วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 23:48 น.

ภูมิภาค

โอละพ่อ! แม่ค้าหอยพลิกคำเข้าข้างตร. ก่อนหนีออกตจว.รอกลับตอนเรื่องเงียบ

วันเสาร์ ที่ 06 มิถุนายน พ.ศ. 2563, 20.04 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า จากกรณี ที่นางสาวสุนิสา จีนเกลี้ยง หรือสา อายุ 32 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลสด ร้องขอความเป็นธรรม กับผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง หลังจากที่เธอโดนจับกุม หลังจากกลับมาจากรับ หอยและ ปู ปลาทู ในพื้นที่จังหวัดตรัง และเดินทางกลับบ้านที่พัทลุง ในช่วงเคอร์ฟิวร์ โดยเหตุเกิดพื้นที่ อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อคืนวันที่2 ผ่านมา
 

โดยนางสาวสุนิสา จีนเกลี้ยง หรือสา อายุ 32 ปี เล่าว่าก่อนเกิดเหตุ ได้กลับมาจากรับชื้อกุ้ง ปู และหอย มาจาก จ.ตรัง มุ่งหน้าเข้าบ้านในพื้นที่ เมืองพัทลุง แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจค้นและจับกุมนำตัวส่ง โรงพักเมืองพัทลุง พร้อมยึดโทรศัพท์มือถือไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม มีระดับสารวัตรนายดาบตำรวจ พร้อมตำรวจฝึกงาน เมื่อมาถึงที่โรงพัก ข้อได้ขอคุยโดยบอกเธอว่าเจอหลายกระทง แต่ขอให้ไปเคลียกับสารวัตร โดยเรียกเงิน 80,000 บาท เธอไม่มี ขอลดให้ เหลือ 40,000 บาท เธอบอกว่าไม่รู้จะเอาเงินจากไหน สุดท้าย ขอ10,000 บาท โดยเธอไม่มีเงินสด ได้ขอยืมจากญาติของสามี มาได้ 5700 บาท แต่ก็ไม่ครบ ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ไปเบิกเงินมาจากตู้เธอบอกว่าไม่มีบัตรเอทีเอ็ม ขอโอนทางโทรศัพท์ โดยผ่านบัญชีดาบตำรวจชุดจับกุมไป แต่เงินไม่ครบจำนวน10,000 บาท ทางชุดจับกุมได้ต่อรอง เอาปู หอย กุ้ง ที่อยู่ในรถ คิดเป็นเงิน 4,300 บาท จนครบ พร้อมบอกอย่าได้เอาเรื่องนี้ไปบอกใคร และเมื่อโอนเงินเสร็จ สุดๆตรงที่ตำรวจชุดนี้ กำลังนั่งกินเหล้ากันอยู่ และให้เธอนั่งแกะหอยนางรมให้พวกเขากินจนหลังเที่ยงคืนกว่าจะได้กลับบ้าน
 

ขณะที่เธอยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้เธอกลัวสุดๆหลังจากตำรวจชุดดังกล่าวโทรมาขู่และคุกคามหลังมีการแชร์ในโลกโซเชียน
 

ด้านพล.ต.ต.กฤษดา แก้วจันดี ผบก.ภจว.พัทลุง กล่าวว่าเบื้องต้นได้ทราบจากสื่อแล้ว พร้อมทาง ผกก.สภ.เมืองได้รายงาน เข้ามา โดยให้รอง ผบก.ภจว.พัทลุง ลงติดตามเรื่องนี้ พร้อมระบุว่าหากเป็นไปตามพยานหลักฐาน จริงตามที่เป็นกล่าวจะดำเนินคดีตามระเบียนและกฎหมาย จะไม่ไว้อย่างแน่นอน

 

ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นล่า สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมแม่ค้าหอย ได้โทรเจรจาตกลงโดยมีคริบเสียงที่บันทึกได้ กลับคำให้การเข้าข้างเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเสียงบันทึกการพูดคุยกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สรุปได้ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เอาตัวเธอกับครอบครัวให้ไปอยู่ต่างจังหวัด และรับดูแลอย่างดี จนกว่าเรื่องจะเงียบ
 


และสอดคล้องกับความเป็นจริงเมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปที่บ้านหลายครั้งพบว่าบ้านรถยนต์ของครอบครัวไม่ได้จอดอยู่ที่บ้านพักและไม่สามารถติดต่อได้

หน้าแรก » ภูมิภาค