วันที่ 20 ตุลาคม 63 นายนพพร อุสิทธิ์ ว่าที่ผู้สมัครตำแหน่ง นายก อบจ.ชุมพร ได้ฤกษ์เปิดแถลงข่าวประกาศสู้ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.ชุมพร พร้อมตั้งทำการเปิดศูนย์อำนวยการการเลือกตั้ง “ทีมพลังชุมพร” ณ เลขที่ 29 ซ.เมืองชุมพร 21/1 ม.1 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยเป็นศูนย์อำนวยการ  อย่างเป็นทางการ ต่อสื่อมวลชน

โดยนายนพพร อุสิทธิ์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นลูกหลายคนชุมพรโดยกำเนิดเกิดในอำเภอท่าแซะ โดยในวัยเด็กเรียนจบชั้นประถมศึกษาจากโรงเรียนบ้านในโสม อ.ท่าแซะ แล้วไปเรียนต่อที่โรงเรียนบ้านหินแก้ว อ.ท่าแซะ จากนั้นก็สอบเข้าเรียนที่โรงเรียนศรียาภัย แล้วไปเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และมาเรียนต่อปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยบ้านสมเด็จฯ และได้รับโอกาสทำงานให้เข้ามาทำงานการเมืองมาตั้งแต่ปี 2547 จากการสนับสนุนจากนายชุมพล จุลใส หรือที่คนรู้จักกันในนาม สส.ลูกหมี พรรค ปชป.ซึ่งเป็นน้องชายภรรยา โดยสมัยแรก ได้ลงสมัครเป็นสมาชิก อบจ.และสมัยที่สองก็ได้รับการเลือกตั้งและได้มานั่งในตำแหน่งประธานสภาอีกสมัย และในสมัยที่สามก็ยังคงได้รับการเลือกตั้งอีกครั้งและคงนั่งในตำแหน่งประธานสภา จนกระทั่งได้เกิดเหตุวุ่นวายทางการเมือง ก็ได้ ดำรงตำแหน่งตามคำสั่ง คสช.จนถึงปัจจุบัน

นายนพพร กล่าวว่า ต่อมาได้มีการเลือกตั้ง สส.ทางนายก อบจ.ชุมพร คือนายสุพล จุลใส หรือ ลูกช้าง ซึ่งเป็นพี่ชายของภรรยา ได้ลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.หันมาลงสมัครลงเลือกตั้ง สส.ในนามของพรรครวมพลังประชาชาติไทย และได้รับการเลือกตั้ง เป็น สส.ของพรรค ในเขต 3 ตนเองซึ่งเดินเส้นทางการเมืองมานาน หลังจากที่ทางรัฐบาล กำหนดจะจัดให้มีการเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่น โดยเริ่มจากระดับจังหวัด(อบจ.)ก่อน และคิดว่าจะลงสมัครลงเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.เพื่อสานต่อในการพัฒนาจังหวัดชุมพรให้ต่อเนื่อง จึงได้คัดสรรตัวผู้บริหาร และผู้สมัครแต่ละเขต จนลงตัวหมดครบทุกพื้นที่ และลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเพื่อทำการบ้านทันที โดยไม่รอการประกาศอย่างเป็นทางการ
               
นายนพพร กล่าวต่อว่า แต่จนแล้วจนรอด ทางรัฐบาลได้ยกเลิก โดยอ้างว่า ไม่มีงบประมาณ และเลื่อนจะให้จัดการเลือกตั้งประมาณเดือนมีนาคม 63 และล่าสุดก็กำหนดให้มีการเลือก อบจ.ในเดือนธันวาคม 63 ที่จะถึงนี้ แต่ทางรัฐบาลจะให้มีการเลือกตั้งหรือจะเลื่อนอีกหรือไม่นั้น ตนเองไม่สามารถจะคาดหวังได้ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะลงสมัครเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.จึงไม่ได้คิดย่อท้อ และยังตั้งใจแน่วแน่ที่สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.จึงได้ถือโอกาสฤกษ์งามยามดีของวันนี้ เปิดศูนย์อำนวยการ และเปิดตัวทีมงาน ในนามทีมพลังชุมพร  อย่างเป็นทางการ พร้อมชูนโยบาย ปรับฐาน สืบสานและต่อยอด 9 พลังชุมพร ต่อสื่อมวลชนดังกล่าว

นายนพพร ยังกล่าวอีกว่า   สำหรับนโยบายของทีม“พลังชุมพร”ประกอบด้วย  1.พลังบ้านพ่อ  คือ พัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ  2.พลังเศรษฐกิจขุมชนฐานราก คือแผนแม่บทชุมชนคือ 1 ตำบล 1 ล้าน ,3.พลังการศึกษา  คือตั้งมีศูนย์ประสานเครือข่ายอุดมศึกษา และ มหาวิทยาลัย จ.ชุมพร 4.พลังจิตอาสา คือต้องพัฒนาศักยภาพเครือข่ายของผู้นำ-จิตอาสา -เยาวชนและ อสม. ,5.พลังการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชน 1 ตำบล 1 แหล่งท่องเที่ยว  6.พลังการบริหาร คือต้องยกระดับการบริหารงานด้วยความโปร่งใสและมีมาตรฐานสากล ,7.พลังกีฬา คือประสานเพื่อยกระดับในพัฒนากีฬา ด้วยการจัดสร้าง 1 อำเภอ 1 สนามกีฬามาตรฐาน ,8.พลังเกษตรอินทรีย์  คือส่งเสริมเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ มุ่งเน้นในการสร้างความปลอดภัยด้านอาหาร และ 9.พลังโครงสร้างพื้นฐาน  คือการก่อสร้าง ซ่อมแซมถนน ซ่อมสะพาน และจัดสร้างแหล่งน้ำ  
             
นายนพพร กล่าวต่ออีกว่า ทั้งหมดทั้งมวล เป็นแนวคิดในการระดมสมองของผู้ทรงคุณวุฒิ ระดับนักวิชาการ และอดีตผู้บริหารระดับอำเภอ ในจังหวัดชุมพร ที่ลงสำรวจตลอดจนสอบถามความต้องการ และฟังปัญหาในแต่ละพื้นที่ และมาผนวกรวมกับยุทธศาสตร์จังหวัด เพื่อให้นโยบายดังกล่าว เป็นไปตามความต้องการและแก้ไขได้ตรงจุดที่สุด อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมพรอย่างยั่งยืนต่อไป