วันพฤหัสบดี ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567 14:58 น.

ภูมิภาค

เผยภาพก่อนตายชายติดเชื้อโควิด บนรถไฟ-วัดไข้ที่สถานีหัวหินไม่พบ

วันพฤหัสบดี ที่ 02 เมษายน พ.ศ. 2563, 19.54 น.

 

วันที่ 2 เมษายน นายมนตรี ชูภู่ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเห็นหลังจากกักตัว 14 วัน จากกรณีชาว จ.นราธิวาส อายุ 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟสายใต้ก่อนถึงสถานีรถไฟทับสะแก ต่อมาตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด 19 โดยก่อนหน้านั้น ขณะรถไฟขบวนดังกล่าวจอดรับผู้โดยสารที่สถานีรถไฟหัวหินเมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม โดยระบุว่า  “จำเป็นต้องขึ้นไปช่วยผู้ป่วยบนโบกี้รถไฟจุดคัดกรองสถานีรถไฟ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เวลาประมาณ 20.00 น บริเวณชานชาลาสถานีรถไฟหัวหินได้รับแจ้งจากตำรวจรถไฟขอให้ช่วยขึ้นไปช่วย ดูแลผู้ป่วย บนตู้รถไฟขาล่องใต้  ผม พยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ได้ขึ้นไปบนโบกี้พบผู้ชายเป็นชาวมุสลิมพูดภาษายาวี ในช่วงแรกสอบสวนโรคเบื้องต้นไม่มีไข้ 36 องศา แต่อาการไม่ดีเท่าไหร่นัก สภาพร่างกายอ่อนแอ พูดน้อย แต่เรามีเวลาแค่ 3 นาที ผู้ป่วยไม่ยอมพักที่สถานีรถไฟหัวหิน จำเป็นจะต้องให้ผู้ป่วยเดินทางต่อไป เพราะไม่สามารถจะซักประวัติได้มากกว่านี้  จุดยืนบนรถไฟ น้องพยาบาลจะใกล้ที่สุด แล้วตำรวจรถไฟ เป็นผม และน้องกองการแพทย์ วันที่ 31 มีนาคมทราบว่าผู้ป่วยเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด -19  วันที่ 1 เมษายน เวลา 9.30 น.ทราบจากผู้ว่าราชการจังหวัดในที่ประชุมที่เทศบาลแจ้งว่าผู้ป่วยติดโควิด19 รายที่ 13 วันที่ 1 เมษายน เวลา 10.00 น . เริ่มกักตัว จากการสอบสวนของโรงพยาบาลหัวหินผมและทีมที่ขึ้นไปบนรถไฟ ยังไม่เข้าข่ายของการกักตัว แต่เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจ ท่านนายกสั่งการให้กักตัวที่ 14 วันครับ”

 

 

โดยนายมนตรีได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าวันที่เกิดเหตุได้ขึ้นไปตรวจผู้โดยสารบนขบวนรถไฟดังกล่าวร่วมกับ เจ้าหน้าฝ่ายสาธารณสุข เทศบาลเมืองหัวหิน และ ตำรวจรถไฟ พบเห็นชายคนดังกล่าว ท่าทางไม่ค่อยดีคล้ายคนป่วย จึงให้เจ้าหน้าที่ทำการวัดไข้แต่ไม่พบ ทีแรกตั้งใจจะนำตัวลงส่ง รพ.หัวหิน แต่จังหวะช่วงรถไฟจอดพักแค่ 3 นาที  ยังไม่ทันได้ตัดสินใจชายคนดังกล่าวก็นั่งรถไฟต่อไปแล้ว จนทราบว่าชายคนดังกล่าวติดเชื้อโควิดและเสียชีวิตบนรถไฟ เรื่องนี้ตนระวังอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจและไม่ให้กังวลใจกับเพื่อร่วมงาน จึงกักตัวอยู่กับบ้านตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข

 

 

นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการผู้เกี่ยวข้องในศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดบริหารจัดการพร้อมแก้ไขปัญหา กรณีชายชาว จ.นราธิวาส อายุ 57 ปี เสียชีวิตบนรถไฟในพื้นที่ อ.ทับสะแก โดยขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และขอให้ถือเป็นบทเรียนหรือกรณีศึกษาเป็นครั้งแรกในประเทศ โดยให้เจ้าหน้าที่มีการป้องกันตนเองที่รัดกุม เพราะไม่ทราบว่าผู้ที่ประสบเหตุรายใดที่เสียชีวิตมีการติดเชื้อโควิด 19 หรือไม่ โดยจะต้องจัดหาอุปกรณ์ป้องกันตนเองให้กับเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ชีพกู้ภัยใช้สำหรับปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัยมากที่สุด เนื่องจากขณะนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัด( อบจ.) เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) สามารถใช้งบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ป้องกันเพื่อสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิกู้ภัยได้ ทั้งนี้จังหวัดจะเชิญประธานมูลนิธิฯทุกแห่งหารือเพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกัน

 

 

“เพื่อไม่ให้มีปัญหาในทางปฏิบัติช่วงที่มีโรคะระบาด ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการทีมแพทย์ฉุกเฉินของหน่วยงานรัฐต้องเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัย หรือเข้าไปตรวจสอบพร้อมกับมูลนิธิกู้ชีพกู้ภัย ที่สำคัญหากพบผู้ประสบเหตุเสียชีวิตจากเหตุใดก็ตาม เจ้าหน้าที่ต้องนำศพส่งไปชันสูตรและเก็บรักษาที่โรงพยาบาลจนกว่าญาติจะไปรับเพื่อนำไปประอบพิธีทางศาสนา ห้ามนำไปเก็บไว้ที่มูลนิธิอย่างเด็ดขาดเหมือนที่เคยปฏิบัติในอดีต นอกจากนี้ จังหวัดจะมีมาตรการเพิ่มเติมในการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 เช่น การจำกัดเวลาการจำหน่ายของร้านสะดวกซื้อ มาตรการควบคุมการเข้า-ออก ของชาวต่างชาติในพื้นที่ มีการจัดทำคำสั่งของศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดฯ เป็น 2 ภาษา ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ สื่อสารไปยังชาวต่างชาติในพื้นที่ให้รับทราบมาตรการของทางจังหวัด” นายภิรมย์ กล่าว.

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค