วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 20:34 น.

ภูมิภาค

วอนผู้ใจบุญช่วย สาวใหญ่เส้นโลหิตแตกป่วยติดเตียง สามีขาพิการไร้อาชีพทำกิน

วันจันทร์ ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 20.29 น.
วันที่ 16 พ.ย.63 เวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.ภัคนันท์ เจริญศรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/1 ม.2 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นหลานสาวของ น.ส.วีรวรรณ ฮ้อเจริญ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/39 ม.5 ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา สาวใหญ่ผู้มีอาชีพเป็นแม่ครัวในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อวันที่ 7 ต.ค.63 ที่ผ่านมา
 
จนทำให้กลายเป็นผู้ป่วยไร้สตินอนติดเตียงไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อยู่ภายในห้องเช่าบ้านเลขที่ 22 ม.4 ต.ท่าข้าม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราว่า อยากให้ผู้มีจิตเมตราในสังคมเข้ามาให้การช่วยเหลือแก่นางวีรวรรณ ผู้เป็นน้าของตนด้วย เนื่องจากญาติพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมาก 10 คน ไม่มีใครเข้ามาสนใจดูแลปล่อยให้อยู่กันแต่เพียงลำพังร่วมกับสามี
 
คือ นายคำพันธ์ จำนงการ อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่บ้านเลขที่ 13 ม.13 ต.ซับไม้แดง อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นผู้พิการถูกตัดขาขวาจากอุบัติเหตุ 1 ข้าง ซึ่งปกติมีอาชีพขับรถเร่ขายไอศกรีม แต่หลังจากทางฝ่ายภรรยาล้มป่วยลงจนกลายเป็นผู้พิการป่วยติดเตียง เมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา จึงยังไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพทำกินได้ตามปกติ
 
เนื่องจากต้องคอยดูแลภรรยาในการให้อาหารทางสายยาง เปลี่ยนผ้าอ้อม และให้ยารักษาโรคความดันเบาหวาน ในทุกๆ 4 ชม. จึงทำให้ไม่มีรายได้มาใช้จ่ายเป็นค่าอาหารผู้ป่วย ค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป และค่าเดินทางไปพบแพทย์ รวมถึงยังขาดแคลนเงินประทังชีวิต ขณะที่ทั้งสองคนยังมีภาระค่าใช้จ่าย ที่ยังต้องผ่อนค่างวดรถ จยย. สำหรับใช้ขายไอศกรีมเดือนละ 2 พันบาท และค่าเช่าห้องรวมกับค่าน้ำค่าไฟอีกประมาณ 3 พันบาท
 
ที่ผ่านมาตนเองซึ่งเป็นบุตรของพี่สาวคนโตของ น.ส.วีรวรรณ ได้พยายามเข้ามาให้การช่วยเหลือแล้ว แต่ในระยะยาวนั้นตนเองอาจจะไม่สามารถที่จะประคับประคองทั้ง 2 คนต่อไปได้อีกนานเท่าใด เนื่องจากตนเองพร้อมด้วยสามี คือ นายอุเทน ยนทะวงษ์ อายุ 40 ปีนั้น ก็มีอาชีพรับจ้างแบบหาเข้ากินค่ำ จึงเกรงว่าในระยะยาวอาจจะแบกรับภาระไม่ไหว จึงอยากวิงวอนผู้คนที่มีจิตใจเมตรา หรือผู้ที่ใจบุญมาให้ความช่วยเหลือต่อน้าสาวของตนด้วย
 
หรือหากจะช่วยเหลือเป็นเงินประทังชีวิต คนละเล็กน้อยนั้นสามารถโอนผ่านบัญชีธนาคาร ธกส. เลขบัญชี 016652670096 สาขาวังพิกุล จ.เพชรบูรณ์ ของนายคำพันธ์ จำนงการ เนื่องจากขณะนี้ทั้งสองคนยังไม่มีที่พึ่ง และยังไม่ได้รับการช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานรัฐ แม้แต่เบี้ยยังชีพคนพิการก็ยังไม่มี เนื่องจากตนเองได้พยายามไปเดินเรื่องให้แล้ว แต่ทาง อบต.คลองนา ระบุว่า
 
