สวี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วยพ.ต.อ.อุดร แก้วสุขศรี  ผกก.สภ.สวี พ.ต.ท.ถิรเดช  แข็งแรง  รอง ผกก.สส.สภ.สวี  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร.ต.อ.มานิตย์  มณฑิราช  รอง สวป.สภ.สวี  ร.ต.อ.นรินทร์  ช่วยเต็ม  รอง สวป.สภ.สวี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในสวนยางพาราห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ขาล่องใต้ประมาณ 2 กม.พบศพนายอัมรินทร์  หรือบ่าวเล็ก  ทองสกุล อายุ 45 ปี สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในสวนยางพารา ตรวจสอบถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าบริเวณหน้าอกเป็นรูโบ๋และอีก 10 รูกระจายทั่วช่วงอกและแขน เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งสอบปากคำภรรยาและคนในครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนนำศพส่งพิสูจน์โรงพยาบาลสวี

จากการสอบสวนทราบว่า เวลาประมาณ 23.30 น.ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตและนางลาวัล  นุ้ยปากช่อง  อายุ 38 ปี ภรรยาได้ออกมาตัดยางตามปกติซึ่งสวนยางอยู่ห่างจากบ้านประมาณ 100-150 เมตร โดยมีเจ้าไข่ดำ สุนัขตัวโปรดได้เดินติดตามมาด้วย หลังจากนั้นเจ้าไข่ดำวิ่งไปท้ายสวนติดกับสวนปาล์มน้ำมันพร้อมส่งเสียงเห่าเหมือนเห็นอะไรบางอย่างทำให้นายอัมรินทร์หรือบ่าวเล็ก  ถือหนังสติ๊กเดินตามเสียงไปหาเจ้าไข่ดำไม่นานได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด ทันใดนั้นได้ยิงเสียงร้องตะโกนจากนายอัมรินทร์ฯ ว่าตนเองถูกยิง นางลาวัล ซึ่งเป็นภรรยากำลังตัดยางก็ทิ้งมีดรีบวิ่งไปทันทีพบว่าสามีตนถูกยิงเลือดท่วมแต่นายนรินทร์ยังไม่เสียชีวิตจึงทั้งลากทั้งพยุงตัวมานั่งกลางสวนยางโดยที่นางลาวัลรีบวิ่งกลับบ้านขอความช่วยเหลือจากญาติๆ พอวิ่งกลับพบว่าสามีตนขาดใจตายแล้ว ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุอาศัยความมืดหลบหนีไป

ด้านนางอำไพ  ทองสกุล  อายุ 73 ปี แม่ผู้ตายให้ข้อมูลว่าเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมาลูกชายถูกกล่าวหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่นซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันและถูกดำเนินคดี ระยะเวลาที่ผ่านมาให้การปฏิเสธและสู้คดีในชั้นศาล  ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง  ทำให้ผู้ตายเตรียมจะฟ้องกลับคู่กรณีก่อนวันที่ 25 ธันวาคมที่จะถึงแต่มาถูกลอบยิงเสียชีวิตไปก่อน นางอำไพ บอกอีกว่าลูกชายตนไม่เคยมีเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่เล่าให้ฟัง ซึ่งครอบครัวตนขอความเป็นธรรมด้วย

ด้านพ.ต.อ.อุดร ฯสั่งการให้พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรัดกุมรอบคอบเพื่อติดตามหาคนร้ายรายนี้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและเช้าวันเดียวกันพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานนำกำลังลงพื้นที่เพื่อหาร่องรอยคนร้ายในจุดเกิดเหตุอีกครั้ง