วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 03:49 น.

ภูมิภาค

ที่ปรึกษา รมช.ศึกษาช่วย 2 เด็กน.ร.พี่น้องอยู่ลำพังขาดที่พึ่งพิง

วันพฤหัสบดี ที่ 06 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 11.59 น.
เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 18  บ้านดอนปู่ตา ต.หนองหมี อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ  นางมยุรี ศรีวิพัฒน์ ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบาย (ด้านการประสานงานชุมชน) รมช.กระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา  โสภณพนิช) และเป็นผู้ชำนาญการ คนที่ 2 ของศาสตราจารย์กนก วงษ์ตระหง่าน พร้อมด้วย นายชูชาติ แก้วนอก ผอ.สพม.28 นายสุชาติ เทสันตะ  ผอ.ร.ร.เบญจประชาสรรค์ นายยศพนธ์  ศรีใสย์  นายก อบต.หนองหมี  และคณะครู ร.ร.เบญจประชาสรรค์  ได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านของ ด.ญ.อาทิมา กระวานธง หรือน้องหนึ่ง อายุ 17 ปี  น.ร.ชั้น ม. 5  ร.ร.เบญจประชาสรรค์  ที่ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากว่า น้องหนึ่งและน้องชายอายุ 16 ปี  ชื่อ นายอภิวิช กระวานธง กำลังเรียน กศน. ครอบครัวแตกแยก พ่อกับแม่แยกทางกัน  ตั้งแต่เด็กทั้ง 2 คนยังเป็นเด็กเล็ก ๆ โดยเด็กทั้ง 2 คนได้อาศัยอยู่กับพ่อและยายที่อายุมากแล้ว 
 
ต่อมาเมื่อประมาณ เดือน พ.ย. 62 ได้สูญเสียคุณยายไปด้วยโรคชรา  และเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 63 ได้สูญเสียคุณพ่อไปอีกคน  เนื่องจากว่าพ่อเครียดคิดมาก ทำให้เส้นเลือดในสมองแตกเสียชีวิต เด็กทั้ง 2 คนต้องอาศัยอยู่ในกระท่อมที่มุงหลังคาและฝาบ้านด้วยผ้าไวนิลที่เป็นป้ายโฆษณาเก่า ๆ เก็บมาจากข้างถนน  และอาศัยอยู่บนที่ดินของพี่สาวของพ่อ  โดยน้องหนึ่งจะหารายได้เลี้ยงตนเองและน้องด้วยการไปเป็นคนเสริฟอาหารที่แพริมแม่น้ำมูล สะพานบ้านแก้ง ต.กุดเมืองฮาม ในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์มีรายได้วันละ 150 - 200  บาท โดยนางมยุรี  และคณะได้เดินตรวจสภาพบ้านและความเป็นอยู่ของน้องหนึ่ง พบว่า สภาพบ้านมีลักษณะคล้ายกับเป็นกระท่อม มีเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า ๆ ที่ชาวบ้านนำเอามาให้พ่อของน้องหนึ่งซ่อมและยังไม่ได้นำเอากลับไปจำนวนหนึ่ง  ภายในห้องนอนมีเสื้อผ้าเครื่องใช้และเครื่องนอนเก่ามาก  พี่น้องจะต้องนอนด้วยกันอย่างแออัดบนเตียงเก่า ๆ  เอาหมอนมากั้นกลางแบ่งที่กันนอน มีการนำเอาผ้าป้ายไวนิลมาทำเป็นฝาบ้านบังแดดฝนพอได้ซุกหัวนอนกัน 2 พี่น้อง ไม่มีอุปกรณ์ทำครัวหรือว่าเครื่องยังชีพอื่นใด ๆ ภายในบ้าน โดยมีน้องหนึ่งคอยให้การต้อนรับ ขณะที่นายอภิวิช กระวานธง น้องชายไปสอบวัดความรู้ที่ศูนย์การศึกษานอก ร.ร.อ.ราษีไศล
 