น้าของตนจะต้องมีหนังสือรับรองทางการแพทย์ว่าเป็นผู้พิการจาก รพ.ของรัฐ มายื่นเป็นหลักฐานประกอบเรื่อง แต่เนื่องจากหลังเกิดเหตุเส้นเลือดในสมองแตกผู้เป็นน้าได้ถูกส่งเข้าไปทำการรักษายังใน รพ.เอกชน ตามสิทธิ์การรักษาประกันสังคมเดิม ซึ่งสิทธิ์การรักษากำลังใกล้จะหมดอายุลงในเดิน ธ.ค.63 นี้แล้ว จึงไม่สามารถนำใบรับรองแพทย์ไปแจ้งขอรับเบี้ยยังชีพคนพิการจากทาง อบต.ได้
 
ขณะที่ญาติพี่น้องซึ่งเกิดมาร่วมท้องเดียวกันรวม 10 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน เหลือ 9 คนนั้นไม่มีใครสนใจที่จะเข้ามาให้การช่วยเหลือ เนื่องจากไม่มีใครอยากรับภาระ ที่จะต้องมาคอยดูแลผู้ป่วยติดเตียง ส่วนตนนั้นเห็นว่าอย่างไร น.ส.วีรวรรณ ก็เป็นน้าที่คลานตามหลังแม่ของตนมาในท้องเดียวกันเป็นคนที่ 8 โดยมารดาของตนเป็นพี่สาวคนโต แต่ก็เกรงว่าจะรับภาระต่อไปในระยะยาวไม่ไหว จึงอยากร้องขอความช่วยจากผู้ที่มีเมตราใจบุญผ่านทางสื่อมวลชนในครั้งนี้ น.ส.ภัคนันท์ กล่าว
 
ด้าน นายอุเทน สามีของ น.ส.ภัคนันท์ ซึ่งเป็นหลานเขย กล่าวว่า หลังจาก น.ส.วีรวรรณ เส้นเลือดในสมองแตกจนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้ถูกทางเจ้าของห้องเช่าเดิมที่เคยเช่าอยู่ย่าน ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ผลักไสให้ออกมาจากห้องพัก หลังจากตนพาไปหาหมอกลับมา เพราะเกรงว่า น.ส.วีรวรรณ จะมาเสียชีวิตลงยังภายในห้องเช่าของเขา ตนจึงได้พากันมาหาห้องเช่าแห่งใหม่ยังที่ ต.ท่าข้าม นี้ ซึ่งยังมีคนใจดีเป็นยายเจ้าของห้อง ที่ยังมีความเมตราให้เข้ามาเช่าอยู่อาศัยเป็นที่ซุกหัวนอนต่อไปได้
 
แต่เกรงว่าต่อไปในระยะยาวอาจจะไม่มีเงินค่าเช่าจ่ายให้แก่เขา จึงได้ออกมาขอความช่วยเหลือในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน ทราบว่า น.ส.วีรวรรณ ได้เคยซื้อบ้านไว้ที่ ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับพี่สาวคนติดกัน คือ คนที่ 7 แต่กลับไม่มีใครยอมรับเขากลับไปอยู่ด้วย ทั้งที่เขาน่าจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปอยู่อาศัย ได้ แต่ทางพี่สาวของเขารายนี้ได้รับอุปการะบุตรชาย ซึ่งเป็นลูกติดกับสามีเก่าวัย 17 ไว้ในความดูแลแล้ว ซึ่งผู้เป็นพ่อของเด็กยังคงส่งเสียให้อยู่บ้าง
 
ทั้งที่เดิมที น.ส.วีรวรรณ เป็นคนรักพี่รักน้อง คอยช่วยเหลือจุนเจือแก่พี่น้องมาโดยตลอดทุกคน เพราะเขาเป็นคนมีความคล่องตัวสูง ไม่ว่าจะไปติดต่องานอะไรเจรจาอะไรเดินเรื่องเอกสารอะไร มักจะทำสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว และมักเป็นที่พึ่งของญาติพี่น้อง แต่พอมาเจ็บป่วยเป็นผู้ป่วยติดเตียงในวันนี้ กลับไม่มีใครสนใจเข้ามาดูแล หรือรับกลับไปเลี้ยงดูบ้าง นายอุเทน กล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค