จากกรณีเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมาแม่วัย 26 ปีขโมยชุดนักเรียนเเละรองเท้านักเรียนให้ลูกใส่ไปโรงเรียนในวันเปิดเรียนวันแรก วันที่ 1 กรกฎาคม 2563โดยเหตุเกิดในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง พื้นที่ อำเภอหลังสวน จ.ชุมพร เพราะความยากจนเนื่องจาก สามีและตนเองตกงานไม่มีงานทำด้วยพิษการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 และถูกเจ้าหน้าที่ของห้างดังกล่าวจับกุมตัวไว้ได้พร้อมเรียกตำรวจดำเนินคดี แต่มีลูกค้ารายอื่นมาเห็นและเกิดความสงสารเห็นใจจึงช่วยเหลือชำระค่าสินค้าที่ถูกขโมยพร้อมทั้งวอนให้ปล่อยตัวไม่ดำเนินคดีทางกฎหมาย ต่อมาตำรวจได้เพียงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานก่อนปล่อยตัวไปตามที่เป็นข่าวแล้วนั้น

 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 นางสาววัลภา แก้วสวี  พัฒนาสังคมเเละความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร  มอบหมายให้ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดชุมพร  และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชุมพรประสานผู้นำชุมชนในพื้นที่ ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงและให้ความช่วยเหลือครอบครัว และบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าแก่แม่เด็ก 

 

พบว่าปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านนายจ้าง ในเขตพื้นที่ อำเภอทุ่งตะโก จ.ชุมพร  มีบุตร จำนวน4 คน  กำลังศึกษาอยู่ทั้งหมดได้แก่  บุตรคนโตอายุ 11 ปี เรียนชั้นป.4  บุตรคนที่2 อายุ 9 ปี เรียนชั้น ป. 3 บุตรคนที่ 3 อายุ 7 ปี เรียนชั้น ป.1  บุตรคนที่ 4 อายุ 5 ปี เรียนชั้น อ.2 

 

จากการสอบสวนทราบว่า หญิงสาวคนดังกล่าวและสามีประกอบอาชีพรับจ้างกรีดยาง มีรายได้รวมกันเดือนละ 4,000-5,000 บาท ครอบครัวมีฐานะยากจน ช่วงที่ผ่านมาครอบครัวขาดรายได้เนื่องจากฝนตก ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้เต็มที่ วันเกิดเหตุมีเงินติดตัวเพียง 200 บาท แต่มีความจำเป็นต้องซื้อชุดนักเรียนให้บุตร จึงทำให้ต้องตัดสินใจขโมยชุดนักเรียนเเละรองเท้านักเรียน ดังกล่าว 

 

ด้านหน่วยงานของจังหวัดชุมพรจึงพิจารณาให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นดังนี้  1.พิจารณาช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยเเละผู้ไร้ที่พึ่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น เป็นเงิน 3,000 บาท   2. แนะนำและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการฝึกอาชีพหรือหาอาชีพเสริมเพิ่มเติม เพื่อหารายได้ให้มากขึ้น พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจกับครอบครัวด้วย