วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 05:32 น.

ภูมิภาค

ศาลปกครองขอนแก่นยกฟ้อง ม.ขอนแก่นที่1 กับพวกรวม5คน ปมสรรหาอธิการบดีม.ขอนแก่น

วันอังคาร ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2563, 19.39 น.

ศาลปกครองขอนแก่น ยกฟ้อง มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ 1กับพวกรวม 5คน ปม สรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นแทนอธิการบดีคนเดิม ซึ่งหมดวาระ
 

 เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา  ที่ ศาลปกครองขอนแก่น ตามที่ศาสตราจารย์อภิรัฐ ศิริธราธิวัตร ได้ยื่นฟ้องมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ ๑ สภามหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ ๒ นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ ๓ คณะกรรมการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ 4๔รองศาสตราจารย์ ชาญชัยพานทองวิริยะกุล ที่ ๕ ผู้ถูกฟ้องคดี เป็นคดีปกครองคดีหมายเลขดำที่ บ.๑๔/๒๕๖๒ เรื่องหน่วยงานทางปกครองกระทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น บัดนี้ ศาลปกครองได้มีคำพิพากษาในคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ บ. ๕๐/๒๕๖๓ โดยได้พิพากษายกฟ้องของผู้ฟ้องคดี ความโดยสรุปว่า
    

1. มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2561 ที่มีมติเสนอรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เพื่อพิจารณา จำนวน 3 รายชื่อ โดยไม่ปรากฏรายชื่อของผู้ถูกฟ้องคดีเป็นการออกคำสั่งโดยชอบแล้ว และข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้นดังนี้ 1.1 ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าการแต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ไม่ชอบด้วยกฎหมายและมีที่มาโดยไม่ชอบศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การแต่งตั้งผู้ฟ้องคดีที่ 4 ได้แต่งตั้งก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่งอย่างน้อย 180 วัน ตามข้อบังคับและแต่งตั้งบุคคลซึ่งดำรงตำแหน่งต่างๆและมีคุณสมบัติตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วยการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น พ. ศ. 2560 ครบถ้วน เมื่อผู้ฟ้องคดี ไม่ได้กล่าวอ้างและไม่มีพยานหลักฐานมาสืบว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 มีอคติหรือมีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อให้การสรรหาอธิการบดีฯ ไม่เป็นการอย่างไรการแต่งตั้งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 จึงแต่งตั้งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้ดำเนินกระบวนการสรรหาอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น คนที่ 11 เป็นไปตามรูปแบบขั้นตอนหรือวิธีการอันเป็นสาระสำคัญตามที่ข้อบังคับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วยการสรรหาอธิการบดีมหาลัยขอนแก่น พ.ศ. 2560 โดยชอบแล้ว
   

1.2 กรณีรองศาสตราจารย์เจนจิรา เรืองชัยยะจตุพร หนึ่งในผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้มีบันทึก ขอถอนรายชื่อ การรับรองบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาอธิการบดีฯ โดยให้เหตุผลว่ากระบวนการลงคะแนนมีความ มีการลงคะแนนไว้เรียบร้อยแล้ว มิได้มีการลงคะแนนภายหลังจากการนับคะแนนอย่างเปิดเผย ซึ่งไม่มีกรรมการท่านใดทักท้วงหรือมีความเห็นเป็นอย่างอื่น จึงถือว่าการลงคะแนนโดยชอบแล้ว
   

1.3 ผู้ฟ้องคดีอ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 มีเจตนาไม่สุจริตในการให้คะแนนโดยมีกรรมการบางคนให้คะแนนโดยมีอคติชัดเจนและไม่มีเหตุผลรองรับการให้คะแนน ศาลพิเคราะห์ แล้วเห็นว่าการให้คะแนนเป็นดุลพินิจอิสระของกรรมการแต่ละคนที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม และสมควรภายใต้หลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายกำหนดศาลปกครองไม่อาจก้าวล่วงไปใช้ดุลพินิจตรวจสอบการใช้อำนาจ ในส่วนนี้ได้ และการกล่าวอ้างว่ามีการให้คะแนนโดยไม่มีเหตุผลและมีอคตินั้น เป็นคำกล่าวอ้างที่ไม่มีพยานหลักฐานที่ชัดเจน ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดี ฟังไม่ขึ้น
   

1.4 ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า ผู้ฟ้องคดีได้รับการเสนอชื่อเพื่อเข้าสู่กระบวนการสรรหาอธิการบดีคนที่ 11 โดยได้รับคะแนนจากการเลือกตั้งภายในมหาวิทยาลัยเป็นอันดับที่ 1 จากหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 35 หน่วย ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ฟ้องคดี จะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นลำดับที่ 1 หรือไม่ ไม่ใช่สาระสำคัญเนื่องจากการได้มาของตำแหน่งอธิการบดีฯ มิได้มาจากการเลือกตั้งหน่วยงานต่างๆขั้นตอนการเสนอชื่อจากหน่วยงานภายใน เป็นเพียงขั้นตอนการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีเท่านั้น ซึ่งยังมีขั้นตอนการพิจารณาจากผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ก่อนมีการเสนอความเห็นและส่งรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีไปยังผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ผลการพิจารณาของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ขึ้นอยู่กับการสัมภาษณ์และการเสนอแผนกลยุทธ์ และผลงานข้ออ้างของผู้ฟ้องคดีฟังไม่ขึ้น
    

1.5 ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า ในขั้นตอนการสัมภาษณ์และการแสดงวิสัยทัศน์ต่อผู้ฟ้องคดีที่ 4 ได้ใช้คำถามในการซักถามผู้ฟ้องคดีแตกต่างไปจากบุคคลอื่น และใช้เวลาในการซักถามผู้ฟ้องคดีน้อยกว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อคนอื่นศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าการใช้คำถามในการสัมภาษณ์เป็นดุลพินิจของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ที่จะพิจารณาตามความเหมาะสม และเวลาที่ใช้สัมภาษณ์อาจไม่ต้องเท่ากันก็ได้ ข้ออ้างของผู้ฟ้องคดี ฟังไม่ขึ้น
    

2. มติของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ในการประชุมครั้งที่ 11/2561 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 ที่มีมติเสนอชื่อรองศาสดาจารย์ชาญชัย พานทองวิริยะกุล (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5) เป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น คนที่ 11 เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 ได้ก็ดำเนินกระบวนการพิจารณาเพื่อสรรหาอธิการบดีฯโดยได้ดำเนินการตามรูปแบบขั้นตอนและวิธีการอันเป็นสาระสำคัญตามที่ข้อบังคับมหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าด้วย การสรรหา ได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่นจาก 3 รายชื่อตามที่ถูก ผู้ถูกฟ้องคดีที่ได้นำเสนอมา จึงมีมติเห็นชอบ ในการเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีฯ ได้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 เป็นการกระทำที่ชอบด้วยขั้นตอนและวิธีการตามที่กฎหมายกำหนดและเป็นดุลพินิจโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเมื่อปรากฏว่าผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 เป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือมีเหตุแห่งความไม่เป็นกลางในการพิจารณาดังกล่าวดังนั้นการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีการประชุมพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 11/2561 เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 แล้วมีมติเห็นชอบให้ผู้ได้คะแนนสูงสุดและไม่น้อยกว่า 2 ใน 5 ขององค์ประชุมได้แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 เป็นผู้สมควรได้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น และเสนอชื่อเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว จึงเป็นการพิจารณาโดยใช้ดุลพินิจโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว.

หน้าแรก » ภูมิภาค