นางมยุรี ศรีวิพัฒน์  ที่ปรึกษาคณะทำงานยุทธศาสตร์และนโยบาย (ด้านการประสานงานชุมชน) รมช.กระทรวงศึกษาธิการ (คุณหญิงกัลยา  โสภณพนิช) และเป็นผู้ชำนาญการ คนที่ 2 ของศาสตราจารย์กนก วงษ์ตระหง่าน กล่าวว่า  ตนมาแล้วเห็นว่า จะต้องเร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน เพราะว่า สภาพความเป็นอยู่ดูแล้วไม่ปลอดภัย ต้องขอขอบคุณทาง ร.ร.และผู้นำชุมชนที่ช่วยกันดูแล ทำให้เด็กมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ แม้ว่าจะไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองแล้ว ก็ต้องสู้ต่อไป  สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนก็คือต้องเร่งสร้างที่อยู่อาศัย และหลักประกันในการเรียนของเด็ก ตนจะต้องรีบรายงานผู้หลักผู้ใหญ่เรื่องที่อยู่ที่อาศัย ดูสภาพแล้วไม่ปลอดภัย ตนเห็นว่าทุกภาคส่วนต้องเข้ามาช่วยกัน โดยเด็กจะต้องมีหลักประกันว่า จะต้องได้รับการศึกษาต่อและมีชีวิตอยู่ที่ไม่เสี่ยง ตนจะเร่งรายงานเรื่องนี้ให้ ฯพณฯคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.กระทรวงศึกษาธิการ และฯพณฯ จุติ ไกรฤกษ์ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับทราบเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนที่สุด  ซึ่งตนต้องฝากทางท่าน ผอ.สพม.28 และ ผอ.ร.ร.เบญจประชาสวรรค์ ให้ช่วยดูแลเรื่องหลักประกันในการเรียนต่อ ทราบว่า น้องจะเรียนต่อทางด้านพยาบาลต่อไป
 
นายชูชาติ แก้วนอก ผอ.สพม.28  กล่าวว่า เบื้องต้นตนจะร่วมกับทุกภาคส่วนดูแลในเรื่องความเป็นอยู่เพื่อเป็นหลักประกันว่า เด็กจะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนทางด้านการศึกษาเราให้โอกาสเต็มที่อยู่แล้ว รู้ว่าน้องหนึ่งเป็นเด็กเรียนเก่งผลการเรียนดี  ร.ร.เรามีระบบดูแลช่วยเหลือ น.ร.อยู่แล้ว  เข้าใจว่า คุณครูก็มาดูแลตลอด แต่ในช่วงนี้มีเหตุการณ์แบบนี้เราก็ต้องช่วยกันดูแลทุกภาคส่วน ตนจะพยายามทุกก็วิถีทางให้เค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และได้รับโอกาสทางการศึกษาตามที่เค้าต้องการ
 
นายยศพนธ์ ศรีใสย์ นายก อบต.หนองหมี กล่าวว่า เบื้องต้นเราคุยกันกับกำนัน  ผญบ.และชาวบ้านในชุมชนท้องถิ่นนี้แล้ว อันดับแรกเราจะสร้างบ้านที่อยู่อาศัยให้เด็ก  เพื่อให้เด็กมีที่อยู่อาศัยที่ถาวรปลอดภัย  คือระดมทุนบริจาคช่วยกัน บางคนมีปูน ทราย อิฐ ให้เอามาร่วมกันเพื่อจะได้ลงแขกสร้างบ้านให้เด็ก 2 พี่น้องต่อไป
 
ทางด้าน นางสาวอาทิมา กระวานธง หรือน้องหนึ่ง อายุ  17 ปี  น.ร.ชั้น ม. 5  ร.ร.เบญจประชาสรรค์  กล่าวด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยว่า ตนสูญเสียยายและพ่อ ไปแล้ว รู้สึกขาดเสาหลักของครอบครัวไป ทำให้ตนกับน้องอ้างว้างขาดที่พึ่ง แต่ยังโชคดีที่ป้าคือ นางณัฐชยา แสงมณี อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของพ่อ ให้ใช้ที่ดินสร้างกระท่อมพอได้อาศัยอยู่กับน้องชาย 2 คน ส่วนอาหารก็ได้รับความเมตตาจากเพื่อนบ้านนำเอามามอบให้กินประทังชีวิต และเงินรายได้จากการไปเป็นพนักงานเสริฟในแพอาหารเจ๊บางที่ริมฝั่งแม่น้ำมูล สะพานบ้านแก้ง ในช่วงเสาร์อาทิตย์ วันละ 150 – 200 บาท  ตนตั้งใจจะเรียนต่อพยาบาลเมื่อจบไปแล้วจะได้ใช้วิชาชีพมาให้ช่วยเหลือชาวบ้านที่ขาดแคลนยากไร้เหมือนกับตน  ซึ่งตนขอกราบขอบพระคุณท่านผู้ใจบุญทั่วประเทศที่ได้ให้การบริจาคช่วยเหลือตนและน้องชายในครั้งนี้  ตนขอสัญญาว่า ตนจะตั้งใจเรียนหนังสือเพื่อเป็นคนดีของประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ท่านผู้ใจบุญทั่วประเทศหากมีความประสงค์จะให้การช่วยเหลือเด็ก น.ร.2 พี่น้องนี้  สามารถบริจาคเงินช่วยเหลือได้ที่   ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขายางชุมน้อย  บัญชีเลขที่ 609-0-27618-6 ชื่อบัญชี  น.ส.อาทิมา  กระวานธง   โดยคณะครูของ ร.ร.จะเป็นผู้คอยดูแลการใช้จ่ายเงินของเด็ก น.ร.ทั้ง 2 คนที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมดอย่างใกล้ชิด

หน้าแรก » ภูมิภาค